ไม่อยู่แล้ว!คนชายแดนศรีสะเกษ-สุรินทร์ อพยพพ้นพื้นที่ผวาสู้รบแตกหัก

ชาวบ้าน อ.พนมดงรัก และอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อพยพออกนอกพ้นที่แล้ว เช่นเดียวกับ อ.กันทรลักษ์และอ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หลังมือถือส่งสัญญาณเตือนจากแม่ทัพที่ภาค 2 เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าวางใจจาเหตุการณ์แม้ว่าเหตุทหารไทยปะทะเดือดที่”ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จังหวัดศรีสะเกษได้ยุติลงแล้วก็ตาม

ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.พบว่ามรสัญญาณเสียงเตือนดังหลายครั้งในโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่อำเภอติดชายแดนไทย=กัมพูชา พร้อมส่งข้อความเตือน มีใจความว่า”แจ้งอพยพออกนอกพื้นที่การสู้รบ 07-11-2025 16:04:24 น.ขณะนี้เกิดเหตุสู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ

ขอให้ผุ้อยู่ในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก อ.กาบเชิง อ.สังขะและ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ อพยพออกจากพื้นที่ชายแดนไปยังพื้นที่พักพิงชั่วคราว หรือพื้นที่ปลอดภัยที่ราชการกำหนดหรือติดต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่และที่ว่าการอำเภอ เพื่อนัดหมายและอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางราชการกำหนด  ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการในพื้นที่อย่างเคร่งครัด สอบถามรายละเอียด โทร 1784 DDPM”

หลังจากประชาชนได้สัญญาณเตือนดังกล่าว ขณะที่ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ได้ประกาศให้ชาวบ้านเตรียมพร้อม สิ่งของ สำภาระจำเป็นต่างๆไว้ในรถยนต์ หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น ก็พร้อมอพยพออกได้ทันที ซึ่งให้รอคำสั่งจากอำเภอ และผู้นำชุมชนอีกครั้ง ส่วนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการและเด็ก ให้อพยพออกไปก่อนได้เลย

ขณะที่ชาวบ้านปวงตึก ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กำลังมีการประชุมประจำเดือนอยู่ หลังมีข้อความเข้าในโทรศัพท์มือถือ ทางผู้ใหญ่บ้านได้ยกเลิกประชุมทันที และให้ชาวบ้านรีบกลับบ้านไปเตรียมสัมภาระสิ่งของจำเป้นต่างไว้ เพื่อเตรียมพร้อมอพยพ จะประกาศให้ทราบอีกครั้งหากมีคำสั่งให้อพยพ

ชายแดนอีสานระส่ำ!อพยพวุ่นหลังทหารไทย-เขมรปะทะเดือดที่”ภูผาเหล็ก”

ประชาชน 4 จังหวัดชายแดนเริ่มอพยพวุ่นหลังทภ.2 เตือน 4 จังหวัดชายแดน สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ แจ้งอพยพประชาชน ไปยังศูนย์พักพิง หลังเหตุปะทะทหารไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เมื่อเวลา 14.16 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงในพื้นที่บริเวณ ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน ส่งผลให้ฝ่ายเราจำเป็นต้องดำเนินการโต้ตอบ โดยเกิดการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มใช้ปืนไร้แรงสะท้อน(ปรส.)

ต่อมาในเวลา 14.50 น. การปะทะได้ยุติลง อย่างไรก็ตาม หน่วยในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน อำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยัง ศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชน เพื่อความปลอดภัย.

ขณะที่ชาวบ้านติดชายเเดนเขาพระวิหารเริ่มอพยพออกจากพื้นที่แล้ว หลังจากมีการปะทะทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย ซึ่ง กองทัพภาคที่ 2 แจ้งชาวบ้านตามแนวชายแดน 4 จังหวัดอพยพไปยังศุนย์พักพิง เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยังศูนย์พักพิงตามแผนอพยพประชาชนเพื่อความปลอดภัย…

ด่วน!ปะทะเดือดที่ “ภูผาเหล็ก” กำลังพลบาดเจ็บ 2 นาย ไทยตอบโต้เขมรตามกฎปะทะ

เกิดการปะทะ ที่ ภูผาเหล็ก กำลังพลได้รับ บาดเจ็บ 2 นาย ไทยตอบโต้ตามกฎการปะทะ เผยภูผาเหล็ก พลาญหินแปดก้อน ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษอยู่พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ล่าสุด “ทภ.2” ระบุ ฝ่ายไทยควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว นำผู้บาดเจ็บ 2 นาย ส่งรักษาเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.68 เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” รายงานข่าวด่วนล่าสุด แจ้งเหตุ เกิดการปะทะพื้นที่ภูผาเหล็ก กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทหารไทยตอบโต้ตามกฎการปะทะ ทั้งนี้ ภูผาเหล็ก พลาญหินแปดก้อน ชายแดนไทย-กัมพูชา  จ.ศรีสะเกษ อยู่พื้นที่กองทัพภาคที่ 2  

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางเพจ “กองทัพภาคที่ 2” ได้โพสต์แจ้งเหตุการปะทะดังกล่าว ระบุว่า ด่วน เหตุปะทะชายแดน ภูผาเหล็ก ฝ่ายเราตอบโต้ตามกฎการปะทะอย่างได้สัดส่วน ฝ่ายเราควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันคุมพื้นที่มั่นคง พร้อมนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 นาย เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนหน่วยปฏิบัติตามกฎการปะทะเคร่งครัดและคงกำลังเฝ้าระวังพื้นที่อย่างใกล้ชิด

เพจกองทัพภาคที่ 2 รายงานเหตุการณ์ปะทะดังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ปะทะ พื้นที่ภูผาเหล็ก/พลาญหินแปดก้อน เกิดขึ้นเมื่อเวลา14:15น.หน่วย พัน.ร.13 (ฉก.1) ปะทะกับทหารกัมพูชา โดยกัมพูชาได้เปิดฉากการยิงด้วยกระสุนปืนเล็กมายังฝ่ายเรา
ทำให้ผ่ายเรามีผู้บาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ (ป.6พัน.6)และ พลฯ พรชัย จำปาจุม (ร.6พัน.3)

เวลา14:16น.ฝ่ายเราทำการยิงอย่างต่อเนื่องตามกฎการปะทะอย่างได้สัดส่วนฝ่ายตรงข้ามเริ่มใช้อาวุธ
ปรส.แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งหน่วยเตรียมพร้อมเต็มรูปแบบ

เวลา14:50น.การปะทะ ยุติลงหน่วยยังคงเผ้าระวังสถานการณ์ และรักษาความพร้อมอย่างใกล้ชิด

เวลา14:53น.ลำเลียงผู้บาดเจ็บถึง บก.โดนเอาว์เพื่อรักษาพยาบาลต่อ

ฟุตบอลชายไทย ซ้อมเข้มต่อเนื่อง, วีชั่น เชื่อปรับตัวได้ดีขึ้นหลังได้โอกาสลงสนาม

ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ลงทำการฝึกซ้อมต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อม สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายในมหกรรมซีเกมส์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่สอง ที่จะพบกับ สิงคโปร์

การฝึกซ้อมครั้งนี้เน้นไปที่การทบทวนคอนเซปต์ต่างๆรวมถึงการแก้ไขสถานการณ์ หลังจากที่ช่วงสายของวันได้มีการเข้าห้องฟิตเนส และลงสระว่ายน้ำ

ก่อนการฝึกซ้อม วีชั่น อินอร่าม”ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยในการลงเล่นนัดแรกและ เขินๆ ยังมีความกล้าๆกลัวอยู่บ้าง ผมคิดว่าตัวผมน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น ถ้าหากได้โอกาสลงสนามอีกครั้ง เพราะเราได้โอกาสลงไปแล้ว น่าจะทำได้ดีขึ้น”

“สำหรับการเล่นทีมชาติ มีความแตกต่างเรื่องความกดดัน มากกว่า ฟุตบอลนักเรียนอยู่ครับ เกมต่อไปกับสิงคโปร์ พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีเกมรับที่ดี เล่นตามแทคติก เราก็มองว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ดี ที่ผ่านมา โค้ชก็โฟกัสที่ระบบมากกว่า เพราะสิงคโปร์ มีเกมรับที่เหนียว ก็พยายามซ้อมตามแพทเทิร์น ขอให้แฟนบอลมาเชียร์กันเยอะๆ เพราะถ้าชนะเกมนี้เราก็จะเข้ารอบรองฯ แน่นอน”

“การทำงานกับโค้ชโชคที่เป็นอดีตกองหลัง แกก็แนะนำเรื่องการสกัดบอล เคลียร์บอลว่าต้องทำให้ขาดทีเดียว อย่ากั๊ก เป้าหมายกับสิงคโปร์ ก็ย้ำว่าต้องชนะต้องชนะอย่างเดียว”

สำหรับ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง พบกับ สิงค์โปร์ ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสด ทาง PPTV HD 36 และ แอพพลิเคชั่น True Vision NOW

#FAThailand #ฟุตบอลทีมชาติไทย #ฟุตบอลไทย #บอลไทย #ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ #ซีเกมส์ #SEAGamesThailand2025

“นิกกี้-โอม-เจแปน” นำทัพคนดังบุก Asia Road Racing สนามช้างฯ

ศึกสองล้อสุดยิ่งใหญ่แห่งทวีป รายการ Asia Road Racing Championship 2025 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ สนามที่ 6 ชิงแชมป์ประจำฤดูกาล ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 5-7 ธ.ค. 2568 ที่ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ แฟนความเร็วร่วมชม-เชียร์กันอย่างสนุกกับการไล่ล่าชัยชนะส่งท้ายปีในโฮมเรซของนักบิดคนโปรด รวมทั้งนักบิดไทย อาทิ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ และ “ตี” อนุภาพ ซามูล ที่นำทัพลงชิงชัย

ส่งท้ายปีด้วยกิจกรรมพิตวอล์คสุด Exclusive บรรยากาศในพิตเลนคึกคักและประทับใจ ศิลปินคนดัง นำโดย “นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์”, “โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี” พระเอกขวัญใจวัยรุ่น ที่สนใจในกีฬาการแข่งรถจักรยานยนต์อย่างมากและทำผลงานดีเยี่ยมจากสนามชิงแชมป์ประเทศไทยที่ผ่านมา ได้นำทัพแฟนคลับมากมาย มาสัมผัสบรรยากาศการทำทีมแข่งระดับเอเชียอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังมี คู่หูสุดป่วน “เจแปน ภานุพรรณ” และ “นาย เดอะ คอมเมเดี้ยน” มาสร้างเสียงหัวเราะและสีสันที่พิตเลน รวมทั้ง “โดโรธี เพ็ทโซลด์” นางแบบและอินฟลูเอนเซอร์สาวสวย ควงคู่มากับแฟนหนุ่ม “เอเลียส ดอเลาะ” แข้งคนสำคัญแห่งทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มาเติมเต็มความสนุกในสุดสัปดาห์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกนี้ด้วย

กิจกรรมพิตวอล์ค แฟนความเร็ว ยังได้ใกล้ชิดกับนักบิดดาวดังจากทั่วโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมพบกับกองทัพพริตตี้สาวสวยเซ็กซี่ขยี้ใจจากทีมแข่งต่าง ๆ ที่มาประชันความงามอย่างเต็มพิกัด ทั้งยังได้ร่วมสนุกรับของพรีเมียมจากนักแข่งคนโปรดมากมาย อาทิ สติ๊กเกอร์, โปสเตอร์, พวงกุญแจ, พัด, ร่ม, ถุงผ้า, เสื้อ, หมวก ฯลฯ บัตรชมการแข่งขันทุกประเภทสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

สนามตัดสินแชมป์นี้ได้รับความสนใจอย่างสูงจากแฟนความเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากความสำเร็จของการจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตตลอดปีที่ผ่านมาของสนามช้างฯ ซึ่งได้เป็นเครื่องชี้ชัดถึง อัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตไทย ที่พัฒนาอย่างแข็งแกร่งทั้งระบบและบุคลากร ไม่เพียงแต่ในสนามแข่งขันเท่านั้น แต่รวมถึงศักยภาพการจัดงานระดับโลก

ในส่วนของการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย รายการเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง จึงเป็นอีก กลไกสำคัญในการยกระดับมาตรฐานนักแข่ง ทีมแข่ง และบุคลากรไทยให้ทัดเทียมสากล พร้อมกันนี้ยังช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอย ในภูมิภาคอย่างมหาศาล และเป็นบันไดสำคัญในการ ตอกย้ำให้ประเทศไทยพัฒนาเป็นศูนย์กลางมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก และเป็น ‘หมุดหมายสำคัญ’ บนปฏิทินการแข่งขันที่แฟนความเร็วจากทั่วโลกต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต

แฟนความเร็วสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ Asia Road Racing Championship และ Chang Circuit Buriram

ขบวนเมตตาโคราชถึงหาดใหญ่แล้ว ส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์สู่มือผู้ประสบภัยภาคใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ขบวนลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์จากมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ได้เดินทางถึงอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เรียบร้อยแล้ว หลังฝ่าระยะทางกว่า 1,300 กิโลเมตร เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้

ภารกิจลำเลียงครั้งนี้นำโดย นายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิ และนายศิวัช เตียเจริญวรรธน์ รองประธานคนที่ 1 ซึ่งประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและอปพร.หาดใหญ่ เพื่อเร่งกระจายสิ่งของจำเป็น เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม ผ้าอ้อม เสื้อผ้า และอุปกรณ์ทำความสะอาด ไปยังชุมชนที่ยังถูกน้ำท่วมและเข้าถึงยาก

หลังการมอบสิ่งของ นายกิตติศาสตร์กล่าวว่า “ชาวโคราชตั้งใจส่งพลังน้ำใจมาให้พี่น้องชาวใต้ เรามาไกลแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับการได้เห็นสิ่งของถึงมือผู้เดือดร้อนจริง ๆ”

เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดเมตตาโคราชยังคงปฏิบัติภารกิจต่อเนื่อง โดยเตรียมลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในอำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ความช่วยเหลือครอบคลุมมากที่สุด.

นายประสิทธิ์ วนะชกิจ รายงาน

.

Pinehurst Golf Club – จุดหมายที่หัวใจทุกดวงของครอบครัวจะได้ “สวิง” ความสุขไปพร้อมกัน

Pinehurst Golf Club – จุดหมายที่หัวใจทุกดวงของครอบครัวจะได้ “สวิง” ความสุขไปพร้อมกัน ตอกย้ำ คอนเซปต์! สนามกอล์ฟต้องรองรับคนทุกกลุ่ม ลุยจัดแข่งขัน PINEHURST  GOLF LADY  SEASON  2 สุดประทับใจ

ครั้งหนึ่ง คำว่า “ไปเล่นกอล์ฟอีกแล้วเหรอ” คือเสียงคุ้นเคยของหลายครอบครัว

แต่ที่ Pinehurst Golf Club & Hotel คำถามนั้นได้เปลี่ยนเป็น “ เมื่อไหร่เราจะไปด้วยกัน? ”

ที่ Pinehurst Golf Club & Hotel คำถามนั้นได้กลายเป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความคาดหวังว่า“เมื่อไหร่เราจะไปด้วยกัน?” เพียงหนึ่งชั่วโมงจากกรุงเทพฯ สนามกอล์ฟแห่งนี้ได้พลิกภาพลักษณ์จาก “สนามสำหรับนักกอล์ฟ” ให้กลายเป็น “จุดหมายแห่งการพักผ่อนของทั้งครอบครัว” สถานที่ที่เวลาหมุนช้าลง ธรรมชาติโอบล้อม และทุกคนได้ค้นพบช่วงเวลาที่เป็นของตัวเอง

 Pinehurst ถูกจัดอันดับใน Top 10  Family-friendly Golf Destinations in Thailand จากชาวต่างชาติ

เพราะ เราเชื่อว่า “กอล์ฟ” ไม่ได้เป็นเพียงกีฬา แต่คือประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทุกหัวใจทุก Generation  เข้าด้วยกัน โดยเทียบจากสถิติของผู้มาใช้บริการพบว่า นักกอล์ฟและครอบครัวใช้เวลาเฉลี่ย 4–6 ชั่วโมงต่อครั้ง  ซึ่งนานกว่าสนามทั่วไปถึงเกือบเท่าตัว เพราะทุกคนมีมุมของความสุขให้เลือกทำได้โดยไม่ต้องรอ นอกจากนี้ อ้างอิงจากข้อมูลนักท่องเที่ยว ที่เป็นนักกอล์ฟชาวต่างชาติ (Golf Tourism Insight 2024) สนามกอล์ฟ Pinehurst ในสายตาชาวต่างชาติ  ทั้งจาก เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน เลือกให้ Pinehurst ให้เป็นหนึ่งในสนามโปรดของพวกเขา โดยพบว่า

– นักกอล์ฟจากเกาหลีที่นิยมเล่นยาว 18–27 หลุม
– นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชมความแม่นยำของกรีน
– หรือครอบครัวชาวจีนที่หลงรักสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

Pinehurst จึงได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน “สนามกอล์ฟที่เหมาะกับครอบครัวที่สุดในประเทศไทย” ด้วยคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ย 9.2 เต็ม 10 ทั้งในด้านคุณภาพสนามและสิ่งอำนวยความสะดวก    นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา Pinehurst ยังได้รับการจัดอันดับใน Top 10 Family-friendly Golf Destinations in Thailand โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

คุณกรณ์ภัสสร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานที่ปรึกษา ไพน์เฮิร์สท กรุ๊ป กล่าวว่า “เรามุ่งพัฒนาสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท “ภายใต้นโยบายของ คุณโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการบริษัท ซัมมิท ไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ จำกัด ที่มุ่งมั่นพัฒนา Pinehurst เพื่อให้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟชั้นนำระดับแนวหน้าของประเทศไทย ทั้งในด้านคุณภาพ ความสวยงาม และความเป็นมิตรกับทุกเจเนอเรชันของนักกอล์ฟ”

“เราปรับเปลี่ยนรีดีไซน์ LAY OUT สนามอย่างต่อเนื่อง ให้ทุกครั้งของการเล่น “ไม่เหมือนเดิม” เพราะการปรับเลย์เอาต์สนามอยู่เสมอ จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกกับเกมการเล่นในทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเก่าก็จะตื่นเต้นไปกับความเปลี่ยนแปลง หรือผู้เล่นใหม่ก็ได้รับประสบการณ์กอล์ฟที่สนุกสนานและเร้าใจ   ไพน์เฮิร์สท ยังเป็นสนามกอล์ฟ 27 หลุม  ที่มีมาตรฐานระดับแชมเปียนชิพ ด้วยเทคโนโลยีการบำรุงรักษาระดับญี่ปุ่น ได้รับการดูแลอย่างละเอียดทุกตารางนิ้ว ให้สปีดของกรีนคงที่และแม่นยำในทุกหลุม   นอกจากนี้เรายังรองรับสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศยามค่ำ Pinehurst ยังเปิดบริการ ไนท์กอล์ฟ (Night Golf) ให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของกีฬากอล์ฟภายใต้แสงดาว

จุดที่โดดเด่นของเราที่เหนือกว่า คือที่ไพน์เฮิร์ทส มีโรงแรมระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟ การผสานธรรมชาติ ความสงบ และการต้อนรับอย่างอบอุ่น   รายล้อมด้วยวิวกรีนเขียวชอุ่มสุดสายตา ทำให้คุณสามารถมาพักผ่อนพร้อมทำกิจกรรม ร่วมกับเพื่อนๆ หรือดิวงานธุรกิจ โดยไม่ต้องห่วงการเดินทางไป-กลับ หนึ่งวันแห่งความสุขที่นี่… สามารถเกิดขึ้นได้ในที่เดียวโดยไม่ต้องขับรถไปไหนอีกเลย   โรงแรมระดับ 4 ดาวของเรา จึงออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง  ถ้าคุณลองจินตนาการได้ถึงเช้าวันหยุดที่จะได้สัมผัส

-​ตื่นเช้ามาพร้อมอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อน ๆ ซ้อมวงสวิง ออกรอบ 18 หลุม

-​ในขณะเดียวกันครอบครัวได้ผ่อนคลายที่สปา หรือออกกำลังกายที่ ฟิตเนส ทำงานในคาเฟ่วิวกรีน  และ Co-working Space บรรยากาศเงียบสงบ พร้อมกาแฟหอมกรุ่นและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

-​เที่ยงกลับมาทานอาหารร่วมกัน ก่อนออกรอบต่ออีก 9 หลุม

-​ค่ำลงกับมื้อเย็นและเสียงหัวเราะอบอุ่น  ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ที่เดียว โดยไม่ต้องขับรถไปไหนอีก

-​คุณภาพระดับพรีเมียมในค่าบริการที่เข้าถึงได้

 – สำหรับองค์กรหรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมมนาในรูปแบบใหม่ Pinehurst ยังมี ห้องประชุมและแพ็กเกจ Team Building ที่ผสมผสานการเล่นกอล์ฟกับกิจกรรมสร้างทีมได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ โรงแรมใน Pinehurst ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ การต้อนรับแขกคนสำคัญ ทั้งนักธุรกิจ คู่ค้าต่างชาติ เพื่อนฝูง หรือแขกพิเศษของครอบครัว เพราะที่นี่ให้บรรยากาศที่เรียบหรู สงบ พร้อม Facility ครบครัน ที่สามารถสะท้อนรสนิยมของผู้เป็นเจ้าบ้านได้อย่างงดงามค่ะ

ประสบการณ์ระดับพรีเมียม ในค่าบริการที่เข้าถึงได้

“ถึงแม้ Pinehurst ต้องลงทุนด้วยเทคโนโลยีและบริการระดับสากล แต่เรายังเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นว่าไม่ว่าคุณจะเป็นคนวัยไหน  ทั้งนักกอล์ฟมืออาชีพ นักกอล์ฟมือใหม่ แก๊งส์เพื่อนที่อยากมาชิลกับ Facility ของไพน์เฮิร์สท ครอบครัวที่อยากพักผ่อน หรือองค์กรที่มองหากิจกรรมเสริมสัมพันธ์   เราพร้อมมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมในค่าบริการที่เป็นมิตร”

ล่าสุดเราได้จัดงาน PINEHURST  GOLF LADY  SOCIETY SEASON  2 ไปเมื่อวันก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จมากๆ สุภาพสตรีทุกอาชีพ ทุกวัย มารวมตัวเล่นกอล์ฟกันอย่างสนุกสนาน   ทั้งได้ออกกำลังกาย ได้พบเจอเพื่อนฝูง ได้เจรจาธุรกิจ และได้มา Enjoy ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ  เพราะเราเชื่อและต้องการให้ที่นี่คือหมุดหมายที่จะรวมความสุขของทุกคนในครอบครัวไว้ในที่เดียว  Pinehurst Golf Club & Hotel จะเปลี่ยนสนามกอล์ฟให้เป็น ‘Family Destination’ สถานที่ที่ เวลาหยุดเดิน เพื่อให้สนามกอล์ฟ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้สุภาพบุรุษ มาออกรอบนัดเจอเพื่อนๆหรือธุรกิจ

คุณกรณ์ภัสสร ลุยไปกับสาวๆในงาน เลดี้กอล์ฟ

แต่เรามีนโยบายว่า ไพน์เฮิร์สท ต้องรองรับทั้งชาย หญิง หรือเด็กๆ ได้  คนที่มาที่นี่จะสามารถเสาะหาความสุขจากสิ่งรอบตัวได้ง่ายๆและครบครัน  เพื่อนฝูงหรือครอบครัว ทุกคนจะได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ท่ามกลางธรรมชาติ ความสงบ และความสุขที่เรียบง่ายแต่ล้ำค่า เพียง รังสิต จ.ปทุมธานี ขับรถจากกรุงเทพฯ ไม่ถึงชั่วโมง แต่ที่นี่… จะมอบประสบการณ์ใหม่ให้ทุกหัวใจในครอบครัวได้ “สวิง” ความสุขไปพร้อมกันค่ะ”  คุณกรณ์ภัสสร กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่      เว็บไซต์: www.pinehurst.co.th      

โทรศัพท์: 02-516-8679-84

Facebook Page: https://www.facebook.com/Pinehurst.Golf.Thailand    

IG: https://www.instagram.com/pinehurstgolf.hotel        

LINE: @pinehurstline

#pinehurstgolfclub #GolfSociety #GolfConnection #ไนท์กอล์ฟรังสิต #สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท #Golf #GolfCourse

กองทัพภาค 3 สนธิทุกฝ่ายลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยแนวชายแดนแม่สอด 24 ชม.

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2568 ศูนย์ปฎิบัติการ กองทัพภาค ที่ 3. (ศปก.ทภ.3.) สั่งการให้กองกำลังนเรศวร( กกล.นเรศวร ) โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู ) จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ร่วมกับ ตำรวจ สภ.แม่สอด,กองร้อยตำรวจตระเวณชายแดน 346.  ฝ่ายปกครอง  อส.อ.แม่สอด, และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน( ชรบ.)  ร่วมกันออกทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบตลอดพื้นที่แนวชายแดนไทย=เมียนมา  บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.เเม่สอด จ.ตาก ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งกลางวันและกลางคืน ในห้วงมีเหตุการณ์การสู้รบภายในประเทศเมียนมาใกล้แนวชายแดนไทย เพื่อตรวจตราดูแลความเรียบร้อย สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อผลกระทบจากการสู้รบ บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชนฝั่งไทยที่พักอาศัยอยู่ติดแนวชายแดนออกไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยตามบ้านญาติ พี่น้อง เป็นการชั่วคราว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากสถานการณ์การสู้รบดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากมีการสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมาร์กับฝ่ายต่อต้านทำให้มีลูกกระสุนปืนค และกระสุนปืนเล็กล้ำเข้ามาตกในเขตไทยจนทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายและมีชาวบ้านคนไทยได้รับบาดเจ็บจากอาวุธปืนหนักยิงมาตกฝั่งไทย

.

อลังการ!นั่งชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาชิงช้าสวรรค์ “ASIATIQUE SKY”สูงที่สุดในประเทศไทย

เครื่องเล่นเปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 16:00 – จุดขายบัตรปิดให้บริการ 23:30 น. *ASIATIQUE SKY (ชิงช้าสวรรค์) บัตรเข้าชม (ต่างชาติ,คนไทย) 500 บาท / เด็กสูงไม่เกิน120 cm.= 200 บาท /ผู้พิการ  250 บาท /ผู้สูงอายุ 300 บาท (อายุ60ปีขึ้นไป) / VIP Cabin ( 1-5 คน มีเครื่องดื่มให้) 5,000 บาท / *Mystery Mansion (บ้านลึกลับ) บัตรเข้าชม (ต่างชาติ,คนไทย) 300 บาท / งดให้บริการกับเด็กส่วนสูงต่ำกว่า 120 cm . *Carousel (ม้าหมุน) ราคา 150 บาท

 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FaceBook : Asiatique Sky

เปิดแล้ว!สถานีรถไฟใหม่”ลพบุรี 2” วิ่งทางคู่ ถึงนครสวรรค์ ทะลวงคอขวดสายเหนือ

“มัลลิกา”สั่ระฆังเปิดสถานี “ลพบุรี 2” สถานีแห่งใหม่ ทางคู่สายเหนือ”ลพบุรี – นครสวรรค์” จัด Shuttle Bus เชื่อมสถานีเดิมฟรี 3 เดือน ดัน เฟส 2 สายใต้ 3 เส้นทางเข้าครม.ธ.ค.นี้ เติมโครงข่ายเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์  

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดใช้สถานีรถไฟลพบุรี 2 สถานีรถไฟแห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรี โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพโดยมีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หน่วยงานภาครัฐและเอกชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม โดย ขบวนรถท่องเที่ยว Royal Blossom ได้เข้าเทียบชานชลา เป็นปฐมฤกษ์ เวลา 12.00 น. ขณะที่ มีประชาชน ที่ต้องการเดินทางได้เข้าซื้อตั๋วและรอขึ้นขบวนรถตามตารางเวลาอีกด้วย

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะ “ระบบราง” ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ จังหวัดลพบุรีเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เป็นทั้งศูนย์กลางการคมนาคม ที่เชื่อมโยงภาคกลางกับภาคเหนือ เป็นแหล่งเกษตรกรรมและเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่แห่งนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว

สถานีลพบุรี 2 อยู่ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ซึ่งก่อสร้างแยกออกจากแนวเส้นทางรถไฟและสถานีลพบุรีเดิม และช่วยลดการแออัดในเขตเมือง และเป็นการกระจายการเดินทางเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจ ส่งเสริมท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยก่อสร้างเป็นทางรถไฟยกระดับที่ยาวที่สุดในไทย มีระยะทาง 19 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหา น้ำท่วมอีกด้วย และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการสถานีลพบุรี 2 และอำนวยความสะดวก โดยมีรถ Shuttle Bus วิ่งรับ-ส่งฟรี ระหว่างสถานีลพบุรีเดิม และ สถานีลพบุรี 2 อีกทั้งได้ประสานกับรถสองแถวสายบ้านข่อย ให้ขยายเส้นทางถึงสถานีลพบุรี 2 อีกด้วย

สำหรับสถานีลพบุรีเดิม ยังคงให้บริการโดยมีรถชานเมืองประมาณ 18 ขบวนต่อวัน รองรับการเดินทางของประชาชนและนักเรียนในพื้นที่ ไม่มีผลกระทบ และเป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่

รมช.คมนาคมกล่าวว่า การเปิดสถานีลพบุรี 2 (ท่าวุ้ง) รถไฟทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะเร่งด่วนทั้ง 7 เส้นทาง ที่รัฐบาลจะขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ตามหลักการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างไร้รอยต่อ โครงการนี้ไม่เพียงจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทาง ช่วยลดรถติดและอุบัติเหตุในตัวเมือง และยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลพิษทางอากาศ เป็นโครงการที่มีความสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการเดินทางของพี่น้องประชาชน ให้สะดวกสบาย รวดเร็ว และคุ้มค่า

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องก่อสร้าง สถานีลพบุรี 2 และทางรถไฟ แนวใหม่แยกออกไป จากเดิมเพราะไม่มีทางเลือก เนื่องจากมีพื้นที่เขตทางเพียง 8 เมตร ไม่เพียงพอกับทางคู่ ขณะที่สองข้างทาง มีศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด งโบราณสถานสำคัญคู่เมืองลพบุรี หากไม่เปิดแนวใหม่ รถไฟที่สร้างมาถึงลพบุรี 70 ปีแล้วก็จะอยู่แค่นี้ จะไม่ สามารถ ทะลุออกไปถึงจังหวัดนครสวรรค์ได้

ดันทางคู่ เฟส 2 สายใต้ 3 เส้นทางเข้าครม.เดือนธ.ค.นี้

รมช.คมนาคมกล่าวว่า สำหรับแนวทางในอนาคต รัฐบาลได้วางแผนการพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 7 เส้นทาง รวมระยะทางกว่า 1,488 กิโลเมตร โดย กรมการขนส่งทางราง (ขร.) รายงานว่า ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.ช่วงชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 30,422.53 ล้านบาท 2. ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 66,270.51 ล้านบาท 3. ช่วงชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,772.90 ล้านบาท เพื่อสานต่อเครือข่ายคมนาคมให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่งจะผลักดันเสนอครมภายในเดือน ธ.ค.2568

จัดรถเชื่อม สถานีลพบุรีเดิมฟรี 3 เดือน

ด้านนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ กล่าวว่า สถานีลพบุรี 2 (ท่าวุ้ง) สถานีรถไฟแห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรี เป็นสถานีที่ให้บริการขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว ในเส้นทางสายเหนือ จำนวน 14 ขบวน เบื้องต้นมีผู้โดยสารขึ้น-ลง ประมาณ 100-200 คน ต่อวัน รฟท.จัดรถโดยสาร วิ่งเชื่อมกับสถานีเดิม ในช่วง 3 เดือนแรกตั้งแต่ 5 ธ.ค.68-5 มี.ค. 69 จากนั้นจะประเมินผลการให้บริการรวมถึงจำนวนผู้โดยสารก่อนพิจารณาการขยายบริการ ต่อไปหรือไม่

ขณะที่ตัวสถานี เป็นอาคาร 3 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งลิฟต์ บันไดทางขึ้น-ลง ห้องสุขา และห้องรับฝากสิ่งของ ทั้งนี้ ไม่มีบริการรับ-ส่งสัมภาระ โดยหลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบจะสามารถเพิ่มความรวดเร็วและความตรงต่อเวลาในการเดินทาง และรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว

พร้อมกันนี้การรถไฟฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกำหนดเวลาต้นทาง-ปลายทาง ของขบวนรถสายเหนือใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดใช้สถานีและเวลาเดินขบวนรถปัจจุบัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป ขณะที่ผู้ใช้บริการยังสามารถตรวจสอบเวลาและตำแหน่งขบวนรถแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ Train Tracking System (TTS) ช่วยให้วางแผนการเดินทางตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางได้อย่างแม่นยำและมั่นใจยิ่งขึ้น

การพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางไกลจากทางเดี่ยวให้เป็นทางคู่ ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่มอบหมายให้การรถไฟฯ ดำเนินงานอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับนโยบายการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง จากถนนสู่การขนส่งระบบรางที่มีต้นทุนต่ำกว่า เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ตามลำดับความสำคัญของแนวเส้นทาง โดยได้ดำเนินการตามแผนงานโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง ที่เปิดให้บริการแล้ว 5 เส้นทาง ได้แก่ ทางคู่ช่วง ฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น ช่วงนครปฐม – หัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร