เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศรศักดิ์ ทองมี ผกก.สน.ห้วยขวาง และการควบคุมของ พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เข้าจับกุมกลุ่มบุคคล 3 คน ที่ร่วมกันใช้ “บัญชีม้า” ถอนเงินจากตู้ ATM ย่านประชาสงเคราะห์ 30 ใกล้ตลาดห้วยขวาง หลังได้รับแจ้งจาก War Room ศปอส.บก.น.1
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยกำลังทำธุรกรรมถอนเงินสดผิดปกติ จึงรุดเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณตู้ ATM หน้าธนาคารกสิกรไทย (ติดกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาประชาสงเคราะห์ 30) พบกลุ่มบุคคล 3 คน ยืนอยู่ตรงตามที่ได้รับแจ้ง จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจสอบและควบคุมตัวมายัง สน.ห้วยขวาง
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ
– นายจิรภัทร (อายุ 20 ปี)
– น.ส.สุดารัตน์ (อายุ 26 ปี) และ
– น.ส.ผกาวัลย์ (อายุ 32 ปี)
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้ร่วมกันถอนเงินจากบัญชีของ นายนรินทร์ (อายุ 47 ปี) ไปแล้ว 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 50,000 บาท ก่อนที่บัญชีจะถูกอายัดและเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสด 50,000 บาท, บัตร ATM 2 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพและเปิดเผยถึงสาเหตุที่มาทำหน้าที่เป็น “บัญชีม้า”
– นายจิรภัทร (ผู้กดเงิน) ให้การว่าตนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต กำลังหาเงินค่าเทอม จึงหางานจากอินเทอร์เน็ตจนได้รับการติดต่อผ่านทางแชท โดยได้รับคำสั่งให้นำบัตร ATM ไปกดเงิน ซึ่งเขามีหน้าที่กดเงิน และได้กดไป 2 ครั้ง รวม 50,000 บาท ก่อนจะถูกจับกุม
– น.ส.สุดารัตน์ (ผู้ประกบ นายจิรภัทร) ให้การว่าตน มีปัญหาด้านการเงิน จึงหาเงินกู้จากอินเทอร์เน็ตและได้รับการติดต่อให้มาทำงานนี้ โดยมีหน้าที่คอยประกบนายจิรภัทรขณะกดเงิน และจะได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ คือ กดเงิน 100,000 บาท จะได้ค่าจ้าง 1,000 บาท
– น.ส.ผกาวัลย์ (ผู้ประกบ น.ส.สุดารัตน์) มีวิธีการติดต่อหางานคล้ายกับ น.ส.สุดารัตน์ คือหาเงินกู้ และมีหน้าที่คอยประกบ น.ส.สุดารัตน์ อีกทอดหนึ่ง โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์เช่นกัน คือ กดเงิน 100,000 บาท ได้ค่าจ้าง 1,000 บาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายมิจฉาชีพที่อยู่เบื้องหลังการใช้บัญชีม้าต่อไป