ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานีสั่งพื้นที่เสี่ยงภัยรับมือท่วมฉับพลันระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำคลองยัน ณ บริเวณสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 6 กับหมู่ที่ 10 ต.บ้านยาง  อ.คีรีรัฐนิคม  จ.สุราษฎร์ธานี  ช่วงเช้าวันนี้(20 พ.ย.68)  ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  จนถึงระดับแจ้งเตือน  โดยกระแสน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว บางจุดเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ไร่สวนของราษฎรบ้างแล้ว  หลายคนเริ่มขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าไปไว้ในที่ปลอดภัย  ขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง  ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายจุมพฏ  วรรณฉัตรสิริ  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ได้ลงพื้นทึ่เยี่ยมเยียนประชาชนพร้อมสั่งการให้อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบลุ่ม/ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน  ให้ระมัดระวังอุทกภัยจากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น และปริมาณน้ำสะสมที่อาจเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก  ดินถล่ม  และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้

นอกจากนี้ให้อุทยานทุกแห่ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตก ถ้ำ  จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างไกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤติ ให้ดำเนินการปิดหรือห้ามเข้าโดยเด็ดขาด  รวมทั้งให้ตรวจสภาพความพร้อมด้านกำลังพล  ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ​ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่​กรณีเกิดภัยพิบัติ​  ได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง.

ภาพ/ข่าว    – สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี

“แอลพีจีเอ”ทุ่มเงินรางวัลทุบสถิติกว่า 4,278.8 ล้านบาท ดวลวงสวิง 33 รายการ ปี 2026

แอลพีจีเอ ทัวร์ ประกาศโปรแกรมการแข่งขันฤดูกาล 2026 แข่งขันทั้งหมด 33 รายการทั่วโลก 13 ชาติ และ 13 รัฐในสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดในประวัติศาสตร์ทัวร์กว่า 4,278.8 ล้านบาท ขณะที่ไทย ปักหมุด ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ดวล 19-22 ก.พ. ที่ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี 

สมาคมกอล์ฟอาชีพสตรี หรือ แอลพีจีเอ (LPGA) ประกาศโปรแกรมการแข่งขันฤดูกาล 2026 ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยจะแข่งขันทั้งหมด 33 รายการ และเงินรางวัลรวมเพิ่มขึ้นเป็น 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,278.8 ล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทัวร์เพื่อให้นักกอล์ฟหญิงของสมาชิกทัวร์ได้ร่วมแข่งขันพร้อมรายการใหม่ อารามโก แชมเปียนชิพ ที่ชาโดว์ ครีก กอล์ฟ คอร์ส เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา  และกอล์ฟทีมโซล์ไฮม์ คัพ

เคร็ก เคสเลอร์ กรรมาธิการแอลพีจีเอ เผยว่า “ผมภูมิใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นกับเส้นทางที่เรากำลังมุ่งไป ตารางการแข่งขันนี้สะท้อนถึงความพยายามของเราที่จะยกระดับสนาม ปรับปรุงเส้นทางการแข่งขัน และเพิ่มเงินรางวัลให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังการฉลองครบรอบ 75 ปี เราต้องการปฏิทินการแข่งขันที่จะมอบเวทีอันยอดเยี่ยมให้แก่นักกีฬา มีความลื่นไหลมากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้มากกว่าเดิม และผมคิดว่าปี 2026 ทำได้ตามนั้น เราได้ก้าวหน้าอย่างแท้จริง และเรามีเป้าหมายชัดเจนว่าปี 2027 และหลังจากนั้น เรายังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกในจุดใดบ้าง”

โปรแกรมแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2026 จะแข่งขันใน 13 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา และอีก 13 ประเทศเริ่มต้นจากรัฐฟลอริดาปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะเข้ามาในเอเชียช่วงแรกเป็นฤดูใบไม้ผลิตในประเทศไทย ในการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์, สิงคโปร์ และจีน ขณะที่ช่วงที่สองฤดูใบไม้ร่วงเริ่มจากจีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และญี่ปุ่น  

ทางยูโรเปียน สวิง นั้น จะเริ่มต้นในช่วงกลางปี รวมสองเมเจอร์ และรายการ ไอเอสพีเอส ฮันดะ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น ก่อนที่แอลพีจีเอ จะกลับไปยุโรปอีกครั้ง เพื่อแข่งขัน ทีมโซลไฮม์ คัพ ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในช่วงเดือนกันยายน ในขณะที่อเมริกาเหนือยังคล้ายกับฤดูกาลที่แล้วมีทั้งเม็กซิโก และแคนาดา 

ส่วนรายการเมเจอร์นั้น จะเริ่มต้นด้วยการแข่งขัน เดอะ เชฟรอน แชมเปียนชิพ ในเดือนเมษายน ก่อนจะเป็นรายการ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น พรีเซนเต็ด บาย แอลลาย ที่ริเวรา คันทรี  คลับ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามไปด้วย เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ สิ้นเดือนมิถุนายน ที่รัฐมินนิโซตา ขณะที่ ดิ อามุนดี เอวิยอง แชมเปียนชิพ ที่เอวิยอง รีสอร์ต กอล์ฟ คลับ ประเทศฝรั่งเศส และเมเจอร์สุดท้าย เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ที่รอยัล ไลแธม แอนด์ เซนต์แอนส์ กอล์ฟ คลับ ในไลแธม เซนต์ แอนน์ส ประเทศอังกฤษ

ฤดูกาลหน้าจะมีกอล์ฟทีม โซลไฮม์ คัพ ระหว่างทีมยุโรปกับสหรัฐอเมริกา จะแข่งขันที่เบอร์นาร์ดุส กอล์ฟ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน ทางทีมยุโรปเจ้าภาพ โดยกัปตันทีม อันนา นอร์ดควิสต์ โปรสาวชาวสวีเดน และทางทีมสหรัฐ นำโดย แองเจลา สแตนฟอร์ด   

นอกจากนี้ยังมีรายการใหม่ อารามโก แชมเปียนชิพ รายการร่วมกับ เลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ ที่ชาโดว์ ครีก กอล์ฟ คอร์ส เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน ชิงเงินรางวัลรวมมากถึง 4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองรายการที่ไม่่ใช่เมเจอร์ และไม่ใช่ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ (11 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ) มีเงินรางวัลรวมมากที่สุดอีกรายการ คือ เอฟเอ็ม แชมเปียนชิพ ช่วงเดือนสิงหาคม ที่บอสตัน เงินรางวัลรวม 4.4 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ  

แอลพีจีเอ ทัวร์ ปัจจุบันมี 12 รายการ ที่ประกาศปรับเพิ่มเงินรางวัลรวมแล้ว และอีกกว่า 15 รายการ คาดว่าจะมีเงินรางวัลขั้นต่ำให้ผู้เล่นทุกคนที่เข้าแข่งขัน และเกือบ 20 ทัวร์นาเมนต์จะมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่นักกีฬา ทั้งการสนับสนุนค่าที่พัก เที่ยวบิน และหรือการเดินทาง 

หลังจากแข่งขันทั้งในสหรัฐอเมริกา และทั่วโลกแอลพีจีกลับเข้าสหรัฐอเมริกาที่รัฐฟลอริดาสองรายการดิ อันนิกา ดริฟเวน บาย เกนบริดจ์ แอต เพลิแคน และปิดท้ายฤดูกาลซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 11 ล้านดอลลาร์ และยังมีรายการพิเศษร่วมของแอลพีจีเอ-พีจีเอ ทัวร์ ทีมผสมแกรนท์ ธอร์นทัน อินวิเทชันแนล ในรัฐฟลอริดาเดือนธันวาคม

เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images 

หนาวมาแล้ว!เสื้อผ้ามือสอง เสื้อกันหนาวมือสอง ต้องระวัง 3 เสี่ยงโรคผิวหนัง

ฤดูหนาวมาแล้ว สำหรับบางท่านที่ชอบซื้อเสื้อผ้าและเสื้อกันหนาวมือสอง ซึ่งมีสไตล์เท่ไม่เหมือนใคร ราคาไม่แพง ซึ่งทำให้ประหยัดได้ของดีและถูก แต่ต้องระวัง 3 โรคที่อาจติดเสื้อผ้ามือสองมา ได้แก่

1.โรคกลากเกลื้อนจากเชื้อราที่เจริญเติบโตอยู่ในเสื้อผ้าในสภาพอากาศร้อน อับชื้น หากไม่ซักทำความสะอาดก่อนสวมใส่ จะทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดง กลายเป็นผื่นแพ้และคัน

2.โรคภูมิแพ้ ซึ่งเกิดได้หลายกรณี ทั้งจากฝุ่นใยผ้า และฝุ่นที่ติดตามกระสอบบรรจุระหว่างการขนส่ง หรือจากการแพ้น้ำยารีดผ้าเรียบที่ใช้รีดก่อนจำหน่าย ซึ่งจะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูง อาจระคายเคืองผิวหนังได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาจเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น

3.โรคผิวหนังจากพาหะนำโรคที่ชอบอาศัยอยู่ในใยผ้าที่สกปรก ได้แก่ ตัวไร ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน เมื่อสัมผัสผิวหนังจะดูดเลือด ทำให้เกิดอาการแพ้เป็นผื่นแดง คัน และเกาจนเกิดเป็นแผลติดเชื้อได้

#คำแนะนำสำหรับผู้ขายเสื้อมือสอง

ควรวางเสื้อผ้าบนโต๊ะ หรือแขวนไว้บนราว ไม่วางกองกับพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีฝุ่นละอองและแมลงชนิดต่างๆ เข้าไป อาศัยในเสื้อผ้าได้

#คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อเสื้อมือสอง

– ควรสวมผ้าปิดจมูกขณะเลือกซื้อ เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นละอองที่มากับเสื้อผ้า 

– ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสภาพดี ตรวจสอบรอยด่างดำรอยคราบสกปรก 

– หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ทำจากหนังสัตว์ประเภทขนฟู เนื่องจากทำความสะอาดยาก อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้

ที่สำคัญที่สุดคือ 

การทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า แล้วนำมาต้มในน้ำเดือดหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที – 1 ชั่วโมง นำไปตากแดดจัดให้แห้งก่อนนำมาสวมใส่

โดย… ชีวอโรคยา 

ยกย่อง 2 พี่น้องฝาแฝดแสดงโชว์เรียงขวดหารายได้เป็นทุนเล่าเรียนพิเศษ

ประชาชนชาวตรังต่างชื่นชมสองพี่น้องฝาแฝด คือ “น้องข้าวตังค์” เด็กชายเอกรินทร์ ก้องทรัพวรากุล แฝดผู้พี่ และ“น้องข้าวก้อง” เด็กชายเอกราช ก้องทรัพวรากุล แฝดผู้น้อง ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่มีอายุเท่ากันคือ 11 ปี และเรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนเทศบาลนครตรัง 1 (สังขวิทย์) ที่เดียวกัน โดยได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนของทุกวัน และวันหยุด แยกกันไปแสดงความสามารถพิเศษด้วยการโชว์เรียงขวดเป็นรูปร่างตามตลาดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครตรัง เช่น ที่ตลาดเซ็นเตอร์พ้อยส์ ถนนคนเดิน ในช่วงเย็นของวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งหลังเลิกเรียนก็จะให้พ่อไปส่ง

นอกจากนั้น สองพี่น้องฝาแฝดยังแยกกันไปแสดงโชว์เรียงขวดที่บริเวณทางเดินหน้าหอประชุมใหญ่จังหวัดตรัง และริมถนนหน้าสวนสาธารณะตลาดเซ็นเตอร์พ้อยส์ รวมทั้งตามตลาดนัดต่างๆ ในช่วงเช้าของวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดอื่น โดยไม่ได้มีเวลาไปเที่ยวเล่น หรือเอาเวลาไปเล่นโทรศัพท์มือถือเหมือนเด็กรุ่นเดียวกัน แต่รักที่จะหารายได้พิเศษ จนสามารถสร้างเงินให้กับพวกเขาตั้งแต่วันละ 500 บาท ไปจนถึง 1 พันบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายสำหรับการศึกษา และเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษ หวังทำตามความฝันรับราชการอาชีพตำรวจ และทหารในอนาคต

สำหรับสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ อาศัยอยู่กับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งมีอาชีพขายหมูปิ้ง อยู่ที่บริเวณหน้าสมาคมฮกเกี้ยน ถนนกันตัง ในเขตเทศบาลนครตรัง พร้อมกับพี่สาวคนโต ซึ่งขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ม.2 ส่วนคุณแม่ได้เสียชีวิตไปนับตั้งแต่พวกเขายังมีอายุได้แค่ 2 ขวบ โดยจากการที่พวกเขาตระเวนออกไปแสดงโชว์เรียงขวดตามตลาดต่างๆ นั้น ได้รับความสนใจจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ตลอดจนผู้ที่เดินผ่านไปมาเพื่อจับจ่ายใช้สอย ที่มายืนชม มายืนลุ้น และมอบเงินให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ความตั้งใจของน้องแฝดกันไม่ขาดสาย

ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าการเรียงขวดของสองพี่น้องฝาแฝดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ต้องใช้ความพยายาม ความตั้งใจ สมาธิ และความอดทุนสูงมาก กว่าจะสามารถเรียงขวดออกมาเป็นรูปร่างแปลกตาต่างๆ ได้สำเร็จ และยิ่งสูงยิ่งต้องใช้สมาธิมากขึ้น ด้านผู้ที่มอบเงินช่วยเหลือน้อง ต่างก็บอกว่า ขอให้ตั้งใจเรียน

“น้องข้าวตังค์” เด็กชายเอกรินทร์ ก้องทรัพวรากุล แฝดผู้พี่ บอกว่า การเรียงขวดให้เป็นรูปร่างต่างๆ นั้น ทั้งตนเองและน้องแฝดก็มีความชื่นชอบมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 รวมทั้งมีคุณพ่อช่วยแนะนำ จึงได้ฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ และดูคลิปจากยูทูปมาประกอบ จนกระทั่งเมื่ออยู่ชั้นอนุบาล 2 พวกตนก็เริ่มออกงานตามตลาดต่างๆ ได้ ซึ่งผลจากการเรียงขวด ช่วยให้พวกตนมีความตั้งใจเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ที่ต่างก็ชื่นชอบอยู่แล้ว ยกเว้นวิชาอังกฤษ ที่พวกตนไม่ค่อยเก่ง จึงตั้งใจมาหารายได้เสริมจากการเรียงขวดโชว์ เพื่อนำไปเรียนพิเศษวิชาอังกฤษเพิ่มเติม สำหรับในอนาคตตนเองฝันอยากจะเป็นตำรวจ

ส่วน “น้องข้าวก้อง” เด็กชายเอกราช ก้องทรัพวรากุล แฝดผู้น้อง ก็บอกว่า เงินที่หาได้กับพี่แฝดนั้น ต่างคนต่างเก็บในบัญชีตัวเอง เพื่อเอาไว้เป็นทุนการศึกษา และใช้สำหรับเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษ เพราะว่ายังอ่อนวิชานี้ ส่วนวิชาอื่นเรียนได้ และอนาคตฝันอยากจะเป็นทหาร ส่วนที่ไม่อยากขอเงินพ่อ เพราะไม่อยากให้พ่อเหนื่อย จึงอยากหาเงินเองเพื่อช่วยพ่อด้วย

โดน….คนิตา สีตอง

น้ำท่วมอยุธยายังสาหัส!ลุกลาม 12 อำเภอ บางซ้ายส่อจมยาวถึงต้นปี 2569

พระนครศรีอยุธยา – เขื่อนเจ้าพระยาปรับลดการระบายน้ำลงเพียงเล็กน้อย ส่งผลระดับน้ำเจ้าพระยา–แม่น้ำน้อยยังสูงต่อเนื่อง น้ำท่วมลุกลามสู่ 12 อำเภอ ชาวบางซ้ายเผยปีนี้อาจต้องอยู่กับน้ำไปถึงต้นปี 2569 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ราย

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยแม้เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท จะปรับลดการระบายน้ำลง แต่เป็นการปรับลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ล่าสุดปริมาณการระบายลดลงมาอยู่ที่ 2,688 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยยังคงสูงและไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์ล่าสุดทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 12 อำเภอ 144 ตำบล 931 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนมากถึง 63,781 ครัวเรือน และมีรายงานผู้เสียชีวิตรวม 20 ราย ในพื้นที่อำเภอเสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร และพระนครศรีอยุธยา 12 อำเภอที่ยังได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอบางซ้าย อำเภอบ้านแพรก อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอมหาราช อำเภอนครหลวง (เพิ่มล่าสุด)

มวลน้ำจำนวนมากจากการระบายของประตูน้ำและการหนุนของลำน้ำสายต่าง ๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำ ริมถนน รวมถึงพื้นที่เกษตรอย่างทุ่งนา ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะใน ตำบลเทพมงคล อำเภอบางซ้าย ที่ชาวบ้านยังต้องใช้เรือสัญจรในหลายจุด

ชาวบ้านหลายรายเผยว่า น้ำปีนี้มาแรงและนานผิดปกติ เชื่อว่าอาจต้องใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำท่วมไปจนถึง ต้นปี 2569 หากยังไม่มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน

พสกนิกรศรีสะเกษ น้อมใจจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัยแด่พระพันปีหลวง”

พสกนิกรจังหวัดศรีสะเกษ  น้อมใจจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัยแด่พระพันปีหลวง” สว่างไสวเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี ในงานเฉลิมฉลอง ครบรอบ 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2568 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางโสภา ธรรมประจำจิต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลอง 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ สู่ขวัญบ้าน บายศรีเมือง รุ่งเรือง 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2568

โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน และนางรำกว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปลงเมือง นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชน 4 เผ่า สืบมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมความรักความสามัคคี และสืบสานมรดกภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นของคนศรีสะเกษ

อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผวจ.ศรีสะเกษ ได้กล่าวถวายความอาลัย ท่ามกลางความสงบสำรวมและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พร้อมเปิดวีดิทัศน์พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเยือนพสกนิกรชาวศรีสะเกษ เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา

และนางรำจากทั้ง 22 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ จำนวนกว่า 5,000 คน ได้ร่วมรำถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างอ่อนช้อย สง่างาม และพร้อมเพรียง และจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัย แด่พระพันปีหลวง” สว่างไสวทั่วทั้งลานสนาม สะท้อนถึงความจงรักภักดีและความสามัคคีของชาวศรีสะเกษ ที่รวมพลังแสดงความกตัญญูต่อพระองค์

หลังจากนั้นได้ร่วมรำเฉลิมฉลอง 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ และเปิดการแสดงฝูงโดรนแปรอักษร และรูปภาพสุดอลังการ กว่า 500 ลำ ที่ลอยสว่างบนท้องฟ้า ก่อนแปรเป็น พระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระพันปีหลวง อย่างวิจิตรตระการตา สร้างความประทับใจและความซาบซึ้งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า และสร้างความฮือฮาให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี อย่างพร้อมเพียงกัน

นอกจากนี้ได้จัดให้มีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอันงดงาม การแสดงโขน และการร้องรำ บนเวที ค่ำคืนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ที่จารึกความรัก ความภักดี และความสามัคคีของประชาชนชาวศรีสะเกษไว้ร่วมกันอย่างงดงามยิ่ง

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน

KTSC ดึง 5 สตาร์ทอัพเกาหลีร่วมพัฒนาโซลูชันหลังบ้านรองรับตลาดท่องเที่ยว-MICE โตต่อเนื่อง

ศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวเกาหลี (Korea Tourism Startup Center: KTSC) เปิดเผยภาพรวมตลาด ล่าสุดว่า โครงสร้างการท่องเที่ยวไทย–อาเซียนขยับเข้าสู่ยุคที่ระบบดิจิทัลเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของธุรกิจมากขึ้น ตั้งแต่การจองไปจนถึงการบริหารหลังบ้าน

ทั้งจากฝั่งผู้บริโภคที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นศูนย์กลางการตัดสินใจ และจากฝั่งผู้ประกอบการที่ต้องการระบบหลังบ้านที่แม่นยำกว่าเดิม โดยสัญญาณหลายด้านสะท้อนว่าตลาดเปิดรับผู้เล่นเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มจากเกาหลีที่มีจุดแข็งด้านระบบจัดการแบบเรียลไทม์และการประมวลผลด้วย AI

ข้อมูลจากหลายสำนักระบุว่า มูลค่าการจองท่องเที่ยวออนไลน์ในอาเซียนเกิน 59,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ¹ และอัตราการใช้บริการออนไลน์อาจแตะ 74%¹ ในระยะใกล้ ขณะเดียวกัน ตลาดเทคโนโลยีการท่องเที่ยวทั่วโลกมีมูลค่าราว 11,100 ล้านดอลลาร์² และอาจขยายสู่ระดับ 18,700 ล้านดอลลาร์² ตามการเติบโตของบริการเชิงประสบการณ์

สำหรับไทย เซกเมนต์ที่เติบโตเด่นคือ MICE และ Mega Event ซึ่งเคยมีมูลค่าราว 6,930 ล้านดอลลาร์³ และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนงานในเมืองหลักที่เพิ่มขึ้น ทั้งด้านการเดินทาง การจัดสรรที่พัก และการประสานงานหน้างาน ขณะเดียวกัน ตลาดแพลตฟอร์มท่องเที่ยวดิจิทัลของไทยประเมินว่ามีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์⁴ สะท้อนว่าดีมานด์เทคโนโลยีไม่ใช่เพียงกระแสระยะสั้น แต่เป็นโครงสร้างตลาดที่กำลังแข็งแรงขึ้น

จากทิศทางดังกล่าว KTSC ระบุว่า สตาร์ทอัพเกาหลีด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว 5 ราย ได้แก่ GroundK, RIAD Corporation, ND Soft, TripBuilder และ Nanugi World ได้เข้ามาเคลื่อนไหวในไทยมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างจับคู่พันธมิตรเชิงลึก และบางรายเริ่มทดสอบระบบกับผู้ประกอบการไทยแล้วในรูปแบบ Proof of Concept (PoC) ทั้งในระบบบริหารการเดินทางงานอีเวนต์ การจับคู่ที่พัก การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และการวางแผนท่องเที่ยวที่ใช้ข้อมูลและ AI

GroundK ระบุว่าตลาด MICE ไทยต้องการระบบควบคุมการเดินทางแบบเรียลไทม์มากขึ้น ขณะที่ RIAD Corporation เห็นว่าการประสานงานระหว่างโรงแรมและผู้จัดงานยังมีช่องว่างที่ระบบ AI สามารถเข้ามาช่วยได้ทันที ด้าน ND Soft ชี้ว่าความต้องการสื่อสารหลายภาษายังคงสูงในเมืองท่องเที่ยว ส่วน TripBuilder มองว่าพฤติกรรมผู้ใช้ที่เปลี่ยนเร็วทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกในการแนะนำบริการมากขึ้น ขณะที่ Nanugi World เห็นโอกาสในโปรแกรมการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของโรงเรียนในหลายประเทศ

KTSC ระบุว่าหน้าที่ของศูนย์คือจัดทำข้อมูลตลาด เชื่อมต่อผู้ประกอบการไทย และช่วยให้สตาร์ทอัพเกาหลีเข้าใจระบบการทำงานจริงของอุตสาหกรรมในไทย ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาระบบสามารถปรับโซลูชันให้ตรงความต้องการได้เร็วขึ้น และเพิ่มโอกาสที่เทคโนโลยีจะถูกนำไปใช้งานจริงในภาคธุรกิจ โดย KTSC มองว่าการเข้ามาของผู้เล่นจากเกาหลีจะช่วยเพิ่มตัวเลือกด้านเทคโนโลยีให้ตลาด และเป็นแรงเสริมต่อศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในระดับภูมิภาค

.

ระทึก!สาวขับกระบะฝ่ากระแสน้ำถูกซัดตกคลองจมเกือบมิดคันแต่รอดชีวิตปาฎิหาริย์

อุทัยธานี- อุทาหรณ์!!สาวฝืนขับรถฝ่ากระแสน้ำ ไปหาเพื่อนสาว ไปไม่รอดน้ำซัดรถร่วงจมตกข้างทางเกือบมิดคัน ปีนหนีออกกระจกเอาชีวิตรอด

ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 19 พ.ย.68 หลังจนท.ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีรถยนต์ตกลงไปคลองน้ำใกล้กับทุ่งนา ที่เกิดเหตุที่ถนนสายทางแยก บริเวณวัดจักษาภัทธาราม ต.สะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี พบหญิงสาวรายหนึ่ง ได้ขับรถกระบะลุยน้ำตั้งใจไปหาเพื่อน ระหว่างทาง เส้นทางดังกล่าวนั้นเกิดน้ำท่วม พร้อมกับสาวนั้นเคยใช้เส้นทางเส้นนี้อยู่บ่อยครั้ง เข้าใจว่าสามารถขับรถผ่านไปได้

ล่าสุด ยังไม่ถึงครึ่งทาง เหตุไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น เนื่องจากน้ำนั้นเริ่มท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สาวนั้นเริ่มควบคุมรถไม่อยู่ ไถลลอยไปตามน้ำ จนทำให้ตกลงข้างทาง ซี่งเป็นทุ่งนาที่มีน้ำท่วมสูง แต่โชคยังดีคนขับมีสติ สามารถปีนออกจากด้านกระจกได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครกู้ภัยฯ เข้าช่วยเหลือ ลากรถขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับนำรถยนต์เข้าอู่ดังกล่าว

.

ทหารวางปืนถือเคียวเกี่ยวข้าวช่วยชาวนาชายแดไทย-กัมพูชา

เพจ สวท.สระแก้ว รายงานว่า กองกำลังบูรพา โดย ฉก.12 จัดกำลังเข้าคุ้มครองความปลอดภัยให้ชาวบ้านบ้านหนองหญ้าแก้ว นำรถเข้าเกี่ยวข้าวหอมมะลิติดชายแดนหลักเขต 41 บ้านหนองหญ้าแก้ว บริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 41 ถนนศรีเพ็ญ อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา ภายใต้การสั่งการของ พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.12 ให้ทหาร ฉก.12 นำโดย ร.ท.อาทิตย์ ทิยาโน นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับทหารพราน เข้าช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวหอมมะลิของนายประดิษฐ์ สมคิด เจ้าของนาข้าว 25 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของถนนศรีเพ็ญ ห่างจากหลักเขตแดนที่ 41 ไม่กี่ร้อยเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธประจำกายคอยรักษาความปลอดภัยตลอดแนวตะเข็บชายแดน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย พร้อมทั้งมีรถเกี่ยวข้าวและทหารเข้าช่วยเกี่ยวข้าวในพื้นที่ด้วย

ร.ท.อาทิตย์ ทิยาโน ทหาร ฉก.12 กล่าวว่า ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 มีความห่วงใยประชาชน จึงจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร และจัดกำลังพลทหารมาช่วยเก็บเกี่ยวในจุดที่รถเกี่ยวเข้าไม่ถึง โดยขณะนี้มีชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือเข้ามาเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงต้องมีการจัดคิวดูแล ทั้งวันนี้ พรุ่งนี้ และวันอังคาร รวมถึงเกือบทุกวันจนกว่าจะหมดฤดูเก็บเกี่ยว ในช่วงฤดูทำนาและใส่ปุ๋ย ก็อนุญาตให้ชาวบ้านเข้ามาดำเนินการได้เช่นกัน โดยบางช่วงที่มีเหตุการณ์ตึงเครียด ชาวบ้านไม่กล้าเข้าพื้นที่ เนื่องจากเป็นแนวพื้นที่ติดชายแดนดินต่อดิน ทางทหารจึงขอให้ชาวบ้านแจ้งหน่วยทหารก่อนทุกครั้ง เพื่อจัดกำลังเข้ารักษาความปลอดภัยให้ หรือหากได้คิวเกี่ยวข้าวช่วงเวลาใด ก็ขอให้แจ้งทหารตามจุดตรวจ เพื่อจะได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่นายประดิษฐ์ สมคิด เจ้าของนาข้าวหอมมะลิ 25 ไร่ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่เช่านาแปลงนี้ทำ และค่อนข้างกังวลว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเกี่ยวข้าว เพราะในช่วงแรกไม่สามารถข้ามถนนศรีเพ็ญมาได้ หากไม่ได้เกี่ยวก็จะเสียหายมากเนื่องจากลงทุนไปเยอะ จึงรู้สึกดีใจและโล่งใจที่ทหารเข้ามาดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หากต้องเข้ามาคนเดียวโดยไม่มีทหารก็ไม่กล้า แต่ก็จำเป็นต้องเสี่ยง นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีพี่น้องเกษตรกรอีกหลายแปลงที่ทำเกษตรอยู่ ซึ่งการมีทหารมาดูแลเช่นนี้ทำให้ชาวบ้านอุ่นใจ เนื่องจากพื้นที่นาของตนอยู่ชิดหลักเขตแดนที่ 41 เพียงไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงฝั่งกัมพูชาแล้ว โดยวันนี้ยังไม่พบว่ามีชาวบ้านหรือทหารกัมพูชามาซุ่มดูแต่อย่างใด

ตามรวบแก๊งสแกมเมอร์ 1ใน 34 ตัวการสำคัญตามหมายจับตร.สิงคโปร์หนีกบดานที่ขอนแก่น

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์​ (ACSC) บุกจับกุมแก๊งสแกมเมอร์ 1 ใน 34 เป้าหมายสำคัญของตำรวจสิงคโปร์ หลังหลบหนีไปอยู่บ้านภรรยาที่จังหวัดขอนแก่น
 
ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./  รอง ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี, พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.สัญญา นิลนพคุณ, พ.ต.ท.     เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด, พ.ต.ท.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.3 บก.ปอท.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุวรรณดี, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นนทนันท์ นวนงาม, ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เศรษฐอัครเบญจา รอง สว.(สอบสวน) กก.3บก.ปอท., จ.ส.ต.วีรศักดิ์ บุญยก, ส.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ภรินทนันท์ ผบ.หมู่ ช่วยราชการฯ กก.3 บก.ปอท.ร่วมกันจับกุม Mr.ENG SIE  (เอง เซีย) หรือนายไบรอันฯ อายุ 32 ปี สัญชาติสิงคโปร์ในความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”

จากการตรวจสอบพบว่า นายไบรอัน เป็นบุคคลตามหมายแดง RED NOTCE INTERPOL : ข้อหาเป็นองค์กรอาชญากรรม และมีหมายจับของตำรวจสิงคโปร์ โดยพบว่า นายไบรอันเป็นสมาชิกแก๊งสแกมเมอร์ ที่ตั้งฐานปฏิบัติการในกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา โดยนายไบรอัน เป็น 1 ในเป้าหมาย 34 ราย ที่ถูกประกาศจับโดยตำรวจสิงคโปร์  สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่งใน ต.ดงลาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก MR.ENG SIE (เอง เซีย) หรือนายไบรอันฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในลิสต์ Scam Syndicate in Cambodia 34 ราย ของตำรวจสิงคโปร์ (SPF) และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐสิงคโปร์ เลขที่ WTA-2025-1013-0047 ลงวันที่ 17 ต.ค.68 ในข้อหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ฉ้อโกง) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้รับการประสานจากตำรวจสิงคโปร์ว่า MR.ENG SIE (เอง เซีย) หรือนายไบรอันฯ มีภรรยาเป็นคนไทย จึงทำการสืบสวนแกะรอย

จนกระทั่งพบตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดชุมแพ ที่ 137/2568 ลงวันที่ 13 พ.ย.68 เข้าตรวจค้น และควบคุมตัว MR.ENG SIE (เอง เซีย) หรือนายไบรอันฯ อายุ 32 ปี สัญชาติสิงคโปร์ แจ้งข้อกล่าวหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำส่ง พงส.กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลักดันส่งตัวกลับประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศสิงคโปร์ต่อไป

จากการซักถามเบื้องต้น นายไบรอันฯ ให้การรับสารภาพ ว่าไปทำงานในแก๊งสแกมเมอร์ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยเป็นแอดมินฝ่ายการเงิน ของแก๊งโทรข่มขู่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ หลอกให้ชาวสิงคโปร์โอนเงิน โดยได้รับเงินเดือน 4,000 ดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 120,000 บาทซึ่งมีสมาชิกแก๊งและบอสเป็นชาวสิงคโปร์และชาวมาเลเซีย

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ ว่าไปทำงานในแก๊งสแกมเมอร์ ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยเป็นแอดมินฝ่ายการเงิน ของแก๊งโทรข่มขู่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ หลอกให้ชาวสิงคโปร์โอนเงิน โดยได้รับเงินเดือน 4,000 ดอลล่าสหรัฐ หรือประมาณ 120,000 บาท ซึ่งมีสมาชิกแก๊งและบอสเป็นชาวสิงคโปร์และชาวมาเลเซีย