“ในปี 2568 นี้ เป็นปีที่ 3 ในการขับเคลื่อนการยกระดับอาหารถิ่นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นนโยบายที่สำคัญของกระทรวงวัฒนธรรม และนอกเหนือจากการค้นหาเมนูอาหาร “รสชาติ…ที่หายไป” แล้ว ยังมุ่งพัฒนาเมนูอาหารถิ่นสู่การจัดสำรับเครื่องดื่มพื้นบ้าน (assortment of traditional cuisine and beverages) ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เกิดการอนุรักษ์และเผยแพร่องค์ความรู้และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอาหารของประเทศ การออกไปสำรวจจังหวัดต่างๆ ของไทยและนำเทคนิค ส่วนผสม และรสชาติแบบดั้งเดิมที่เคยถูกละเลยมาสู่เมืองหลวงอีกครั้ง ตลอดจนการนำเสนอเมนูอาหารที่สร้างสรรค์สู่สากล“นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ เมนูยอดฮิตของไทย “ต้มยำกุ้ง” ยังได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ในบัญชีรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity – บัญชี RL) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage: ICS-ICH) ครั้งที่ 19 ณ กรุงอาซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของไทยและถือเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในระดับสากลต่อคุณค่าและความสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง” ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหาร ซึ่งถือเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีการสร้างสรรค์ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างหลากหลาย สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำลำคลองในภาคกลางของไทยตลอดหลายศตวรรษที่มีวัฒนธรรมการบริโภคอาหารผ่านการสังเกตและเรียนรู้จากธรรมชาติ รวมถึงความเรียบง่ายและการดำเนินชีวิตที่พึ่งพิงธรรมชาติ พึ่งพาตนเอง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ