“ในหลวง”ทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เรื่อง ทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ทั้งนี้ มีรายละเอียดว่า ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. และส่งผลกระทบให้ประเทศไทยได้รับแรงสั่นไหวทุกภูมิภาค ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก นั้น

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวทั้งหมด ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

มือปืนกระหน่ำยิ่งหนุ่มเซียนไก่ดับสลดข้างถนน ตั้งปมขัดแย้งตีไก่ชน

อุทัยธานี-หนุ่มชอบตีไก่!!ถูกคนร้ายลอบยิง นอนดับข้างถนน จนท.ไล่วงจรปิดตามจับคนร้าย เบื้อต้นตำรวจคาดปมขัดแย้งเรื่องตีไก่ชน

เมื่อเวลากลางดึกของวันที่ 29 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่วิทยุ สภ.ทัพทัน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่สัญจรไปมาว่ามีชายถูกยิงนอนอยู่ข้างถนน  ที่บริเวณริมถนนสายสว่างอารมณ์ – ทัพทัน หมู่ 7 ปากทางเข้าหมู่บ้านคอกวัว ต.หนองยายดา อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับจึงวิทยุแจ้งไปยังสายตรวจตำบลหนองยายดาให้ไปตรวจสอบ บริเวณดังกล่าว พบว่าเป็นชายนอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ทะเบียน นครสวรรค์ จึงได้ประสานไปสารวัตรเวร สภ.ทัพทัน ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามระดับชั้น

พร้อมชุดสืบสวน สภ.ทัพทัน ชุดสืบสวนจว.อุทัยธานี  แพทย์เวรรพ.ทัพทัน เจ้าหน้าชมรมบรรเทาสาธารณภัยอุทัยธานี กู้ภัยอุทัยธานี จุดหนองฉางมายังที่เกิดเหต พบร่างชาย ทราบชื่อนายต้นตระกูล สุวาท อายุ 22 ปี หมู่ 7 ต.หนองยายดา อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ในสภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง นุ่งกางเกงยีนขาสั้น ตรวจตามร่างกายพบมี รอยถูงยิงเป็นลูกกระสุนปืนลูกซอง  เข้าตามร่างกาย จำนวน 4 จุด ที่หน้าอกซ้าย 1 เม็ด แขนซ้าย 1 เม็ด สะโพกซ้าย 1 เม็ด และที่เอวด้านซ้าย 1 เม็ด กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน

หลังจากนั้นได้สอบถามนายประพันธ์  ซึ่งเป็นลุงของผู้ตาย ว่าผู้ตายนั้นได้พักอาศัยอยู่กับตนเอง ที่บ้าน รวมด้วยกัน 6 คน ซึ่งภายในบ้าน และ นอกบ้านตนเองก็ไม่ทราบผู้ตายไปมีปัญหาอะไรกับใคร และผู้ตายก็ไม่ใช่คนกินเหล้าเมายา แต่เป็นคนชอบตีไก่ชน ตามสถานที่ต่าง ๆ และก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั้นได้ขี่ จยย.ออกมาจากบ้าน แต่ก็ไม่ทราบว่าไปไหน มาทราบอีกที ว่าถูกยิงดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ตรวจสอบร่างของผู้ตาย พบว่ามีโทรศัพท์ ของผู้ตายอยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงยึดไปตรวจสอบ พร้อมจนท.สันนิษฐานเบื้องต้น ว่าน่าจะมาจากที่ผู้ชอบไปเล่นตีไก่ อาจมีการพนันกันเกิดขึ้น อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผลดังกล่าวเพื่อตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป 

แผ่นดินไหว”หลวงพ่อทอง” พระประธานวัดดังชัยนาท อายุเกือบ 700 ปี แตกร้าวเป็นทางยาว

หลังจากเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 ที่เมียนมา ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ กทม.และปริมณฑล, เชียงราย, เชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน เป็นต้น ขณะที่ จ.ชัยนาท มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหลายแห่งเช่นเดียวกัน

พระประธานในพระอุโบสถ วัดพระบรมธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ชัยนาท ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวานที่ผ่านมา โดยมีรอยแตกร้าวเป็นแนวยาวตั้งแต่ต้นคอถึงกลางหลัง ยาวเกือบ 2 เมตร ส่วนที่ใต้ศอกขวา และแขนขวา มีรอยแตกยาวกว่า 1 เมตร

พระราชวชิรกิจจาทร เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุวรวิหาร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวานที่ผ่านมา อาตมานั่งอยู่หน้ากุฏิ มีโยมมานั่งคุยด้วย อยู่ๆ รู้สึกเวียนหัวคิดว่าไม่สบาย หรืออดนอน แต่สังเกตเห็นน้ำในอ่างกระฉอก มีคนบอกว่าแผ่นดินไหว

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุการณ์ได้สั่งให้พระเลขาฯ ทำการสำรวจโบราณสถาน และสิ่งก่อสร้างภายในวัด โดยเฉพาะพระบรมธาตุเจดีย์ พระนอนขนาดใหญ่(กำลังก่อสร้าง) ไม่ได้รับความเสียหาย

เจ้าอาวาส กล่าวอีกว่า ต่อมาได้ตรวจสอบพบว่าพระประธานในพระอุโบสถ แตกร้าวเป็นแนวยาว ที่บริเวณหลัง และแขนขวา เนื่องจาก “หลวงพ่อทอง” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองมีอายุ 696 ปี ภายในองค์พระเป็นดินเหนียว พอกด้วยปูน และลงรักปิดทอง เพิ่งจะซ่อมไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เบื้องต้นจะประสานให้กรมศิลปากรรับทราบเพื่อเข้ามาดำเนินการต่อไป

‘วริศ’ เฉือน 2 สโตรก คว้าแชมป์ศึก สิงห์-เอสเอที ทีดีที ที่พานอรามา

วริศ บุญรอด นักกอล์ฟจากร้อยเอ็ดแรงปลายหวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสามวัน 8 อันเดอร์พาร์ 208 เฉือน เทพนคร ฝ่ายศูนย์ 2 สโตรก คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพไทยแลนด์ ดีเวลล็อปเมนต์ทัวร์ รายการแรกในอาชีพ ในศึกสิงห์-เอสเอที ทีดีที นครราชสีมา 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านบาท  ณ สนามพานอรามา กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนต์ ทัวร์ รายการสิงห์-เอสเอที ทีดีที นครราชสีมา 2025 โดยการสนับสนุนจาก สิงห์ คอร์ปอเรชั่น, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, บีจีเอฟ และผู้ร่วมสนับสนุน น้ำดื่มสิงห์, เลอบอร์น และ อะเบ้าท์ กราส แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม ณ สนามพานอรามา กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม  2568

การแข่งขันรอบสุดท้าย วริศ บุญรอด นักกอล์ฟจากร้อยเอ็ด ซึ่งสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยการตามหลังผู้นำ 3 สโตรก ก่อนออกตัวอย่างร้อนแรงด้วยการทำ 7 อันเดอร์พาร์ในการเล่นแปดหลุมแรก ก่อนจบวันเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสามวัน 8 อันเดอร์พาร์ 208 คว้าแชมป์ไทยแลนด์ดีเวลล็อปเมนต์ทัวร์ไปครองเป็นครั้งแรกในการเล่นอาชีพพร้อมรับเงินรางวัลไปครอง 100,000 บาท

 อันดับสองเป็น เทพนคร ฝ่ายศูนย์ จบรอบสุดท้ายอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสามวัน 6 อันเดอร์พาร์ 210 รับเงินรางวัลไป 65,500 บาท ขณะที่ ณัฐภัทร หาญโชคชัยสกุล หนุ่มกรุงเทพฯ วัย 24 ปีที่กำลังลุ้นแชมป์แรกและเริ่มวันด้วยการนำ 2 สโตรก ทว่า รอบสุดท้ายตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 74 หล่นมาจบอันดับสามด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 212 รับเงินรางวัลปลอบใจ 40,500 บาท

สำหรับการแข่งขันรายการต่อไปของ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จะเป็นรายการระดับไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ กับแมตช์เปิดฤดูกาล รายการสิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปียนชิพ 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 9-12 เมษายนที่จะถึงนี้ ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี จ.ปราจีนบุรี

 สรุปผลสิงห์-เอสเอที ทีดีที นครราชสีมา 2025 (สนามพาร์ 72)

208  วริศ บุญรอด 69-72-67 (เงินรางวัล 100,000 บาท)
210  เทพนคร ฝ่ายศูนย์ 68-72-70 (เงินรางวัล 65,500 บาท)
212  ณัฐภัทร หาญโชคชัยสกุล 69-72-74 (เงินรางวัล 40,500 บาท)
213  กษิดิศ เล็บครุฑ 74-70-69, ปีเตอร์ วิลสัน (ออสเตรเลีย) 72-71-70, พิสิฐชัย ทิพย์พงษ์ 71-72-70 (เงินรางวัลคนละ 27,666.66 บาท)
214  ธนะชัย บางบำรุง 75-70-69, จาตุรนต์ ดวงไพชุม 75-68-71, สหัศวรรษ อริยฉัตรเวคิน 68-75-71, กิตติพงษ์ ไพฑูรย์เจริญสุข 72-69-73 (เงินรางวัลคนละ 23,200 บาท)
215  สุพคม มีสม 72-76-68, ศรวิษฐ์ เกิดสินธ์ชัย 71-74-71, ณัชพล ศรีนุ่น 69-74-73, ภากร เนียมแสง 73-76-67 (เงินรางวัลคนละ 20,700 บาท)   

เหยื่อแผ่นดินไหวเมียนมาพุ่งทะลุ 1,600 ศพ เร่งขุดหาคนติดใต้ซากนับ 100 ราย

ผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหวเมียนมารุนแรง พุ่งทะลุ 1,600 ศพแล้ว ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งขุดค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารหลายแห่งที่ถล่มลงมา

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ผู้นำกองทัพเมียนมาเปิดเผยในวันเสาร์ที่ 29 มี.ค. 2568 ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.7 แมกนิจูด เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,644 ศพแล้ว ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3,408 ราย และสูญหายอีก 139 คน

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภาคสะกาย เมื่อเวลาประมาณ 12.50 น. จุดศูนย์กลางอยู่ที่ความลึกเพียง 10 กม. และไม่กี่นาทีต่อมาก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.7 แมกนิจูด และอาฟเตอร์ช็อกขนาดเล็กกว่าตามมาอีกหลายร้อยครั้ง แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวหลักกระจายไปทั่วภูมิภาค ทั้งในไทย, อินเดีย, จีน, กัมพูชา และลาว

อาคารในเมืองมัณฑะเลย์ พังถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เมื่อ 28 มี.ค. 2568

ภาคมัณฑะเลย์เป็นหนึ่งในจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในเมียนมา มีอาคารบ้านเรือนมากกว่า 1,591 หลังได้รับความเสียหาย และคาดว่ามีผู้ประสบภัยอีกอย่างน้อย 90 คน ติดอยู่ภายในซากตึกอพาร์ตเมนต์ในเมืองมัณฑะเลย์ที่พังถล่มลงมา

ขณะเดียวกัน ที่เมืองจ๊าวสี่ (Kyaukse) ซึ่งอยู่ในภาคมัณฑะเลย์เช่นเดียวกัน มีโรงเรียนพังถล่มเพราะแผ่นดินไหว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบร่างนักเรียนแล้ว 12 ศพ และพบร่างครูอีก 1 คนเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ โดยมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า นักเรียน 50 คน กับครูอีก 6 คนของโรงเรียนแห่งนี้หายตัวไปหลังตึกถล่ม

เจ้าหน้าที่พยายามเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศทำให้เมียนมาขาดแคลนอุปกรณ์ จนหน่วยกู้ภัยในหลายพื้นที่ต้องขุดค้นซากความเสียหายด้วยแรงมือ

อาคารหลังหนึ่งในเมืองมัณฑะเลย์ ถล่มลงมาบางส่วนหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นยังมีรายงานด้วยว่า เมืองมัณฑะเลย์กับนครย่างกุ้งประสบปัญหาไฟดับและสัญญาณโทรศัพท์มือถือล่ม หลังเกิดแผ่นดินไหว โดยคาดว่าการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในเมืองมัณฑะเลย์จะใช้เวลาหลายวัน ส่วนที่นครย่างกุ้ง ระบบผลิตไฟฟ้าได้รับความเสียหาย จน YESC ผู้รับผิดชอบกระจายไฟฟ้าในเมืองแห่งนี้ ต้องประกาศว่า ชาวเมืองจะได้ใช้ไฟฟ้าเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

โรงเรียนวิทยาการสุขภาพและความงามสยามอินเตอร์ลุยยกระดับฝีมือช่างความงามไทยสู่มาตรฐานสากล

โรงเรียนวิทยาการสุขภาพและความงามสยามอินเตอร์โดย ผอ. อำภา  ชาญรบ จัดการสอบวัดมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นการยกระดับฝีมือช่างความงามไทยสู่มาตรฐานสากล ในประเทศไทยมีผู้ผ่านการ สอบและได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน ISO ในแต่ละสาขาเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ โรงเรียนวิทยาการสุขภาพและความงามสยามอินเตอร์ ยังได้ร่วมกับ Global Korea Beauty Association และ Draw Dream Academy ประเทศเกาหลีใต้ จัดงาน Exclusive Open House Up Skill Workshop PMU 2025 นำเสนอหลักสูตรและเทคนิคใหม่ล่าสุดจาก Global Master ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 17024 โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเกาหลีใต้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้โดย ISO Global Master Do Ju Eun (อาจารย์ โด จู อึน): ผู้อำนวยการ Draw Dream Academy และประธาน Global Korea Beauty นำเสนอเทคนิค Korea Draw Dream Dot เคล็ดลับการแก้ไขและปรับสีคิ้วให้สวยงาม

Master Byeon Ju Won (อาจารย์ เบียง จู วอน): ดาวรุ่งแห่งวงการ SMP เกาหลี นำเสนอนวัตกรรม สักตอผม SMP เทรนด์ใหม่ล่าสุด
ขอแสดงความยินดีกับผู้นำแนวหน้าด้านอาชีพทั้ง 7ท่านที่ร่วมเข้าสอบมาตฐานระดับโลกทั้ง  7  ท่านดังนี้

1.กาลดาว รักษาธิกรณ์
Kandao Raksathikorn
2.วราภรณ์   ปุจฉาการ
WARAPORN  PUTCHAKARN
3.อัณณ์ณิชา พีรวราพัฒน์
Annicha Phirawaraphat

4.น.ส.บุญทวี ยันเซ่น
Boontawee  Jansen
5.รจนา สระแจ้งตูม
Rojana Srachaengtum
(นวดหน้า)
6.ณัฐชา พาลพล
Natcha panpol
(สักคิ้ว )
ญาธิดา ทองโกมล
YATHIDAR  THONGKOMON

การจัดการสอบครั้งนี้มุ่งหวังให้ช่างฝีมือด้านความงามมีศักยภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

TCEB เปิดตัวครั้งแรก MICE Data Platform ชูธง Big Data พลิกโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยแข่งขันสู่สากลในโลกยุคดิจิทัล

TCEB เปิดตัว “MICE Data Platform” แพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในระดับสากล ด้วยการสนับสนุนข้อมูลอุตสาหกรรมไมซ์และข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ  TCEB เปิดเผยว่า แพลตฟอร์มนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนและพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ของอุตสาหกรรมไมซ์ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2568 – 2570) ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศด้านข้อมูล ส่งเสริมการใช้ข้อมูลในอุตสาหกรรมไมซ์ และยกระดับธรรมาภิบาลข้อมูล

โดย MICE Data Platform มีคุณสมบัติและบริการที่สำคัญ ดังนี้

1.ข้อมูลอัจฉริยะในรูปแบบ Interactive Dashboard: รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ICCA, WEF, GDS และ CEIC เพื่อแสดงสถิติอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย เปรียบเทียบศักยภาพกับประเทศในภูมิภาค และวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง

2.การเชื่อมโยงข้อมูลกับ Travel Link: ร่วมมือกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Travel link ในการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ข้อมูลมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
3. บทวิเคราะห์เชิงลึก (Insight Report): วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

4.บริการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะ (Open Data) และ API (Application Programming Interface): เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าถึงและนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดได้

โดยกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้แพลตฟอร์ม คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมโทรคมนาคม อุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมด้านการวิจัย เป็นต้น

ภายในงานยังมีการจัดเวทีเสวนา หัวข้อ “MICE Data Platform: พลิกโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ด้วยข้อมูลขนาดใหญ่” โดยมีวิทยากรรับเชิญ 3 ท่าน ได้แก่ ดร.จารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Chief Information Officer : CIO) ทีเส็บ รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) และคุณปกาสิต วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด ดำเนินรายการโดย คุณสุทธิพงษ์ คุรุหงษา อุปนายกสมาคมดาต้า เมเนจเม้นต์ (ประเทศไทย-กรุงเทพ) ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางและโอกาสของอุตสาหกรรมไมซ์ในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงความโปร่งใสและความปลอดภัยของข้อมูลในยุคดิจิทัล

“MICE Data Platform จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล” ผู้อำนวยการ  TCEB กล่าวเพิ่มเติมถึงศักยภาพของ MICE Data Platform

ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและเข้าใช้งานแพลตฟอร์มได้ที่ https://datahub.tceb.or.th/

ผู้ประกวดนางสาวไทยปทุมธานีทำกิจกรรมวันสุดท้ายประชันโฉมชิงมงกฎฯ

ปทุมธานี- ผู้ประกวดนางสาวไทยปทุมธานีทำกิจกรรมวันสุดท้ายประชันโฉมชิงมงกฎฯที่ บ้านเชือก ตำบลท้ายเกาะ อำภเอสามโคก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 มีนาคม 2568 กองประกวดนางสาวไทยจังหวัดปทุมธานี ได้พาสาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยปทุมธานี 2568 ทำกิจกรรมที่ บ้านเชือก ตำบลท้ายเกาะ อำภเอสามโคก จังหวัดปทุมธานี โดยกองประกวดนางสาวไทยปทุมธานีทั้ง 32 คนทำกิจกรรมในชุดคาบอย ถ่ายภาพทำกิจกรรมแบ่งเป็นกลุ่ม จากนั้นเวลา 19.00 น.ประกวดนางงามท้ายเกาะ

กิจกรรมช่วงเช้าสาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยปทุมธานี 2568 เข้ากราบสักการะพระปทุมธรรมราช และสักการะศาลหลักเมืองปทุมธานี โดยมีนายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้การต้อนรับ จากนั้นได้นำคณะผู้เข้าประกวดฯ ถ่ายรูปบริเวณศาลากลางจังหวัดปทุมธานี (หลังเก่า) และจวนผู้ว่าฯ

ทั้งนี้ กองประกวดนางสาวไทยจังหวัดปทุมธานี จัดกิจกรรมการเก็บตัวสาวงามผู้เข้าประกวดตัวแทนนางสาวไทยปทุมธานี ในช่วงวันที่ 27–30 มีนาคม 2568 เพื่อให้ตัวแทนผู้เข้าประกวดมีบทบาททูตวัฒนธรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี ช่วยส่งเสริมกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้กองประกวดนางสาวไทยปทุมธานี ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจังหวัดเจ้าภาพในการทำกิจกรรมเก็บตัว สาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวไทยระดับประเทศ ประจำปี 2568 อีกด้วย

โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.เกษม ศุภสิทธิ์ และ ผศ.ดร.กานต์สินี มิลินจรูญพงษ์ ประธานกองประกวด นางสาวไทยปทุมธานี ร่วมมือกับ Sclass Entertainment เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วการประกวดนางสาวไทยปทุมธานี 2568 จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “นางงามดารา” เพื่อเฟ้นหาสาวงามที่เพียบพร้อมทั้งความสวย ความสามารถ และไหวพริบอันโดดเด่นและเตรียมพบกับรอบตัดสินที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม นี้ ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต

สามารถติดตามการเดินทางของสาวงาม นางสาวไทยปทุมธานี 2568 ได้ทางช่องทางการสื่อสารของกองประกวด https://www.facebook.com/share/1AHdF45Fqp/?mibextid=wwXIfr นางสาวไทย ปทุมธานี – MT Pathum Thani นางสาวไทย – Miss Thailand Organization สามารถโหวตคะแนนเชียรสาวงามทั้ง 32 คนได้เฟสบุ๊กกองประกวดนางสาวไทยปทุมธานี

ผอ.ปภ. ชี้เหตุ “อาคารถล่ม” หลังเกิด “แผ่นดินไหว” เพราะยังไม่เซ็ตตัว

ผอ.ปภ. เผยเหตุ “อาคารถล่ม” หลังเกิด “แผ่นดินไหว” เพราะยังไม่เซ็ตตัว พร้อมชี้อุปสรรคในการทำงาน คือส่วนของอาคารที่ยังไม่มั่นคง

นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักครั้งนี้ เผยว่า เบื้องต้นสภาพพื้นที่เป็นอาคารระหว่างก่อสร้าง ความแข็งแรงของตัวอาคารยังไม่เซ็ตตัว หลังเกิดการสั่นไหวก็ทำให้พังลงมา โดยพังลงมาเป็นชั้นๆ เหมือนเค้ก

จากข้อมูลที่ได้จากก่อสร้าง พบว่ามีคนงานในพื้นที่ 94 คน ส่วนจำนวนร้อยกว่าคนคือคนงานที่อยู่บริเวณรอบ ๆ โดยสามารถช่วยเหลือไปส่งโรงพยาบาลได้แล้ว 11 คน และมีผู้ที่ตกค้างและพบสัญญาณชีพ 1 คน ส่วนอีก 3 คนเสียชีวิตไปแล้ว

ในส่วนการทำงานเบื้องต้น ได้รับการสนับสนุนจากทหาร ตำรวจ มูลนิธิภาคประชาชน ที่นำหุ่นยนต์มาช่วยค้นหา เพราะตัวอาคารที่พังลงมายังไม่มั่นคง การเข้าไปจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จากการพิจารณาเบื้องต้นได้มีการใช้โดรนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้บินสำรวจและถ่ายภาพด้วยกล้องอินฟราเรด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหา

ทั้งนี้ เบื้องต้นสิ่งที่ต้องโฟกัสลำดับแรกคือการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต โดยวิธีการค้นหาจะใช้กำลังพลเดินและช่วยกันฟังเสียง ในกรณีที่มีการเคาะหรือร้องให้ช่วย ซึ่งก็เจออย่างที่นำเรียนไปก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ นายสุริยชัย ยังระบุอีกว่า สุดท้ายแล้วหากยืนยันได้ว่าไม่พบผู้มีสัญญาณชีพ ก็จะพิจารณาในขั้นตอนต่อไป และขณะนี้กำลังระดมคนเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ด้านใน

ส่วนอุปสรรคในการทำงานขณะนี้ คือส่วนของอาคารที่ยังไม่มั่นคงและทับลงมา ทั้งนี้ยังมีระบบเครื่องมือเซฟตี้เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการทำงาน คือเครื่องตรวจจับการสั่นไหวของอาคาร.

บ้านโคกสูง สานแหจับปลาขาย สร้างรายได้เดือนละ 50,000 บาท ทั้งหมู่บ้าน

“บ้านโคกสูง” อ.เมืองขอนแก่น หมู่บ้านสานแหอวนขายเกือบทั้งหมู่บ้าน เผยใช้พื้นที่หน้าบ้านเรียงรายริมถนนสายหลักเป็นพื้นที่ขาย พร้อมสานแหอวนตามออเดอร์ ชาวบ้านยึดเป็นอาชีพสานแหจับปลา สร้างรายได้ให้แต่ละครัวเรือนเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาทที่บ้านโคกสูง ต.เหล่านางาม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ชาวบ้านที่นี่นอกจากทำอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่แล้ว อีกอาชีพที่ชาวบ้านโคกสูงหันมาทำมากขึ้นเรื่อยๆ คือ สานแหจับปลาขายปลีกหน้าบ้านริมถนนสายหลักจึงทำให้ถนนที่ผ่านเข้ามายังบ้านโคกสูงจะเห็นแหจับปลาหลากสีสันกว่าร้อยผืนห้อยอยู่ตามเพิงพักตลอดสองข้างทางของถนนเหล่านาดี ที่ตัดผ่านหมู่บ้านโคกสูง ตั้งแต่หัวบ้านจนท้ายบ้าน ต่างมีแหจับปลาห้อยไว้หน้าบ้านแบบนี้เกือบทุกหลังแหจับปลาที่ถูกผูกไว้ตามเพิงพักหน้าบ้านคือสินค้าที่สร้างรายได้ให้ชาวบ้านที่นี่มานานกว่า 40 ปี และแหจับปลาที่เห็นนี้ก็ไม่ใช่แหที่ชาวบ้านไปรับมาวางขาย แต่เป็นแหที่ชาวบ้านสานด้วยตนเอง เรียกได้ว่า นั่งทำที่นี่และขายที่นี่ ด้วยคุณภาพและราคาย่อมเยา จึงมีเหล่าเซียนหาปลาแวะเวียนมาเลือกซื้อแหและตาข่ายดักปลาตลอดทั้งวัน แหส่วนใหญ่ที่บ้านโคกสูงจะเป็นแหที่ทำจากเชือกไนลอน ซึ่งชาวบ้านจะนำเอาตาข่ายเชือกเอ็นไนลอนคุณภาพดี หลากหลายขนาดและสีสัน ซึ่งเป็นตาข่ายสำเร็จมาขึ้นรูปหรือเรียกว่าการต่อแห ด้วยคุณภาพและความสวยงามของแห จึงทำให้หมู่บ้านโคกสูงได้รับการขนานนามว่า หมู่บ้านสานแหของจังหวัดขอนแก่น

นางนิภา สุดจันฮาม หรือ แม่อ้อย อายุ 62 ปี เจ้าของ “ร้านแหแม่อ้อย รับซ่อมแห” เล่าว่า ตนเริ่มเรียนรู้วิธีการสานแหและต่อแหจากพ่อแม่มาตั้งแต่อายุได้ประมาณ 10 ขวบ ก่อนจะฝึกฝนและยึดอาชีพนี้มาจนถึงปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ 50 แล้ว โดยช่วงเริ่มแรกในหมู่บ้านก็มีเพียงครอบครัวของตนที่สานแหขาย เมื่อชาวบ้านเห็นว่า สามารถสร้างรายได้ดี จึงเริ่มมาเรียนรู้และขยายกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้ชาวบ้านเกือบทุกครัวเรือน แหของที่นี่จะเน้นแหที่มีสีสันหลากหลาย เพื่อดึงดูดลูกค้า มีทั้งแหที่ทำจากด้ายและเชือกเอ็นคุณภาพดี มีให้เลือกหลายขนาด ทั้งตาถี่และตาห่าง มีทั้งแหที่ทำจากเชือกเอ็นเกลียวอย่างดี และทำจากด้ายคุณภาพดี ทน และแข็งแรง โดยรับทำตามสั่ง ทั้งแบบเพลาลึก ลูกหนัก-เบา ตามความต้องการของลูกค้า ทำขนาดความยาวได้สูงสุดถึง 16 ศอก หว่านดี หว่านเเตกทุกผืน แต่ละวันจะมีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาสอบถามและสั่งซื้อไม่ขาดสาย

ที่ร้านของตนก็เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องแหคุณภาพดีคงทน แข็งแรง เมื่อชาวบ้านซื้อไปใช้จะติดใจและบอกต่อกัน เพราะแหที่ร้านหว่านแตก หากหว่านไม่แตกทางร้านรับประกันเปลี่ยนผืนใหม่ให้ จึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพ และติดต่อมาให้ผลิต ซึ่งทางร้านก็มีการขายทางออนไลน์ และจัดส่งทั่วประเทศไทย ทำให้ในแต่ละเดือนมีรายได้จากการขายแหหน้าร้านและทางออนไลน์ เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “แม่อ้อยแหอวน แหตามสั่ง ขอนเเก่น” หรือโทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 06-27050548

โดย…สมใจ นามสุดตา