ย่านเศรษฐกิจหาดใหญ่พังพินาศหลังน้ำลดขยะเกลื่อน-รถจมน้ำจอดเสียทั้งเมือง

หาดใหญ่ – พื้นที่ย่านเศรษฐกิจตัวเมืองหาดใหญ่น้ำแห้งแล้วได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ชาวบ้านยังเดือดร้อนหนักไม่มีทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ ทั้งยังมีรถที่ถูกน้ำท่วมจอดเสียทั่วทั้งเมือง

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในของตัวเมืองหาดใหญ่ น้ำเริ่มแห้งเกือบทุกพื้นที่แล้ว แต่ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายและขยะเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีรถที่ถูกน้ำท่วมจอดอยู่ตามถนนและบางคันถูกน้ำซัดมาจอดขวางถนน ทำให้การสัญจรเข้าออกเมืองหาดใหญ่ค่อนข้างลำบากจากรถที่เข้าออกตลอดทั้งวัน เช่นที่ ถนนเพชรเกษมตั้งแต่แยกสนามบินนอกจนถึงหาดใหญ่ใน ซึ่งเป็นหนึ่งเส้นทางสายหลักเข้าออกเมืองหาดใหญ่ รถมากระจุกตัวกันเป็นจำนวนมาก ทั้งรถชาวบ้าน รถกู้ภัยที่เข้าไปช่วยและออกจากตัวเมืองหาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่น้ำลดลงแล้วปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ ชาวบ้านและร้านค้าที่ยังไม่สามารถทำความสะอาดบ้านเรือนได้ เนื่องจากน้ำประปายังไม่ไหลและไฟฟ้าที่ยังดับ ทำได้แค่ขนย้ายข้าวของที่เสียหายจากน้ำท่วมออกมากองไว้หน้าบ้านเท่านั้น และบางชุมชนเจอกับปัญหาใหญ่เนื่องจากมีน้ำมันเครื่องเก่าจากโชว์รูมรถยนต์ไหลมากับน้ำเข้าไปในบ้าน และเป็นคราบสีดำเกาะติดทุกอย่างตามระดับน้ำที่ลดลงทำให้ล้างออกยาก

.

ฉายหนังกลางแปลงโต้ลมหนาวระดมเงินบริจาคช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมภาคใต้

ปราจีนบุรี – ฉายหนังกลางแปลงโต้ลมหนาว22องศาฯบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมภาคใต้ค่ำจรดดึก รวม 2 วัน ระหว่าง 27-28พ.ย.นี้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยมาร่วมบริจาคเงินสดคนละ 100 -200-500 บาทตามกำลังศรัทธาและห่วงใยพี่น้องชาวภาคใต้

เมื่อเวลา21.30 น.วันที่ 27 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้ ที่ตลาดเทศบาลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีหน่วยจัดฉายภาพยนตร์กลางแปลงเกียรติพงษ์ภาพยนตร์ ได้จัดฉายหนังกลางแปลงโต้ลมหนาวท่ามกลางอุณหภูมิ22 องศาเซลเซียส ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา

ซึ่งจะจัดฉายหนังกลางแปลงให้ดูฟรีที่เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รวม 2 คืน  (27-28พ.ย.นี้ )เพื่อรับบริจาคนำรายได้ทั้งหมดส่งมอบกับทางมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย(อ.กบินทร์บุรี)โดยผู้บริหารจะนำเงินบริจาคธารน้ำใจชาวปราจีนบุรีที่ได้ทั้งหมดไปช่วยน้ำท่วมภาคใต้ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นและได้จัดฉายหนังกลางแปลงให้ชมฟรีทั้งสองคืน

นายเกียรติพงษ์ กองทอง เจ้าของหนังกลางแปลงกล่าวว่า ในนามอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมฯได้ร่วมหารือกับกรรมการมูลนิธิฯเพื่อหารายได้ช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้รวบรวมธารน้ำใจชาวปราจีนบุรีร่วมทำบุญบริจาคให้กับพี่น้องประชาชนอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาซึ่งถูกน้ำท่วมหนัก

จึงได้จัดหนังกลางแปลงมาฉายโต้ลมหนาวที่หนาวต่อเนื่องใน2-3 วันแล้ว   เพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่ในตลาดมาชมหนังได้แบ่งปันความบันเทิงพักผ่อน และเพื่อร่วมสร้างพลังสามัคคีเป็นกำลังใจช่วยเหลือเหมือนธารน้ำใจแก่ผู้ที่ถูกน้ำท่วมที่ภาคใต้ในขณะนี้ ก่อนหน้าได้ประชาสัมพันธ์ผ่านโลกออนไลน์ต่าง ๆ พบตลอดจรจรดดึกนี้  มีประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยมาร่วมบริจาคเงินสดคนละ 100 -200-500 บาทตามกำลังศรัทธา

ด้านนางฉัตรลดา อังชรินทร์สังกาด ชาวบ้านที่ร่วมบริจาคเงินสด  กล่าวว่า  ฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆ อยากเป็นกำลังใจให้สู้ๆต่อไป

โดย… มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ/ ปราจีนบุรี ###

.

“ปลัดมท.”สั่งทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟู-ช่วยเหลือผู้ประสบมหาอุทกภัยภาคใต้หลังน้ำลด

“ปลัด มท.” ติดตามเร่งรัดการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยหาดใหญ่ สั่งการนำรถครัวเคลื่อนที่เข้าประกอบอาหารในชุมชน และประสานการประปาส่วนภูมิภาคเข้าทำการเปิดระบบผลิตและจ่ายน้ำโดยเร็วที่สุด และขับรถยนต์พาครอบครัวกลุ่มเปราะบางไปพักยังโรงแรมที่จังหวัดจัดเป็นที่พักกลุ่มเปราะบางด้วยตนเอง

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.568 เวลา 18.50 น.นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามเร่งรัดการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้แทนกรม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วม ณ ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) ศอ.ปภ. เขต 12 สงขลา ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยนายอำเภอ/ผู้แทน 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ในพื้นที่อำเภอ

ในระหว่างการประชุม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานีและประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ามาในห้องประชุมและร่วมหารือแนวทางการฟื้นฟู ก่อนที่จะเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปลงพื้นที่เขต 8 หาดใหญ่ นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โทรศัพท์เข้ามาติดตามความก้าวหน้าการฟื้นฟูตามข้อสั่งการด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม ในช่วงเวลา 20.30 น. นายอรรษิษฐ์ ได้ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา เพื่ออำนวยการอำนวยความสะดวก นำประชาชนกลุ่มเปราะบางและครอบครัวไปพักยังโรงแรมที่พักซึ่งทางจังหวัดได้จัดเป็นที่พักสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง โดย นายอรรษิษฐ์ ได้ขับรถยนต์ หมายเลขทะเบียน งธ9673 สงขลา พาครอบครัวกลุ่มเปราะบางไปยังโรงแรมบีพี สมิหลาบีช ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักที่ทางจังหวัดจัดให้กลุ่มเปราะบางพักด้วยตนเอง

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานได้เร่งฟื้นฟูและดูแลบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยตามภารกิจการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร่งด่วนด้วยการประสานการปฏิบัติร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วถึง ซึ่งวันนี้ กระทรวงมหาดไทยโดยกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้นำกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 2,000 คน เข้าทำการฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนเก็บกวาดสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ โดยกองบังคับการที่เดินทางมาถึงก่อนก็ได้เข้าปฏิบัติภารกิจทันที

นายอรรษิษฐ์ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเงินทดรองราชการตามที่กรมบัญชีกลางได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเพิ่มเติม 100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วทั่วถึง และให้จังหวัดได้ประสานผู้ประกอบการโรงแรมเพื่อจัดหาที่พักสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง โดยเบิกจ่ายจากเงินทดรองราชการตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางได้อนุมัติแล้ว โดยในวันนี้สามารถเข้าพักได้ 30 ห้อง และในวันพรุ่งนี้เข้าพักได้อีก 70 ห้อง รวม 100 ห้อง

นายอรรษิษฐ์ ยังได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เคลื่อนย้ายรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ ซึ่งจากข้อมูลในขณะนี้มีรถประกอบอาหารของ ปภ. 4 คัน กรมการพัฒนาชุมชน 2 คัน และจังหวัดพังงา 2 คัน ไปยังพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบทันที ภายหลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เคลื่อนย้ายรถที่จอดกีดขวางทางเข้าชุมชนแล้ว และได้ประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาเคลื่อนย้ายรถที่จอดกีดขวาง เพื่อเจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาคเข้าทำการเปิดระบบการผลิตน้ำและจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว

ในช่วงท้าย นายอรรษิษฐ์ ได้สั่งการนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งประชุมผ่านระบบออนไลน์ในพื้นที่ ได้เร่งสำรวจและจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนผู้ประสบภัยตามกลไกคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (กชพจ.) โดยประชาชนจะสามารถรับเงินเยียวยาได้ทางหมายเลขพร้อมเพย์ผ่านทางธนาคารออมสินตามแนวทางของรัฐบาลต่อไป

นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ตั้งคณะทำงานสำรวจความปลอดภัยอาคารหลังน้ำลด เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซม รวมถึงเป็นฐานข้อมูลในการชดเชยเยียวยา โดยบูรณาการวิศวกร สถาปนิกทั้งภาครัฐและเอกชนใน 14 จังกวัดภาคใต้ รวมทั้งระดมเครื่องจักรกล รถตัก รถขุด รถน้ำ รถบรรทุกจากผู้ประกอบการในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียง เพชรบุรี และราชบุรี จำนวน 50 ชุด เข้าทำความสะอาดพื้นที่และฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว

.

เปิดภาพความเสียหายพื้นที่เศรษฐกิจใจกลาง อ.หาดใหญ่ หลังน้ำท่วมลด

เปิดภาพความเสียหายพื้นที่เศรษฐกิจใจกลาง อ.หาดใหญ่ หลังน้ำท่วมลด ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในสงขลาพุ่งเกือบร้อยราย

สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (27 พ.ย.) เริ่มคลี่คลายลงแล้ว หลายพื้นที่มีระดับน้ำที่ท่วมลดลงอย่างมาก ทำให้ประชาชนบางส่วนสามารถกลับเข้าไปสำรวจความเสียหายและตรวจสอบทรัพย์สิน รวมถึงเริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนแล้ว

หลังจากต้องอยู่ในสภาพขาดแคลนอาหารมาหลายวัน ประชาชนส่วนหนึ่งเข้าไปหยิบอาหารและข้าวของต่าง ๆ ในร้านสะดวกซื้อที่กระจกแตกเสียหายเพื่อนำมารับประทานประทังความหิวของตนเองและคนในครอบครัว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้ถ่ายภาพจากมุมสูง เผยให้เห็นว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารแห่งหนึ่งบนถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 บริเวณใกล้กับตลาดกิมหยง ยังไม่มีรายงานถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าวในขณะนี้

ล่าสุด ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) รายงานว่า ผู้เสียชีวิต 85 ราย เฉพาะใน จ.สงขลา แบ่งเป็น ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม 55 ราย ส่วนที่เหลืออีก 30 ราย เสียชีวิตจากเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำท่วม

น้ำท่วมภาคใต้ กระทบสวนยางกว่า 4.1 ล้านไร่ สูญกว่า 2 พันล้านบาท

ดร.เพิก เลิศวังพง ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ทางภาคใต้ได้รับผล กระทบ 9 จังหวัด อาทิ จังหวัดนครศรีธรรมราช,พัทลุง,ชุมพร,สุราษฎร์ธานี และสงขลา เป็นต้น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นที่การเกษตรอย่างรุนแรง

โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกยางพารา กยท. คาดการณ์ผลกระทบด้านยางพารา จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องและอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ในระยะ 10 วันที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 18-27 พ.ย. 68)  มีพื้นที่สวนยางเปิดกรีด ได้รับผลกระทบรวมกว่า 4.1 ล้านไร่ คาดผลผลิตของยางพาราหายไปจากระบบ เนื่องจากเกษตรกรชาวสวนยางไม่สามารถกรีดยาง และเก็บเกี่ยวผลผลิตยางได้ รวมกว่า 43,000 ตันคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดีหลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ กยท. จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจความเสียหายสวนยางที่ประสบภัยและประเมินระดับความเสียหายของต้นยาง พร้อมให้คำแนะนำแก่เกษตรกรชาวสวนยางอย่างใกล้ชิดเพื่อฟื้นฟูสภาพสวนยางหลังน้ำลด ลดความเสียหายในระยะยาว ตลอดจนมาตรการเยียวยาตามสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง มาตรา 49 (5) แห่งพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558

โดยกรณีที่สวนยางของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ประสบภัยจนเสียสภาพสวน หรือต้นยางได้รับความเสียหายเกิน 20 ต้น/แปลง จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 3,000 บาท นอกจากนี้ กยท. ยังมีเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง รายละไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับนำไปใช้ปรับปรุงสวนยาง ที่อยู่อาศัย เครื่องมือ รักษาพยาบาลตนเอง ตลอดจนเป็นทุนในการประกอบอาชีพเสริมต่อไป

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอดหลังเมียนมาเปิดศึกปะทะกันรุนแรง

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบ ชายแดนไทย – เมียนมา อ.แม่สอด จังหวัดตาก และมอบของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568. พล.ต.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย หน่วยเฉพาะกิจราชมนู หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการ และผู้นำหมู่บ้าน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ชายแดนไทย–เมียนมา บริเวณ ท่าข้าม บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่

หลังเกิดเหตุการปะทะอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ บ้านนิลละป่าน ฝั่งประเทศเมียนมา ระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้าน และจากสถานการณ์ ยกระดับการกวาดล้าง กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ (สแกมเมอร์) บริเวณอาคารนิลละป่าน จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ทำให้มีชาวต่างชาติหลายสัญชาติที่หวาดกลัวต่อสถานการณ์ จำนวนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมการหลบหนีข้ามแม่น้ำเมย เข้ามายังฝั่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันยังคงปักหลักอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมย ประเทศเมียนมา

โดยในครั้งนี้ พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ ได้เตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เตรียมการปฏิบัติตามกฎการใช้กำลัง หรือ Rules of Engagement หากมีการละเมิดการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และยังประสาน ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมการรองรับสถานการณ์หากเกิด ชาวต่างชาติ หลบหนีมายังฝั่งไทย เพื่อคัดกรอง และ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ลอดจนการลงพื้นที่ บูรณาการร่วมกับส่วนราชการ ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค และวัสดุซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายจากวิถีกระสุน จากการสู้รบของฝั่งประเทศเมียนมา ตามแนวชายแดน

 ซึ่งปัจจุบัน กองกำลังนเรศวรยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ

.

ชาวซีพีเอฟ ระดมสรรพกำลัง ฝ่าน้ำช่วยพี่น้องชาวใต้

เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ทวีความรุนแรง ซีพีเอฟรุดให้ความช่วยเหลือจาก “อาหาร” สู่ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเชิงรุก

กองเรือและหน่วยเคลื่อนที่เร็วของซีพีเอฟ นำเรือท้องแบน 3 ลำ พร้อมทีมเจ็ตสกีภูเก็ต ของเครือซีพี ลงพื้นที่หาดใหญ่ ร่วมภารกิจกับทหาร ตำรวจ และทีมกู้ภัยทางน้ำ เร่งอพยพผู้คนที่ติดค้างในบ้าน พร้อมส่งมอบอาหารและน้ำดื่มให้ถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด

ทีมจิตอาสา ร่วมกันแพ็ค “ถุงกำลังใจ” บรรจุข้าวสาร อาหารแห้ง ไฟแช็ก เทียน ยากันยุง และของใช้จำเป็น เพื่อกระจายไปยังชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ทุกถุงจัดเตรียมอย่างเร่งด่วน เพราะทุกความเดือดร้อนรอไม่ได้

เสียงจากผู้ได้รับความช่วยเหลือสะท้อนความเดือดร้อน “ขอบคุณที่มาช่วย… หลายบ้านติดอยู่ 5-6 วัน บางคนเพิ่งได้กินมื้ออิ่มที่สุดเป็นครั้งแรกในหลายวัน” ข้อความสั้น ๆ นี้ย้ำว่าอาหารและการอพยพออกจากพื้นที่เป็นเรื่องเร่งด่วนเพียงใด

นอกจากช่วยคนแล้ว ซีพีเอฟยังไม่ทิ้งเพื่อนสี่ขา บริษัทมอบอาหารสุนัข ‘เจอร์ไฮ’ และอาหารแมว ‘จินนี่’ รวม 3.2 ตัน ผ่านกรมปศุสัตว์ เพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่ประสบปัญหาอาหารขาดแคลนในพื้นที่ด้วย

ซีพีเอฟ ยืนหยัด “เคียงข้างทุกวิกฤต” โดยร่วมมือกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม มูลนิธิ และชุมชนต่างๆ ทั้งในจังหวัดสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เพื่อความช่วยเหลือครอบคลุม จนกว่าวิกฤตจะผ่านพ้น

.

งามไส้!จับเจ้าหน้าที่คาสนง.สรรพากรตบทรัพย์บริษัทเลี่ยงเก็บภาษีเข้ารัฐ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก , พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. , พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปปป. ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ,นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ, นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผอ.กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่

ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายชิตพลฯ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ สังกัดสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 104/2568 ลงวันที่ 25 พ.ย.68
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา  สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซ.วัดลาดปลาเค้า 78 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
 
พฤติการณ์  สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2568 บริษัทของผู้กล่าวหาซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ บก.ปปป. กรณีถูก นายชิตพลฯ นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้าตรวจสอบภาษีประจำปี และเรียกเก็บค่าภาษีของปี 2566-2568 กับทาง บริษัทฯ โดยมีการคำนวณภาษี ที่ บริษัทฯ ต้องจ่ายให้แก่รัฐจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย ค่าธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) กรณีให้บริษัทกู้เงินลงทุน ต้องมีการคิดดอกเบี้ยเงินได้ในอัตราร้อย 7 เปอร์เซ็นต่อปี รวมเป็นเงิน จำนวน 93,320.92 บาท , ค่าภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) จำนวน 288,220.50 บาท และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) บวกกับภาษีเงินได้นิติบุคคลอีกส่วนหนึ่งจำนวน 5,269,921.24 บาท รวมค่าภาษีที่บริษัทฯ จะต้องจ่ายให้กับ สำนักงานสรรพากร จำนวนทั้งสิ้น 5,651,462.65 บาท (ห้าล้านหกแสนห้าหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบสองจุดหกห้าบาท)

แต่ นายชิตพลฯ ได้เสนอกับทาง บริษัทฯ ว่าหากไม่ต้องการจ่ายเงินยอดค่าภาษีที่ บริษัทฯ ค้างชำระดังกล่าว ก็ให้หาเงินมาจ่ายเงินกับตน จำนวน 100,000 บาท แล้วจะยุติค่าเสียภาษีประจำปีให้ ซึ่ง บริษัทฯ ผู้ขอความเป็นธรรมได้ขอต่อรองจน นายชิตพลฯ ยอมลดจำนวนเงินที่เรียกรับสินบนเหลือ จำนวน 50,000 บาท โดยทางบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินบางส่วนไปแล้ว จำนวน 40,000 บาท คงเหลือค้างจ่ายเงินสินบนอยู่จำนวน 10,000 บาท และต่อมา    ผู้กล่าวหาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย จนกระทั่งวันนี้ (27 พ.ย.68) บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. เข้าจับกุมผู้ต้องหาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

รพ.สมิติเวช ผนึก 5 พันธมิตรยกระดับสุขภาพสู่ Expert Care for Every Dimension of Life ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

โรงพยาบาลสมิติเวช สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการสุขภาพ ด้วยการเปิดตัวแนวคิด “Expert Care for Every Dimension of Life”  ยกระดับให้การมาโรงพยาบาล เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกมิติ  ผสานการแพทย์ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เพื่อดูแลสุขภาพของคนรุ่นใหม่และครอบครัวยุคใหม่ ที่ต้องการมากกว่าแค่ “การรักษา” แต่คือ “คุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ”

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า “วันนี้สมิติเวชไม่ได้มองว่าผู้รับบริการของเราทั้งหมดคือผู้ป่วย แต่คือคนที่อยากใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เราเชื่อว่าการแพทย์ต้องพัฒนาให้เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งในมุมของสุขภาพกาย ใจ ความงาม และความสุข เราต้องการเติมเต็มประสบการณ์ในทุกมิติ”เพื่อตอบโจทย์นี้ สมิติเวชได้จับมือกับ 5 พันธมิตรระดับพรีเมียม ที่ร่วมกันออกแบบบริการจาก “โจทย์จริงของผู้รับบริการ”

⦁ Jubilee Diamond แบรนด์เครื่องประดับเพชรแท้อันดับหนึ่งของไทย สร้าง “ของขวัญแห่งชีวิต” สำหรับคุณแม่ที่มาคลอดบุตร ณ โรงพยาบาลสมิติเวช ด้วยจี้เพชร Year of the Horse พร้อมเทคโนโลยีสุดพิเศษอย่าง Jubilee iMoment ให้เป็นของขวัญชิ้นแรกแห่งชีวิตที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อเก็บโมเมนต์แห่งความสุขของครอบครัวไว้ตลอดกาล

⦁ เชฟวิลเมนท์ ลีออง เชฟชื่อดังระดับประเทศ  ร่วมออกแบบเมนู “Food is Care” เพื่อให้มื้ออาหารในโรงพยาบาลช่วยทั้งฟื้นฟูร่างกายและสร้างความสุขจากรสชาติ

⦁ POEM แบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์ ออกแบบ “ชุดตรวจสุขภาพและชุดคุณแม่หลังคลอด” ที่ผสานความงาม ความสบาย และฟังก์ชัน เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกดี

⦁ Copper Beyond Buffet ร้านบุฟเฟต์นานาชาติพรีเมียม จัดเมนูทางเลือกสุขภาพ “Recommended by Samitivej” ที่ผ่านการรับรองโดยนักโภชนาการของโรงพยาบาล และ Special Menu เพื่อให้ทุกมื้ออร่อยและดีต่อสุขภาพ และแพ็กเกจสุดพิเศษที่รวมมื้ออร่อยจาก Copper เข้ากับโปรแกรมตรวจสุขภาพจากสมิติเวช

⦁ La Bella รองเท้าเพื่อสุขภาพ เปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ เพื่อความสบายของผู้ตั้งครรภ์ ภายใต้แนวคิด “การดูแลสุขภาพเริ่มจากก้าวแรก” พร้อมการทำ Workshop ร่วมกัน

“ทุกพันธมิตรในโครงการนี้ ไม่ได้มาร่วมกันเพียงเพื่อสร้างภาพลักษณ์หรูหรา แต่เพราะเราเห็น ‘Pain Points’ เดียวกัน — คนรุ่นใหม่อยากดูแลสุขภาพ แต่ไม่อยากรู้สึกเหมือนคนป่วย สมิติเวชจึงเชื่อมทุกมิติของชีวิตเข้าไว้ในที่เดียว” — นพ.ชัยรัตน์ กล่าวเสริม

5 พันธมิตรระดับพรีเมียม ร่วมกับสมิติเวช ยกระดับประสบการณ์สุขภาพทุกมิติ

Jubilee – ของขวัญแห่งชีวิตครอบครัวปีม้า ที่เก็บทุกความทรงจำอันล้ำค่าไว้ในหนึ่งเดียว

คุณอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“การคลอดบุตรคือหนึ่งในช่วงเวลาที่งดงามและทรงคุณค่าที่สุดของชีวิต Jubilee เข้าใจดีถึงความรู้สึกนั้น สมิติเวชเองก็ให้ความสำคัญกับการดูแลทั้งสุขภาพกายและใจของคุณแม่ Jubilee จึงร่วมต่อยอดเฉลิมฉลองประสบการณ์แห่งความรักนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่าน จี้เพชร Year of the Horse พร้อมเทคโนโลยีสุดพิเศษอย่าง Jubilee iMoment  เพื่อเก็บทุกโมเมนต์ของชีวิตให้คงอยู่เหนือกาลเวลา”ของขวัญชิ้นพิเศษนี้จะมอบให้คุณแม่ที่คลอดบุตร ณ โรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อแทนความรัก ความทรงจำ และพลังแห่งชีวิตใหม่ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของการดูแลที่ใส่ใจความรู้สึกและเรื่องราวของทุกครอบครัวอย่างแท้จริง

เชฟวิลเมนท์ ลีออง – Food is Care เมื่ออาหารคือส่วนหนึ่งของการรักษา 

เชฟวิลเมนท์ ลีออง ผู้อำนวยการภาคพื้นทวีปเอเชีย และกรรมการบริหารสมาคมเชฟโลก กล่าวว่า “หลายคนยังมองว่าอาหารในโรงพยาบาลคือสิ่งที่ ‘ต้องกิน’ แต่เราอยากเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่ ‘อยากกิน’ และมีคุณค่าต่อการฟื้นฟูร่างกายจริง ๆ” เชฟวิลเมนท์ จึงร่วมกับทีมโภชนาการสมิติเวช พัฒนาเมนูที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแต่ละกลุ่มผู้ป่วย ตั้งแต่คุณแม่หลังคลอดจนถึงผู้สูงอายุ โดยเน้นรสชาติที่ดี ควบคู่กับสารอาหารครบถ้วน เพื่อให้มื้ออาหารกลายเป็นอีกหนึ่งพลังในการฟื้นฟูสุขภาพ และยกระดับประสบการณ์การพักรักษาในโรงพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น

POEM – ดีไซน์ประสบการณ์ตรวจสุขภาพที่ Timeless, Functional และ Stylish              

คุณฌอน-ชวนล ไคสิริ Creative Director แบรนด์ POEM กล่าวว่า “เราพบว่าผู้มารับบริการตรวจสุขภาพจำนวนมากรู้สึกว่าการมาโรงพยาบาลทำให้ตัวเองดูเป็น ‘คนป่วย’ ทั้งที่จริงแล้ว นี่คือการใส่ใจสุขภาพของคนที่อยากใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า” POEM จึงออกแบบชุดตรวจสุขภาพและชุดสำหรับคุณแม่หลังคลอดให้ผสานความสบาย ความงาม และฟังก์ชันเข้าด้วยกัน เพื่อเปลี่ยนมุมมองการมารับบริการให้เป็นประสบการณ์ที่รู้สึกดีและมีสไตล์ สะท้อนแนวคิดใหม่ของสมิติเวชที่มองสุขภาพเป็นเรื่องของ “การใช้ชีวิต” มากกว่า “การรักษา”

Copper Beyond Buffet – เมื่อความอร่อยและสุขภาพไปด้วยกันได้

คุณพจนีย์ พินิจศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร Copper Beyond Buffet กล่าวว่า “ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น และมองว่าอาหาร คือส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพ Copper จึงร่วมกับสมิติเวช ออกแบบเมนูที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพจริง”

Copper ได้นำเมนูยอดนิยมมาจัดเป็นเมนูทางเลือกสุขภาพ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “Recommended by Samitivej” ที่ผ่านการรับรองจากนักโภชนาการ พร้อม Special Menu ที่รังสรรค์ร่วมกับเชฟวิลเมนท์และคุณหมอผิง พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล เพื่อให้ทุกมื้อของผู้รับบริการเต็มไปด้วยคุณค่าและความอร่อยที่มั่นใจได้ 

นอกจากนี้ เรายังรังสรรค์แพ็กเกจสุดพิเศษที่รวมมื้ออร่อยจาก Copper เข้ากับโปรแกรมตรวจสุขภาพจากสมิติเวช เพื่อเติมเต็มทั้งรสชาติและสุขภาพในเวลาเดียวกัน

ทั้งหมดนี้เป็น Exclusive Collaboration พบได้ที่ Copper Beyond Buffet สาขา Gaysorn Amarin เท่านั้น

La Bella – ก้าวแรกของสุขภาพที่ดี เริ่มจากการเดินอย่างมั่นคง

ดร.บรินดา แฮนเซ่น ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ แบรนด์ La Bella – Soft Shoes กล่าวว่า “คนไข้จำนวนมากมีปัญหาสุขภาพจากการเดินหรือยืนผิดท่า รวมทั้งอาการเท้าบวมของคนท้อง สมิติเวชจึงร่วมกับเราเพื่อให้ความรู้และเครื่องมือในการดูแลสุขภาพเท้าอย่างถูกวิธี”

La Bella ร่วมสร้าง Pop-up Store และ Workshop เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมกิจกรรมให้ความรู้เรื่อง BioAge โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อให้ผู้รับบริการเข้าใจสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก และยังมอบรองเท้าเพื่อสุขภาพให้กับคุณแม่หลังคลอดและผู้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายอย่างสมบูรณ์

การร่วมมือของทั้ง 5 แบรนด์ในครั้งนี้ สะท้อนแนวทางใหม่ของสมิติเวช ที่เชื่อว่าการดูแลสุขภาพไม่ควรจำกัดอยู่แค่ “การรักษาโรค” แต่คือการเข้าใจผู้คนในทุกมิติ ทั้งกาย ใจ และไลฟ์สไตล์  เพื่อยกระดับให้การมาโรงพยาบาล เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกมิติ

.

เปิดฉากยิ่งใหญ่!นักวิ่งปอดเหล็กแห่ร่วม”มินิมาราธอน 2025″กระตุ้นท่องเที่ยว-ศก.ชัยภูมิ

คึกคัก! สมาคมกีฬาฯชัยภูมิ จัด”มินิมาราธอน 2025″ เปิดฉากยิ่งใหญ่! ลั่นระฆังปล่อยตัว นักวิ่งแห่ร่วมทะลุเป้า ดันเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ชัยภูมิ – เมื่อเร็วนี้ บรรยากาศบริเวณสนามกีฬากลาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพลังของนักวิ่งหลายพันคน ในพิธีเปิดการแข่งขัน “ชัยภูมิมินิมาราธอน 2025” กิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพและส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปีของจังหวัด

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ เดินทางมาเป็น ประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดชัยภูมิที่มาร่วมให้กำลังใจนักกีฬาอย่างคับคั่ง

ไฮไลต์สำคัญคือการเข้าร่วมของ นายวรวุฒิ จอดนอก นายกสมาคมแห่งกีฬาจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาฯ ผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งได้เดินทางมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อร่วมต้อนรับและให้กำลังใจนักวิ่งในทุกช่วงอายุ สะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการกีฬาของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

“การแข่งขัน ‘ชัยภูมิมินิมาราธอน’ ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะการแสดงศักยภาพด้านการจัดงานกีฬาระดับมาตรฐาน ซึ่งเราได้รับความสนใจจากนักวิ่งจากทั่วประเทศ” นายกฯ บรรยงค์ กล่าว

การเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ของ “ชัยภูมิมินิมาราธอน 2025” นับเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างกระแสการออกกำลังกายให้เป็นวิถีชีวิต พร้อมทั้งยกระดับจังหวัดชัยภูมิให้เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของงานวิ่งระดับประเทศต่อไป

มัฆวาน วรรณกุล – อารดา ผู้สื่ข่าวภูมิภาคชัยภูมิ