“นายสลากุล ประเสริฐดี” รับมอบเกียรติบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณ “คนดีของสังคม”

ขอแสดงความยินดีกับ  นายสลากุล ประเสริฐดี ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม วุฒิสภา  ในโอกาสได้รับรางวัลเกียรติบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณ โครงการตอบแทนคุณแผ่นดิน ยกย่องเชิดชูเกียรติคนดีของสังคม ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568…จำนวน 4 รางวัล ได้แก่

1.คนดีของแผ่นดิน 

2.พ่อดีเด่นแห่งชาติ 3.ปูชนียบุคคล   

4.คุณพ่อตัวอย่างแห่งชาติ

จากหม่อมหลวง ปนัดดา ดิสกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการมูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และกรรมาธิการผู้ทรงคุณวุฒิใน คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา โดยกระทรวงศึกษาธิการและสมาคมส่งเสริมการศึกษาทางไกล (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องเตมียเวส ตึกบัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

พร้อมกันนี้กำหนดรับมอบเกียรติบัตร “คุณพ่อตัวอย่างแห่งชาติ” สมาคมธรรมาภิบาลประจำปี 2568 โดยหม่อมหลวงชาญโชติ ชมพูนุท ประธานในพิธี ในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 12.00 น. โรงแรมรัตนโกสินทร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

.

เปิดพฤติการณ์ “ไรบีนา”ปลอมสลิป-อ้างคนดัง หลอกผู้ปกครอง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบดาราสาว หลอกเพื่อนสนิทลงทุน ธุรกิจสินเชื่อ ความเสียหายกว่า 190 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.,พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.เชาวน์วุฒิ เลียบมา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ นำโดย พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. และ พ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจสอบสวนกลาง กก.4 บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม นางไรบีนา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 7195/2568 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ฐานความผิด “ฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

พฤติการณ์ เนื่องด้วยมีผู้เสียหาย จำนวน 17 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีเมื่อประมาณปีเดือน ต.ค. 2565 ได้ถูกดาราสาวชื่อดัง ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ได้แก่

  1. ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล เสนอผลตอบแทนสูงร้อยละ 4-7 ต่อเดือน
  2. ลงทุนเทรดหุ้นกับผู้มีชื่อเสียงในวงการเทรดหุ้น
  3. ลงทุนขายหุ้นในธุรกิจกีฬาบาสเก็ตบอล, ร้านอาหารต่างประเทศ และบริษัทต่างๆ ของตน
  4. ลงทุนในกองทุนเครือธุรกิจครอบครัวรายใหญ่

ซึ่งผู้ต้องหาได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท, บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ โดยอาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือของตน ประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา ซึ่งในระยะแรกผู้เสียหายบางรายได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับผู้ต้องหาได้นำหลักฐานการโอนเงินปลอมและเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่นและหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา

ต่อมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาเริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุนและปันผลการลงทุนได้ เมื่อถูกทวงถาม ก็ได้ออกเช็คเงินสดเพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี และภายหลังได้ทราบว่าบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ผู้ต้องหาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวม กว่า 190 ล้านบาท

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว ผู้ต้องหายังมีการปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าของอยู่ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยผู้ต้องหามีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไว้
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในหมู่บ้านหรู ซอยเอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร และสามารถจับกุม

นางไรบีนาฯ บุคคลตามหมายจับได้ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ ที่น่าสนใจดังนี้
รายการตรวจยึดที่น่าสนใจ

1.โทรศัพท์ iphone 7 เครื่อง

2.art toy bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง

3.ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น

4.กระเป๋า hermes berkin 1 ใบ

5.กระเป๋า หิ้ว louis vuitton 1 ใบ

6.จิวเวอรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น

7.รถยนต์ mini coper รุ่น aceman สีขาว 1 คัน

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน โปรดใช้ความระมัดระวังในการร่วมลงทุนหรือปล่อยสินเชื่อกับบุคคลใดๆ ที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง และใช้ความน่าเชื่อถือเป็นเครื่องมือชักชวน โดยอาจมีการแอบอ้างธุรกิจ การลงทุน หรือบุคคลมีชื่อเสียงสร้างความน่าเชื่อถือ หากพบการเชิญชวนในลักษณะดังกล่าว ควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน และระมัดระวังมิจฉาชีพที่อ้างลงทุนในธุรกิจต่างๆ พร้อมเสนอผลตอบแทนสูงรายเดือน หรืออ้างการลงทุนร่วมกับผู้ประกอบการและบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อหลอกลวงให้โอนเงินร่วมลงทุน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

อลังการ!ประเพณีฮีตสิบสอง-งานประจำปีอำนาจเจริญ “32 ปี ฮีตฮอย ไทอำนาจ”

อำนาจเจริญ เปิดงานประเพณีฮีตสิบสอง และงานประจำปีจังหวัดอำนาจเจริญ “32 ปี ฮีตฮอย ไทอำนาจ” ประจำปี 2568

ที่ ณ บริเวณสนามด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายเสนีย์ ส้มเขียวหวาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีฮีตสิบสองและงานประจำปีจังหวัดอำนาจเจริญ “32 ปี ฮีตฮอย ไทอำนาจ” ประจำปี 2568 พร้อมเฉลิมฉลองวันสถาปนาจังหวัดครบรอบ 32 ปี

โดยมี นางสุขสมรวย วันทนียกุล นางญาณีนาถ เข็มนาค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอำนาจเจริญ คณะสมาชิกวุฒิสภา นายพนัส พันธุ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ ดร.ถวัลย์ นิยมพานิชพัฒนา นากเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ นางผุสณีย์ ส้มเขียวหวาน รักษาการแทนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ นายพรชัย วงศ์งาม ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ, นายไพฑูรย์ พรหมสอน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอำนาจเจริญ นายอำเภอ, หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวอำนาจเจริญ และนักท่องเที่ยวมาร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับการสถาปนาจัดตั้งเป็นจังหวัด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2536 นับถึงวันนี้ (1 ธันวาคม 2568 ได้รับการจัดตั้งมาเป็นเวลา 32 ปี ดังนั้น ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ร่วมกันจัดงานระหว่าง วันที่ 1-10 ธันวาคมของทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันที่ได้รับการสถาปนาจังหวัด

สำหรับปีนี้ จังหวัดอำนาจเจริญกำหนดจัดงานประเพณีฮีตสิบสองและงานประจำปีจังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2568  “32 ปี ฮีตฮอย ไทอำนาจ” ระหว่างวันที่ 1 – 10 ธันวาคม 2568 ณ บริเวณสนามด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ รวม 10 วัน 10 คืน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรม จารีต ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงามของจังหวัดอำนาจเจริญ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และส่งเสริมกลุ่มอาชีพของประชาชนในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยจัดให้มีกิจกรรมการแสดงบนเวทีกลางตลอดงานทั้ง 10 คืน

ซึ่งในวันที่ 1 จะมีพิธีเปิดงาน และมีชุดการแสดงฟ้อนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระพันปีหลวง, การแสดงชุดอาภรณ์แผ่นดิน ชุดฮีตสองคราว บุญาข้าวฮากผี การแสดงชุดสำนึกในพระกรุณา ฟ้อนผ้าขาวม้าสืบสานพระราชปนิพาน และฟินาเล่ ไทอำนาจเจริญ เป็นต้น

ส่วนวันที่ 2 เป็นการประกวดกลองยาว วันที่ 3 การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องที่ วันที่ 4 การประกวด TO BE NUMBER ONE วันที่ 5 การประกวด Dance contest วันที่ 6 การแสดงดนตรีของวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญและการประกวดร้องเพลงหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอำนาจเจริญ วันที่ 7 การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องถิ่น วันที่ 8 การเดินแบบผ้าไทย “คารวาลัย พระแม่ของแผ่นดิน” วันที่ 9 การประกวดนางสาวอำนาจเจริญ และในวันที่ 10 ชมการแสดงร้องเพลงของผู้ชนะการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งท้องถิ่น ท้องที่ และการออกรางวัลสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2568

นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดบูธนิทรรศการให้ความรู้ของส่วนราชการต่าง ๆ และบูธแสดงนิทรรศการประเพณี วัฒนธรรมของทั้ง 7 อำเภอ การออกร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อป และสินค้าจากภาคเอกชน การแสดงของศิลปินนักร้องชื่อดัง ตลอดการจัดงานและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย และยังมีการแสดงของศิลปินนักร้องชื่อดังตลอดการจัดงาน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนอำนาเจริญ จังหวัดข้างเคียง และนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยว ชม ชิม แชะ แชร์ งานประเพณีฮีตสิบสอง และงานประจำปีจังหวัดอำนาจเจริญ “32 ปี ฮีตฮอย ไทอำนาจ” ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 1 -10 ธันวาคม 2568 ณ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ

ภาพข่าว  ทิพกร   หวานอ่อน/อำนาจเจริญ  รายงาน

ปัตตานียังอ่วมน้ำยังคงท่วมสูงชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

ปัตตานียังอ่วม ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอย่างอยากลำบาก  เพจละหมาดต่างถิ่น  ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ1,000ชุดบรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่น้ำยังคงท่วมสูงอยู่ ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตอย่างอยากลำบาก

โดยวันนี้ ทีมงาน ละหมาดต่างถิ่น นำโดยนายชายูดี สาดและ เจ้าของเพจละหมาดต่างถิ่น ร่วมกับ นส.วรรณวิไล ภูมิสวัสดื์เดชา ครีโม ชลบุรี ,นส.วิภาดา โต๊ะสัน เจ๊โนว่าดี  นำถุงยังชีพไปมอบให้ชุมชนปุโละปุโย ชุมชนตะลุโบะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

จากนั้นเดินทางไปยัง ชุมชนจางา ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี นำถุงยังชีพ ไปมอบให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยชุมชนจางา ยังคงถูกน้ำจากแม่น้ำปัตตานีเอ่อไหลเข้าท่วมอย่างหนัก บ้านเรือนของชาวบ้านจมเสียหายเกือบทั้งหมด เพราะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนัก จากมวลน้ำจำนวนมากที่ไหลมาจาก จ.ยะลา และน้ำฝน ทำให้บ้านเรือนเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน โดยบางจุดมีระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทางเข้าหมู่บ้านกลายเป็นเหมือนท่าเทียบเรือ ต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออก  โดยมอบรวม 3 จุด 1,000 ถุง

ต.ปะกาฮารัง ถือเป็นพื้นที่ปลายน้ำที่รับน้ำจากทั้ง จ.ยะลา เเละน้ำใน จ.ปัตตานี ก่อนลงสู่ทะเล จึงถูกน้ำท่วมเเทบทุกปี เเม้ชาวบ้านจะมีการเตรียมความพร้อมยกของขึ้นที่สูงหรือมีเรือเเทบทุกบ้าน เเต่ปีนี้น้ำมาเร็วเเละเเรงทำให้เสียหายอย่างหนัก และท่วมนานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว

โดยพรุงนี้จะเดินทางไป ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อไปมอบถุงยังชีพไปมอบให้ชาวบ้านที่ยังคงประสบภัยน้ำท่วมอยู่เนื่องจากน้ำยังไม่ลดลง

.

กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดตัวโครงการ “KTAXA Advisor” Your Future, Your Way “ยกระดับที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต-การเงิน

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำการเป็นผู้นำประกันชีวิต เปิดตัวโครงการ “KTAXA Advisor” Your Future,Your Way “ความสำเร็จ ในแบบที่เป็นคุณ” ที่มุ่งมั่นยกระดับบทบาทของตัวแทนประกันชีวิตให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ของที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาด้านประกันชีวิต พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน

คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า  “หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้ประสบความสำเร็จ คือ กลยุทธ์ของฝ่ายขายผ่านช่องทางตัวแทน ซึ่งในปีนี้เป็นปีแห่งการสนับสนุนและยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ หรือ “Bigger and Bolder” นอกจากนี้เรายังมุ่งมั่นในการมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง หรือ Customer First และอีกหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ คือการพัฒนาและเพิ่มจำนวนฝ่ายขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ มีตัวแทนมืออาชีพมากกว่า 13,000 คน และบริษัทฯ มีการส่งเสริมตัวแทนให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต และการเงิน โดยตัวแทนที่ติดคุณวุฒิ AXA Prime ซึ่งเป็นคุณวุฒิสูงสุดระดับนานาชาติของแอกซ่า มีจำนวนมากกว่า 700 คน และมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่อาชีพที่ปรึกษาด้านประกันชีวิต และการเงิน ภายใต้ชื่อโครงการ “KTAXA Advisor”  โดยพร้อมให้การสนับสนุนและพัฒนาทักษะต่างๆ อาทิ การฝึกอบรมที่เข้มข้นตลอดหลักสูตรผ่านทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ สนับสนุนเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย อีกทั้งมุ่งมั่นยกระดับให้ฝ่ายขายประสบความสำเร็จในอาชีพ จนก้าวสู่การเป็นนักขายมืออาชีพ ในแบบที่เป็นตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ในการมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง และเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป”

คุณชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายจัดจำหน่าย กล่าวเสริม “สำหรับโครงการ KTAXA Advisor เป็นโครงการใหม่ของฝ่ายขายผ่านช่องทางตัวแทน ซึ่งมาจากวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่ต้องการยกระดับบทบาทของตัวแทนประกันชีวิต ให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ของที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น โครงการดังกล่าวมุ่งเน้นในการสร้างมาตรฐานใหม่ของตัวแทนแบบเต็มเวลา ที่ทำหน้าที่เป็น ที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิตและการเงิน อย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่นคงในทุกช่วงชีวิต

โครงการแบ่งเป็น 2 ระดับ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน คือ 

1.KTAXA Advisor สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นในอาชีพที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างอาชีพ พร้อมเข้าร่วมหลักสูตรการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม โดยมีแผนรองรับรายได้ที่ 15,000 บาท/ เดือน

2.KTAXA Advisor X สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านการวางแผนทางการเงิน ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าระดับ KTAXA Advisor โดยมุ่งเน้นผู้ที่มีศักยภาพในการสร้างเครือข่าย และพร้อมรับบทบาทเป็นผู้นำทีมในอนาคต โดยผ่านการอบรมและการประเมินตามมาตรฐานที่เข้มข้น และมีแผนรองรับรายได้ที่ 30,000 บาท/เดือน

บริษัทฯ เชื่อว่า เส้นทางสู่อนาคตความสำเร็จ ไม่มีสูตรเดียว สำหรับทุกคน แต่เรามีเส้นทางที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แต่ละคน ล้วนมีเป้าหมายและวิธีการประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน ไม่ยึดติดกับสูตรตายตัว ตามสโลแกนที่ว่า Your Future, Your Way “ความสำเร็จ ในแบบที่เป็นคุณ”

คุณกฤช ธีรสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายตัวแทน กล่าวเพิ่มเติม “โครงการ KTAXA Advisor มี 3 จุดเด่นที่สำคัญ กล่าวคือ 1.ความสำเร็จที่เร็วกว่า โดยใช้เวลาเพียง  10 เดือน ซึ่งน้อยกว่าหลักสูตรทั่วไป แต่ยังคงความเข้มข้นและครบถ้วน เพื่อให้ตัวแทนพร้อมทำงานจริงในเวลาที่สั้นที่สุด 2. หลักสูตรดังกล่าว เป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning Community ที่ทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งครอบคลุมทั้งความรู้ด้านประกันชีวิต การวางแผนการเงิน การเล่นบทบาทสมมุติ หรือ Role Play และการ Coaching เพื่อให้มั่นใจว่าตัวแทนสามารถทำได้จริง

อีกทั้งมีหลักสูตรที่ได้รับรองโดยสถาบันชั้นนำ ทั้งนี้ผู้จัดการหน่วยจะได้รับความสำเร็จไปพร้อมๆ กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ และ 3. การต่อยอดสู่การเป็นหัวหน้าหน่วย สร้างเส้นทางอาชีพที่มั่นคง พร้อมรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โครงการนี้ไม่ใช่แค่การสร้างตัวแทน แต่คือการสร้างที่ปรึกษามืออาชีพด้านประกันชีวิต และการเงิน และว่าที่เจ้าของธุรกิจ ซึ่งเราเชื่อว่าด้วย KTAXA Advisor และ KTAXA Advisor X จะทำให้ทุกคนมีเส้นทางอาชีพที่มั่นคง รายได้ที่เติบโต และโอกาสไร้ขีดจำกัด

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ KTAXA Advisor สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานตัวแทนใกล้บ้านท่าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1159 หรือ www.krungthai-axa.co.th

ระดมกองทัพรถคลาสสิก 1,000 คันสร้างปรากฏการณ์แห่งปี ท้าลมหนาวที่บุรีรัมย์

น้ำแร่ธรรมชาติ ตรา ช้าง ร่วมกับ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สังเวียนความเร็วระดับโลกของไทย ประกาศความพร้อมจัดงาน ช้าง คลาสสิค คาร์ รีไววัล (Chang Classic Car Revival)  สานต่อความสำเร็จปีที่ 6 กับเทศกาลรถคลาสสิคและรถสปอร์ตยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย-อาเซียน ยกระดับความมันส์ครบวงจร ทั้งการแข่งขันจับเวลา, แดร็ก, แทร็กเดย์, มอเตอร์โชว์และประกวดรถคลาสสิค ฯลฯ ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 13-14 ธ.ค.นี้ เปิดให้ชมงาน “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย” คาดผู้ร่วมงานทะลักกว่าหมื่นคน รถคลาสสิคและรถหายากเข้าร่วมกว่า 1,000 คัน  จัดเต็ม 2 วัน 2 คืน ครบรส เพื่อคนรักรถสายเก๋าจอมซิ่งทุกยุคสมัย พร้อมปะทะกับงานยักษ์ของชาวสองล้อ “Chang Presents 23 ปี Commander City” ที่อัดแน่นความบันเทิงและกิจกรรมเพื่อการกุศล

นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า “การจัดงาน Chang Classic Car Revival เป็นมากกว่าเทศกาล แต่เป็นความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการรถคลาสสิคในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยงานในปี 2025 นี้ ได้ยกระดับความยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในแง่ของจำนวนรถที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คัน และความหลากหลายของกิจกรรมที่ตอบโจทย์คนรักรถทุกประเภท ตั้งแต่รถย้อนยุค วินเทจ, Super Car, Exotic Car รถสปอร์ตพิเศษ สมรรถนะสูงที่ผลิตจำนวนจำกัด รวมถึงรถจักรยานยนต์คลาสสิค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน”

“Chang Classic Car Revival จัดขึ้นเพียงปีละครั้งและเป็นงานเดียวที่จะได้นำรถคลาสสิคมาร่วมแสดงศักยภาพในสนามระดับโลกที่มีความปลอดภัยสูงระดับ FIA Grade 1 สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อวงการรถคลาสสิคในหลายภาคส่วนอย่างแท้จริง ไล่ตั้งแต่การเพิ่มมูลค่าให้กับวงการรถคลาสสิคไทย, การพัฒนาทักษะแแสดงถึงความสามารถและศักยภาพของช่างไทย ในการทำรถคลาสสิคในระดับสากล สู่สายตาชาวโลก เพื่อให้วงการรถคลาสสิคไทยสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”

สำหรับกิจกรรม 2 วัน จัดเต็มครบรสที่คนรักรถคลาสสิคไม่ควรพลาด อาทิ ขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์, การประกวดรถคลาสสิค และมอเตอร์โชว์ของคลาสสิค ชมรถสะสมหายาก ฯลฯ ภายในงานยังมีบูธสินค้าของตกแต่งรถ และร้านอาหารชื่อดังชั้นนำของจังหวัดบุรีรัมย์ให้บริการอย่างเต็มที่

ไฮไลต์สำคัญที่ชาวมอเตอร์สปอร์ตต้องจับตา คือกิจกรรมหลักสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์สายเก๋าจอมซิ่ง ที่มาพิสูจน์สมรรถนะคันโปรดในสนามระดับโลก
• Chang Track Parade ( ช้าง แทร็กพาเหรด) ขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย-อาเซียน ของรถคลาสสิคทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์

• Classic Trackday (คลาสสิค แทร็กเดย์) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนสนามแข่งระดับโลก แบ่งรุ่นการขับขี่สุดคลาสสิคไล่ตั้งแต่ Infinity Super Car Club, Siam Lotus & Sports Car, โมเดิร์นคลาสสิคปี 90, ไปจนถึงรถคลาสสิคปี 50-90, รถสกู๊ตเตอร์คลาสสิค และมอเตอร์ไซค์คลาสสิค
• Classic Drag (คลาสสิค แดร็ก) การแข่งขันประลองความเร็วในสนามแดร็กแบบแข่งทางตรง ชิงถ้วยรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์

• MINI Challenge (มินิ ชาเลนจ์) การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบวันเมคเรซของรถมินิคูเปอร์ รถเล็กสเปคจี๊ด
• Classic Gymkhana Battle (คลาสสิค จิมคาน่า แบทเทิล) แข่งขันทักษะการขับขี่สไตล์จิมคาน่า
• ชมรถจักรยานยนต์คลาสสิคและย้อนยุค ช้าง คลาสสิค แอนด์ เรโทร มอเตอร์ไซเคิล

พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกของไทย เมื่อรถอเมริกันสุดคลาสสิคจะยกทัพมาวิ่งกันอย่างคับคั่งในสนามระดับโลกอย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และที่ห้ามพลาดอีกอย่างคือ การอวดโฉมของ Dodge Charger รถสปอร์ตในตำนานรุ่นเดียวกับรถคู่ใจของ โดมินิก ทอเร็ตโต พระเอกจากภาพยนตร์ Fast & Furious ที่โด่งดังไปทั่วโลก

พิเศษสุด! สำหรับประชาชนทั่วไป ร่วมงานฟรี รวมทั้งกิจกรรม Grid Walk ในวันเสาร์ที่ 13 ธ.ค. เวลา 17.30 น. และวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค. เวลา 17.00 น. อีกหนึ่งสีสันที่จะได้ชมรถสวยๆนับร้อยคันอย่างใกล้ชิดบริเวณกริดสตาร์ต บนสนามแข่งระดับโลก พร้อมถ่ายรูปสวยๆเป็นที่ระลึก

ภายในงานยังมีการฉลองครบรอบ 23 ปี คอมมานเดอร์ซิตี้ ในงาน Chang Presents 23 ปี Commander City วันเสาร์ที่ 13 ธ.ค. เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พบกับมหกรรมดนตรีของชาว 2 ล้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นำโดยนักร้องลูกทุ่ง 1,000 ล้านวิว “มนต์แคน แก่นคูณ” และสาวลูกทุ่งอินดี้เจ้าเสน่ห์ “มีนตรา อินทิรา” พร้อมศิลปินอีกคับคั่ง อาทิ มอคค่า การ์เดน, ไก่ กะละมัง, ป๋าพยัพ คำพันธุ์ และวงฟรีดอม พร้อม 2 สาวสุดเซ็กซี่ DJ ‘ฟิวส์ฟี่ และ MC รมณ โดยบรรยากาศภายในงานมาในธีมย้อนยุค งานวัด ครบครันด้วยซุ้มปาลูกโป่ง สาวน้อยตกน้ำ ชิงช้าสวรรค์ และบูธสินค้าของตกแต่งรถ รวมถึงการแข่งขัน “คอมมานเดอร์ ซิตี้ แดร็ก เรซ” สำหรับประชาชนทั่วไป ชิงถ้วยรางวัล

บัตรเข้างานเพียง 500 บาท รับฟรีเสื้อ ครบรอบ 23 ปี คอมมานเดอร์ซิตี้สำหรับเข้างาน 1 ตัว ซึ่งสามารถใส่เสื้อแทนบัตรเข้างานได้ และได้รับสิทธิ์ขับขี่ในสนามแข่งระดับโลก “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้กับโรงพยาบาลทั้ง 5 ภาค เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซื้อบัตรได้ที่ LINE @ccmc หรือแฟนเพจ Commander City ด่วนมีจำนวนจำกัด วันนี้ถึง 10 ธ.ค.

ทั้งนี้ ในส่วนของงาน “Chang Classic Car Revival 2025” ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 13-14 ธันวาคม 2568 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย  หรือรับชมทางออนไลน์ได้ทางเพจ Chang Circuit Buriram

ไทยยิงควันเตือนหลังเมียนมาสู้รบเดือดทำให้กระสุนปืนตกใส่ฝั่งชายแดนแม่สอด

กองกำลังนเรศวร ยิงควันเตือนทันที ตามกฏการใช้กำลัง สถานการณ์ความไม่สงบชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก หลังกองทัพเมียนมาเปิดศึกปะทะดุเดือดกับกลุ่มชนน้อยทำให้กระสุนปืนใหญ่ตกใส่ฝั่งไทย

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568. ที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก  พล.ต. ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ,ตำรวจตระเวณชายแดน ร้อย 346  ,ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ชายแดนไทย–เมียนมา บริเวณ ท่าข้าม บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้  ได้เกิดเหตุการปะทะ ระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ บ้านนิละป่าน ฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้มีกระสุน ค.60 จำนวน 5 นัด ข้ามมาตกยังฝั่งไทย บริเวณไร่ข้าวโพด ชาวบ้านแม่โกนเกน ทำให้มีแรงงานชาวเมียนมาบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย

โดยในครั้งนี้ พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ทำการยิงเตือน ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มิลลิเมตร จำนวน 4 นัด ไปยังพื้นที่การปะทะ เพื่อเตือนให้ฝั่งตรงข้าม เพิ่มความระมัดระวัง การใช้วิถีกระสุนที่ส่งผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พร้อมทั้ง จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เตรียมการปฏิบัติตามกฎการใช้กำลัง หรือ Rules of Engagement หากมีการละเมิดการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ตลอดแนวชายแดน

กองกำลังนเรศวรยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตรึงกำลังตามแนวชายแดน เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ

เศรษฐกิจคึกคัก!แห่ชิมช้อปเทศกาลกินกุ้ง กินปลา @ปราจีนบุรี

ในช่วงค่ำคืนหยุดเสาร์-อาทิตย์คึกคักท่ามกลางลมหนาวแห่ชิมช้อปในเทศกาลกินกุ้ง กินปลา @ปราจีนบุรีงาน ปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่มอบคออาหารกุ้ง-ปลามีคุณภาพใหม่สดสะอาดได้มาตรฐานความปลอดภัยพักผ่อนสบายๆเพลินไปกับเสียงดนตรีทั้งนี้ จ.ปราจีนบุรีมีการเลี้ยงกุ้ง-ปลามากที่สุดที่ 1ใน 6 ของไทยอ.บ้านสร้างเป็นแหล่งเลี้ยง-ขายใหญ่สุด ปริมาณระหว่าง 60,000 – 81,000 ตัน/ปี สร้างมูลค่ารายได้ทางเศรษฐกิจสู่จังหวัดปีละมากกว่า 300 ล้านบาท/ปี

นายสฤษดิ์ บุตรเนียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ปราจีนบุรีเขต 3 (สส.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมงานเทศกาลกินกุ้ง กินปลา @ปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่ตลาดสามทหาร สถานีขนส่งอำเภอกบินทร์บุรี ( บขส.กบินทร์บุรี ) ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี โดยมีนายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายอำเภอกบินทร์บุรี ,นายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองเก่า(อบต.),หัวหน้าภาคส่วนราชการร่วมเป็นเกียรติ โดยมีนายกมล ผิวเหมาะประมงจังหวัดปราจีนบุรีกล่าวรายงาน

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าประมงที่มีคุณภาพใหม่ สด สะอาดและได้มาตรฐานความปลอดภัย ทุกภาคส่วนทั้งกลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่มองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น กลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงและภาคเอกชน ได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์สินค้า มีการเชื่อมโยงตลาดและขยายผลในธุรกิจการเพาะเลี้ยงของเกษตรกรกับผู้ประกอบการแปรรูปในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง

ทั้งนี้โดย จ.ปราจีนบุรีมีการเลี้ยงกุ้ง-ปลามากที่สุดที่เป็น 1ใน 6 ของไทย มากที่สุดที่ อ.บ้านสร้างปริมาณการผลิตกุ้ง-ปลา ระหว่าง 60,000 – 80,000 ตัน/ปี สร้างมูลค่ารายได้ทางเศรษฐกิจ สู่จังหวัดปีละมากกว่า 300 ล้านบาท/ปี

ได้ร่วมกันพัฒนาด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมการเลี้ยงและการแปรรูปให้ก้าวทันกับยุคของการเปลี่ยนแปลงและได้รับรองมาตรฐานเป็นการเกื้อหนุนและส่งเสริมให้เกษตรกร และผู้ประกอบการ ได้เข้าสู่มาตรฐานการผลิตในระดับสากลต่อไป กิจกรรมจัดระหว่างวันที่ 29 และ 30 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา: 10:00 น. ถึง 22:00 น.

มีกิจกรรมไฮไลท์ในงาน อาทิ  ตักกุ้งก้ามกรามราคาพิเศษ!เพียง 199 บาท ต่อกิโลกรัม พร้อมบริการปิ้งย่าง ฟรี!   การแข่งขันกินกุ้งสุดเร้าใจแก่ผู้มาเที่ยวงานประลองฝีมือกันการจำหน่ายสินค้าพบกับสินค้าประมงและผลิตภัณฑ์ประมงพื้นบ้าน  กุ้งสดราคาพิเศษจำหน่ายกุ้งสด ๆในราคาพิเศษสุด ๆ เฉพาะในงานเท่านั้น!

ในงานยังให้ความบันเทิงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์    ชมฟรี! มินิคอนเสิร์ตบันเทิงเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจากวงดนตรีคุณภาพ  วงมเหสี แบนด์ (Mahesri Band)  วงภานา แบนด์ (Pana Band)ด้วย

โดย…มานิตย์  สนับบุญ-ข่าว/ณัฐนันท์ – ภาพ / ปราจีนบุรี ###

.

สัตว์ล้มตาย–ฟาร์มจมน้ำ! ปศุสัตว์เปิดเงื่อนไขเยียวยาฉุกเฉินปี 2568 ช่วยเกษตรกรใต้ 9 จังหวัด

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจากร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล ปัตตานี สงขลา ตรัง และนราธิวาส โดยมีสัตว์เลี้ยงในพื้นที่น้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 10,961,826 ตัว ประกอบด้วย โค 335,382 ตัว กระบือ 7,354 ตัว สุกร 265,146 ตัว แพะและแกะ 181,057 ตัว และสัตว์ปีก 10,172,887 ตัว ขณะที่แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์เสียหายรวม 7,721.60 ไร่

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบสัตว์ตายและสูญหาย 78,721 ตัว ใน 8 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี สตูล สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และสงขลา โดยในจำนวนนี้เป็นโค-กระบือ 1,439 ตัว สุกร 8 ตัว แพะ 98 ตัว แกะ 21 ตัว และสัตว์ปีก 77,155 ตัว

กรมปศุสัตว์ได้เร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือในเบื้องต้น ได้แก่ แจกจ่ายหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานจำนวน 444,560 กิโลกรัม อพยพสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่เสี่ยงรวม 56,373 ตัว สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะ วิตามิน) จำนวน 459 ชุด แจกจ่ายถุงยังชีพสัตว์ ส่งหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ดูแลรักษาสัตว์ในพื้นที่

ในส่วนของการเยียวยาความเสียหายด้านปศุสัตว์ ได้สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเร่งสำรวจความเสียหายทันทีที่น้ำลดเพื่อจ่ายเงินชดเชยแก่เกษตรกรผู้เสียหาย โดยหลักเกณฑ์ได้กำหนดตามประเภทสัตว์เลี้ยงและจำแนก ตามช่วงอายุและจำนวนสูงสุดที่ให้ความช่วยเหลือต่อรายดังนี้

• โค อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราชดเชยไม่เกิน 35,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)

• กระบือ อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราไม่เกิน 39,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)

• สุกร อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)

• แพะ/แกะ อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)

• สัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด นกกระทา นกกระจอกเทศ อัตราช่วยเหลือแตกต่างกันตามช่วงอายุและประเภท โดยช่วยเหลือสูงสุด 300–1,000 ตัว/ราย

• แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ชดเชยในอัตรา 1,980 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย

“ขอให้พี่น้องเกษตรกรชาวใต้มั่นใจว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เราจะอยู่เคียงข้างจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และเกษตรกรสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง” อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ขอให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบมั่นใจว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สนามสุดท้าย !!! สปาร์ตัน เรซพัทยา หนุ่มฟิลิปปินส์ คว้าแชมป์ ส่วน”เบนซ์” ดีสุดคนไทย

“เอเลียส ทาแบค่ะ” นักสปาร์ตันหนุ่มสุดแกร่งจากฟิลิปปินส์ ผงาดครองแชมป์โอเวอร์ออล ประเภท Beast 21K ขณะที่ “เบนซ์ วอริเออร์” ขจรศักดิ์ ต๊ะคำ คนไทยผลงานดีสุดในศึก สปาร์ตันเรซ ไทยแลนด์ สนามสุดท้าย “2025 Pattaya Spartan Trifecta Weekend & HH 24HR Presented by TOA”

การแข่งขันวิ่งวิบากลิขสิทธิ์ระดับโลก “สปาร์ตันเรซ ไทยแลนด์” เดินทางสู่สนามสุดท้ายของปี กับรายการ “2025 Pattaya Spartan Trifecta Weekend & HH 24HR Presented by TOA” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2568 ณ วิสดอมวัลเลย์ เขาไม้แก้ว เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรภาครัฐและเอกชนอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมนักวิ่งจากทั่วโลกกว่า 4,000 คนจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมชิงชัยทุกประเภท เตรียมสร้างสถิติใหม่แห่งปีของอาเซียน คาดเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ทีเส็บ (TCEB), กองทัพบก, และจังหวัดชลบุรี ร่วมกันจัดศึกสปาร์ตันเรซ ไทยแลนด์ 2025ใน 5 เมืองหลัก ได้แก่ หัวหิน, เขาใหญ่, ชลบุรี, เชียงใหม่ และพัทยา โดยสนามพัทยาถือเป็นสนามสุดท้ายและยิ่งใหญ่ที่สุดของฤดูกาล ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นเส้นทางที่มีความท้าทายสูงสุดของปี ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของเขาไม้แก้ว เมืองพัทยา ซึ่งผสานความงดงามของภูเขา ป่าไม้ และพื้นที่ท่องเที่ยวเข้ากับความเข้มข้นของกวิ่งวิบากระดับโลกอย่างลงตัว

โดยล่าสุดการแข่งขันเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ไฮไลต์ของการชิงชัยอยู่ที่ประเภท Beast 21K ระยะ 21 กิโลเมตร (30 ด่านอุปสรรค) โอเวอล์ออล ซึ่งผลปรากฏว่า เอเลียส ทาแบค นักสปาร์ตันหนุ่มสุดแกร่งจากฟิลิปปินส์ ผงาดเข้าป้ายเป็นคนแรก กระชากแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ขณะที่นักสปาร์ตันคนไทยที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นทาง “เบนซ์ วอริเออร์” ขจรศักดิ์ ต๊ะคำ นักสู้หนุ่มสุดแกร่งวัย 36 ปีชาวเชียงใหม่ จากสังกัดสปาตันเรซ ไทยแลนด์ และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของการแข่งขัน ที่ทำเวลาติดอันดับ 5 ของโอเวอร์ออล์ และเป็นเวลาดีที่สุดของนักกีฬาไทย