นกนางนวลคืนถิ่น “ดอนหอยหลอด”เทศกาลท่องเที่ยวปลายปีที่แม่กลอง

“สมุทรสงคราม” แม้เป็นจังหวัดเล็กที่สุด แต่มีสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยม เพราะอยู่ใกล้กรุง ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทั้งยังมีแหล่งอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มีตลาดน้ำอัมพวา ปลาทูแม่กลอง และดอนหอยหลอด แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ต.บางจะเกร็ง อ.เมืองสมุทรสงคราม เป็นพื้นที่ซึ่งธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้อย่างลงตัว ระหว่างผืนน้ำเค็มกับผืนดินที่ยื่นล้ำออกไปในทะเลจนเกิดดอนขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วย “หอยหลอด” ใต้พื้นดินทราย

ดอนหอยหลอด ไม่เพียงเป็นแหล่งอาหารทะเลธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่ยังเป็นสถานที่หล่อหลอมวิถีชาวแม่กลองมาหลายชั่วอายุคน ทุกๆ เช้า ที่นี่ยังเป็นจุดนัดพบระหว่างชาวประมงออกเรือกับนักท่องเที่ยวที่อยากลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ ยิ่งช่วงปลายปี ยามลมหนาวจากตอนเหนือพัดผ่านชายฝั่งอ่าวไทย “ดอนหอยหลอด” มีโอกาสต้อนรับผู้มาเยือน ฝูงนกนางนวลสีขาวบินอพยพหนีหนาวจากมองโกเลียลงมาพักอาศัยตามแนวชายฝั่ง เป็นภาพงดงามที่สร้างความประทับใจแก่คนพื้นที่และนักท่องเที่ยว

ปีนี้ฝูงนกนางนวลเริ่มบินเข้ามากว่า 300-400 ตัวแล้ว และจะเพิ่มเป็นนับพันตัว บินโฉบเหนือน่านน้ำแม่กลอง ยิ่งในช่วงยามเย็นจะเป็นภาพที่ทั้งสงบและงดงาม ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักอย่างยิ่งในช่วงปลายปี โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงพาครอบครัวมาชมฝูงนกนางนวล ตั้งแต่ช่วงบ่ายคล้อยไปจนถึงพระอาทิตย์ตก เพื่อบันทึกภาพฝูงนกบินเล่นลมท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ สะท้อนผิวน้ำที่สวยงาม

เทศกาลชมนกนางนวล ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อีกทางหนึ่ง ทำให้พ่อค้าแม่ขายในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการขายอาหาร ไส้ไก่ทอด กากหมูเจียว อาหารยอดนิยมสำหรับนกนางนวล ร้านอาหารท้องถิ่น ยังมีลูกค้าเพิ่มขึ้น หลายครอบครัวนิยมปูเสื่อนั่งรับลมทะเล รับประทานอาหารทะเลพื้นบ้าน เช่น หอยหลอดผัดฉ่า ปูม้านึ่ง ปลากะพงทอดน้ำปลา หรือปลาทูต้มเค็มสูตรแม่กลองแท้ๆ อย่างอบอุ่นกับครอบครัว

“ชยชัย แสงอินทร์” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ไปชมฝูงนกนางนวล ตามที่ชาวบ้านแจ้งมา พบว่าปีนี้มีนกนางนวลบินกลับมามากกว่าปีก่อน ถือเป็นสัญญาณดีสำหรับการท่องเที่ยวของจังหวัด นกนางนวล คือ สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้คนพื้นที่ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจังหวัดเตรียมจัดกิจกรรม ‘ชิมหอย ปู ปลา ดูนกนางนวลที่ดอนหอยหลอด’ ขึ้นในวันที่ 29-30 พฤศจิกายน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของสมุทรสงคราม

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมความงดงามของฝูงนกนางนวล ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุด คือ ช่วงเย็น เวลาประมาณ 5 โมงเย็นจะดีที่สุด เพราะสภาพอากาศเย็นสบาย สามารถชมพระอาทิตย์ตกพร้อมฝูงนกนางนวลอย่างสวยงาม และรับประทานอาหารทะเลแม่กลองปิดท้ายรายการ

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 12 สัญชาติหนีข้ามฝั่งเข้าไทยหลังทหารเมียนมาถล่มเคเคปาร์คหนัก

ทหาร ราชมนู สกัดจับชาวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 12 สัญชาติรวม 39 คนลักลอบเข้าเมืองไทยผิดกฎหมาย หลังเดินเท้าหนีมาจากเคเคปาร์คโดนทหารเมียนมาถล่มหนัก

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 . สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก  ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราขมนู)  ได้จับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบข้ามมายังฝั่งไทย ขณะลาดตระเวนที่ไร่ 70 บ้านแม่ตาว ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยพบจำนวน 39 คน ประกอบด้วย ชาย 34 คน , ผู้หญิง 5 คน จำนวน 12 สัญชาติ ประกอบด้วย ปากีสถาน 12 ราย, อินเดีย 2 ราย, เนปาล 2 ราย, อูกันด้า 3 ราย, เซาท์ซูดาน 1 ราย, เคนย่า 12 ราย, อียีปต์ 1 ราย, เวียดนาม 3 ราย, คาซัคสถาน 1 ราย, บุรูนดี 1 ราย และรวันด้า 1 ราย

ชาวต่างชาติได้ให้การยอมรับว่าแอบลักลอบข้ามมาฝั่งไทย โดยภายหลังจากที่มีการปราบปรามใน KK  ปาร์ค ทำให้มีการนำกลุ่มชาวต่างชาติ มาไว้ที่เมืองเมียวดี แต่ไม่รู้ว่าจะได้เดินทางกลับบ้าน หรือประเทศต้นทางเมื่อไหร่ จึงทำให้ตัดสินใจหนีออกมา โดยใช้ช่องทางธรรมชาติข้ามมายังฝั่งไทย เพื่อหาช่องทางกลับประเทศ อย่างเช่น ชาวปากีสถาน ได้มีการติดต่อสถานทูตเอาไว้แล้ว ขณะที่บางคนเดินทางมาเป็นสแกมเมอร์ในเคเคปาร์ค เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเกิดการปราบปรามในพื้นที่ก่อน

สำหรับชาวต่างชาติกลุ่มนี้ หลายคนระบุว่า เห็นโฆษณา หรือได้รับข้อเสนอ ให้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ เพราะพูดภาษาอังกฤษได้ หรือเป็นฝ่ายดูแลลูกค้า แต่เมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ กลับถูกนำตัวมาที่ อ.แม่สอด และข้ามช่องทางธรรมชาติ ไปยังประเทศเมียนมา และถูกยึดพาสปอร์ต บังคับให้ทำงาน โดยที่ในช่วงแรกนั้น ไม่สามารถติดต่อใครได้ และไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจพาสปอร์ต และแจ้งข้อกล่าวหาเป็นต่างด้าวเดินทางเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต และบางรายโดนข้อหาโอเวอร์สเตย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการคุมตัวทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(ด่านแม่สอด) ทำการสืบสวน-สอบสวน  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกันฟอกเงินยึดของกลางมูลค่า 5 ล้านบาท

นครบาลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกันฟอกเงินพร้อมยึดของกลางมูลค่า 5 ล้านบาท และยึด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 คีตามีน น้ำหนัก 1 กิโลกรัม

ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ,ให้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุหลอกลวงในรูปแบบแก๊งค์คอลเซนเตอร์ และขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษให้ได้โดยเร็วภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.,พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณ คีรีโรจน์ผบก.น.4 , พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.น.6. ,พ.ต.อ.ณัฏฐ์ภาณพ วัชรเสวีรอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4 , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6

สืบเนื่องคดีอาชญากรรมออนไลน์ ที่มีชายสัญชาติฮ่องกงหลอกลวงเงินสดและทรัพย์สิน จากหญิงไทย อายุ 80 ปี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท ของสน.วังทองหลาง มีนางสาวลักขณาฯ เป็นผู้เสียหายเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ร่วมกับ,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.วังทองหลาง ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก. ตม.1 และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.น.4

ได้ทำการสืบสวนขยายผล พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินในลักษณะฟอกเงิน และต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ มีรายละเอียดคือเมื่อวันที่ 18 พ.ย.68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.สส.บก.น.6 ,เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.วังทองหลาง ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก. ตม.1 พร้อมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บก.น.4 ได้นำหมายค้นของ ศาลอาญา ลงวันที่ 17 พ.ย. 2568 เพื่อค้นบ้านพักภายใน ซอยลาดกระบัง 1ก/7 แขวงลาดกระบัง

เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจค้นปรากฎว่าพบ MR.TSAI CHUN-MING แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งเป็นผู้มีรูปพรรณสัณฐานตรงกันกับบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 6615/2568 ลงวันที่ 12 พ.ย.68 สน.วังทองหลาง ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดแต่บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและสมคบ

โดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” จึงได้แสดงหมายจับดังกล่าวให้ตรวจดูปรากฏว่า MR.TSAI CHUN-MING รับว่าตนเองคือบุคคลตามหมายจับจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายค้นให้นาย MR.TSAI CHUN-MING ดูและอ่านหมายค้นให้จน MR.TSAI CHUN-MING ทราบและเข้าใจดีแล้ว และยินยอมให้ตรวจค้นโดยยินดีเป็นผู้นำตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวด้วยตนเอง ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบ ของกลางที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ทั้งหมด 10 รายการ น้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม

จากการสอบถาม MR.TSAI CHUN-MING ให้การรับสารภาพว่า ของกลางตามรายการดังกล่าวข้างต้นเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมสิทธิตามกฎหมายให้ MR.TSAI CHUN-MING ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นจึงได้ดำเนินการจัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง ส่วนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและสมคบฟอกเงินฯ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้แยกดำเนินการ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งสิทธิดำเนินการตามฏหมายต่อไปและได้ตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกหลายรายการ มูลค่าประมาณ5ล้านบาทเศษ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

“จีโน่” ลงป้องกันแชมป์ “ซีเอ็มซี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ” ปิดฤดูกาล 2025 อเมริกา

“จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล มือหนึ่งของโลกกลับลงป้องกันแชมป์ “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ” รายการปิดท้ายฤดูกาล 2025 ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน นี้ พร้อมด้วย 4 สาวไทย “เม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ และ”เมียว” ปาจรีย์ อนันต์ฤนการ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 357 ล้านบาท ประชันกับยอดนักกอล์ฟหญิงรวม 60 คน 

การแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ รายการ “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ” ชิงเงินรางวัลรวม 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 357.3 ล้านบาท ที่ทีบูรอน กอล์ฟ คลับ ในริตซ์ คาร์ลทัน กอล์ฟ รีสอร์ต เมืองเนเปิ้ลส์ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2568 รายการปิดท้ายฤดูกาล 2025 นำเอานักกอล์ฟ 60 อันดับและเสมอ ของคะแนนสะสมเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ เข้าร่วมแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 4 รอบ 72 หลุม แบบไม่มีการตัดตัว โดยแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 129.9 ล้านบาท โดยที่ อาฒยา ฐิติกุล แชมป์เมื่อปีที่แล้วกลับมาป้องกันแชมป์พร้อมกับนักกอล์ฟไทยอีก 4 คน ได้แก่ “เม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ และ”เมียว” ปาจรีย์ อนันต์ฤนการ

ความเคลื่อนไหวล่าสุด อาฒยา ฐิติกุล มือ 1 ของโลกจะกลับลงป้องกันแชมป์ จะเป็นการเล่นรายการแรกในทัวร์ ตั้งแต่เมย์แบงก์ แชมเปียนชิพ และจะเป็นการเล่นครั้งที่ 4 ของรายการนี้ โดยเธอมีสถิติค่อนข้างดีไม่เพียงแค่คว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วยังจบอันดับ 5 ในปี 2023 และอันดับ 10 ร่วมปี 2022 ส่วนผลงานปีนี้ทำได้ดีเยี่ยมเล่นไป 19 รายการจบใน 10 อันดับแรกมากที่สุดในทัวร์รวม 13 รายการ รวมคว้าแชมป์สองรายการจาก มิซูโฮ อเมริกา โอเพ่น และ บิวอิค แอลพีจีเอ เซี่ยงไฮ้ พร้อมกับยังมีลุ้นรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีซึ่งเธอนำอันดับหนึ่งคะแนนสะสมห่าง มิยู ยามาชิตะ จากญี่ปุ่นอันดับสองอยู่ 16 คะแนน และรางวัลสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด (Vare Trophy) ที่จะรู้ผลหลังจบการแข่งขันรายการนี้ 

“เม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 12 รายการ จะเล่นเป็นครั้งที่ 11 หลังจากที่เคยคว้าแชมป์ปี 2017 และยังมีสถิติจบใน 10 อันดับแรกอีก 3 ครั้ง อันดับ 4 ร่วมปี 2016 อันดับ 5 ร่วมปี 20189 และอันดับ 10 ร่วมปี 2020 ส่วนผลงานในทัวร์ปีนี้เล่น 16 รายการจบลงใน 10 อันดับแรก 6 รายการ

“พราว” ชเนตตี วรรณแสน แชมป์อาชีพแอลพีจีเอทัวร์ 2 รายการจะเล่นครั้งที่ 3 หลังจากจบอันดับ 40 ร่วมปี 2023 และอันดับ 30 ร่วมปีที่แล้ว ขณะที่ผลงานในทัวร์ปีนี้เล่น 23 รายการ จบใน 10 อันดับแรก 3 รายการ รวมทั้งอันดับ 2 ร่วม เมจอร์ วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ 

“แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 2 รายการ รวมทั้งแชมป์เมเจอร์จะเล่นครั้งที่ 5 หลังจากจบอันดับ 35 ร่วมปี 2021 อันดับ 59 ร่วมปี 2022 อันดับ 27 ร่วมปี 2023 และอันดับ 60 ปีที่แล้ว ส่วนผลงานในทัวร์ปีนี้เล่น 21 รายการจบใน 10 อันดับแรกสองรายการ

ด้าน “เมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอมา 2 รายการจะเล่นเป็นครั้งที่ 5 โดยปีนี้เธอเข้ามาคะแนนสะสมเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบอันดับ 60 สุดท้ายพอดี สถิติการเล่นรายการนี้อันดับ 45 ร่วมปี 2021 อันดับ 6 ปี 2022 อันดับ 50 ร่วมปี 2023 และอันดับ 30 ร่วมปีที่แล้ว ขณะที่ผลงานในทัวร์ฤดูกาลนี้เล่น 25 รายการจบใน 10 อันดับแรกหนึ่งรายการที่ 10 ร่วมทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์ เปิดฤดูกาล 

นักกอล์ฟระดับโลกที่ร่วมแข่งขันในสัปดาห์นี้มี เนลลี คอร์ดา มือ 2 ของโลกพยายามไล่ล่าแชมป์แรกในปีนี้ มิยู ยามาชิตะ มือ 3 ของโลกดีกรีแชมป์เมเจอร์เจ้าของรางวัลรุกกี้แห่งปีคนล่าสุดพร้อมกับ มาโอะ ไซโกะ และ อายากะ ฟุรุเอะ เพื่อนร่วมชาติ และนักกอล์ฟแชมป์เมเจอร์คนอื่น ๆ ทั้ง อี มินจี ฮันนาห์ กรีน และเกรซ คิม จากออสเตรเลีย คิม ฮโย-จู, คิม เซ-ยอง (แชมป์ปี 2019), คิม อา-ริม, โค จิน-ยอง (แชมป์ปี 2020, 2021) เซลีน บูติเยร์ จากฝรั่งเศส เจนนิเฟอร์ คัพโช,อัลลิเซน คอร์พุซ และเล็กซี ธอมพ์สัน (แชมป์ปี 2018) จากสหรัฐ หยิน ยัวหนิง จากจีน บรู๊ค เฮนเดอร์สัน จากแคนาดา มายา สตาร์ก จากสวีเดน ลีเดีย โค (แชมป์ปี 2014, 2022) และชาร์ลีย์ ฮัลล์ จากอังกฤษแชมป์ปี 2016

เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images 

เปิดลาน‘สภ.โคกกระชาย’ให้ชาวนาตากข้าวฟรี-ปลอดภัยไร้โจรรบกวน

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บริเวณลานหน้า สภ.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงพักที่อยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พบชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเปลือกนาปี บางรายทยอยนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว นำมาผึ่งตากแดดไล่ความชื้น ยังบริเวณลานปูนซีเมนต์หน้า สภ.โคกกระชาย โดยมี พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ หาญยิ่ง สารวัตรใหญ่(สวญ.สภ.โคกกระชาย) และข้าราชการตำรวจคอยอำนวยการสะดวก และช่วยเหลือชาวนาตากข้าว เป็นภาพที่ประทับใจอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ การนำข้าวมาตากแดดไล่ความชื้นที่ลานปูนของโรงพัก ยังช่วยทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกลักขโมยข้าวเปลือก และไม่มีไม่เสียค่าใช้จ่าย สร้างความสบายใจให้กับชาวนาได้ว่า จะไม่เกิดปัญหาขโมยข้าวของชาวนาแน่นอน เพราะที่โรงพักนอกจากจะมีตำรวจเข้าเวรยามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมีกล้องวงจรปิดคอยบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน

พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ เปิดเผยว่าชาวบ้านในพื้นที่แนวชายแดนไทยกัมพูชา ยังมีความเป็นห่วงและไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ประกอบกับข้าวออกรวงสุกเหมาะแก่การเก็บเกี่ยวแล้ว จึงได้เร่งรีบเก็บเกี่ยวและนำข้าวมาตากแดดไล่ความชื้น จึงทำให้พื้นที่สำหรับตากข้าวนั้นไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นลานปูนบริเวณศาลากลางหมู่บ้าน วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ และริมสองฝั่งถนน ประกอบกับที่โรงพักมีพื้นที่ลานกว้าง จึงได้เชิญชวนให้ชาวนาได้นำข้าวเปลือกมาตากยังบริเวณโรงพัก ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกดูแล และมีกล้องวงจรปิดคอยบันทึกภาพเหตุการณ์ตลอดเวลา ซึ่งมีความสะดวกและปลอดภัยกว่าการนำไปตากริมถนน

พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่านอกจากนี้ทางตำรวจ สภ.โคกกระชาย ยังได้มีการเตรียมความพร้อมเต็มที่ในการรับสถานการณ์ตาม ‘แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง’ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงแม้ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่จะยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ตาม ก็ได้มีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา

นางนัฐฬิภรณ์ ไชนอินทร์ อายุ 44 ปี ชาวนาใน ต.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่าช่วงนี้ชาวนาทุกคนต่างเร่งเกี่ยวข้าวพร้อมๆกัน เพราะว่าข้าวเริ่มสุกได้ที่แล้ว รวมถึงกลัวพายุฝนและกลัวเหตุการณ์ปะทะกันอีกระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ซึ่งพบว่าพื้นที่ต่างๆ ตามหมู่บ้านและวัดก็มีการตากข้าวเต็มหมดแล้ว จึงได้มาขอตำรวจตากข้าวยังลานปูนของโรงพัก ซึ่งตำรวจก็ใจดีมาช่วยอำนวยความสะดวกดูแล และช่วยตากข้าวด้วย ซึ่งยังช่วยให้ปลอดภัยจากโจรขโมยด้วย ซึ่งถือว่าดีกว่านำไปตากตามถนน ที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงในช่วงที่มีการตากข้าวช่วงแรกๆก็ได้ยินข่าวลือว่ามี วัยรุ่นมาขโมยข้าวที่ตากไว้ จึงตัดสินใจว่ามาตากข้าวที่โรงพักดีกว่าปลอดภัย เพราะมีตำรวจคอยดูแลให้ด้วย

ขณะที่นางอัมพร นิราศภัย อายุ 73 ปี ชาวนาใน ต.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า กลัวสงครามจะเกิดขึ้นอีกเพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะมีการปะทะกันขึ้นอีก รวมถึงชาวบ้านหลายคนก็เร่งเกี่ยวข้าวพร้อมๆกัน จึงทำให้ที่ตากข้าวไม่พอกัน ซึ่งตนก็ไม่มีที่จะตากข้าว จึงได้นำมาขอตากที่ลานปูนของโรงพัก ซึ่งถือว่าดีเพราะมีตำรวจมาคอยช่วยดูแลและยังช่วยตากข้าวด้วย

นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล !! น้อมกราบถวายอาลัย พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย พระพันปีหลวง

“รัฐณกรณ์ อมรวีระวัฒน์” นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล  !! น้อมกราบถวายอาลัย พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เมื่อวันวานที่ผ่านมา นายรัฐณกรณ์ อมรวีระวัฒน์  นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัลพร้อมทั้งคณะกรรมการสมาคมฯอาทิ นายดนัย ทวีโภค (หมึก มายา) คอลัมนิส์ อาวุโส นาย กิตติพงศ์  รังสรรค์ปรีชา,นายพีรนัย ทวีโภค และนาย ศักดินา รักษ์อุดมการณ์ หรือ ป๋าแหง็มช่วยชาวบ้าน จากคลื่น  97.0Mhz ได้ร่วมประชุมวาระเร่งด่วนในเรื่องของการนำอาหารและเครื่องดื่มไปบริการให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาน้อมกราบถวายอาลัย พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณ พระบรม มหาราชวัง ท้อง สนามหลวง นายรัฐณกรณ์ อมรวีระวัฒน์ นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัลได้กล่าวว่า

 “ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณ ดร.ชูชีพ ตรีโภคา เลขานุการในองศ์ พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล(ท่านใหม่) ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการแจกอาหารเครื่องดื่มเพื่อเป็นการน้อมกราบถวายอาลัย พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และที่ขาดเสียมิได้ต้อขอขอบคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการ,รัฐวิสาหกิจ,องศ์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน

 รวมทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่สื่อมวลชน,ศิลปินดารานักร้องนำโดย ดนัย วงเพื่อน,คุณแม่บิว – วรรณวรี น้อง พอยเพชร พิมดาว นักร้องสาวสวยจากค่ายทองเอก เรคคอร์ด,ศิลปินตลกพันหน้า ซ่าส์หมาว้อและนักร้องหนุ่มใหญ่ศิษย์ครูสลา ธรรมดา เอกชาตรี พร้อมทั้งสมาชิกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล ที่ร่วมแรงร่วมใจให้การสนับสนุนภารกิจในครั้งนี้ ซึ่งกำหนดการจัดงานในวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เริ่มตั้งแต่ เวลา 11.00 น.

หลังจากเสร็จภารกิจภายในงาน ทางคุณสหรัฐภูมิ ปรีกราน เจ้าของตลาดยอดพิมานปากคลองตลาด ได้จัดเตรียมอาหารกลางวันไว้ต้อนรับสมาชิกสมาคมฯที่มาร่วมงานในวันนั้นนอกจากนั้นท่านยังร่วมสมสบทุนจำนวนเงิน5,000บาทอีกด้วยครับ ”นายรัฐณกรณ์ อมรวีระวัฒน์  กล่าวด้วยความปลื้มปีติยินดี
 
หมึก มายา  ประธาน ชมรมเพื่อนสื่อมวลชนสร้างสรรค์ประเทศไทย

ททท.ชวนสัมผัสเสน่ห์ไทย 5 พื้นที่ “Amazing Thailand Folk Music Festival”

ททท. ชวนออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ไทย ในงาน “Amazing Thailand Folk Music Festival” เพื่อสืบสานอัตลักษณ์วัฒนธรรม พร้อมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว และสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและผลักดัน ศิลปะการแสดงของไทย ให้กลายเป็นสินค้าส่งออกทางด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะการแสดง “หมอลำและรำวงชาวบ้าน” ซึ่งเป็นกิจกรรมสันทนาการที่สร้างทั้งความสนุกสนานและอยู่คู่กับวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างช้านาน และได้รับการพัฒนาให้ร่วมสมัย

ทั้งในด้านรูปแบบการแสดง แสง สี เสียง และลีลาการนำเสนอ เพื่อเข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัยในยุคปัจจุบัน เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัยได้มากยิ่งขึ้นในยุคปัจจุบัน การแสดงทั้งสองรูปแบบนี้ยังเป็นหนึ่งในกิจกรรม “Must See” ภายใต้ “เสน่ห์ไทย 5 Must Do in Thailand” ที่สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่สำคัญของชาติอย่างแท้จริง 

จากแนวคิดดังกล่าว ททท. จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ครองประทีป จำกัด และ บริษัท โฟร์เอส    (ไทยแลนด์) จำกัด จัดงาน “Amazing Thailand Folk Music Festival” ใน 5 พื้นที่ทั่วไทย เพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทยสืบไป และยังสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ให้กับประเทศไทย

พร้อมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว กระจายรายได้ และเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถเดินทางไปร่วม ร้อง เล่น เต้น รำ ไปกับจังหวะสามช่าเร้าใจและลำซิ่งสุดมัน ในงาน “Amazing Thailand รำวง Festival” โดยกำหนดการจัดงานมีดังนี้

ครั้งที่ 1 การแสดงจากคณะรำวงโฟร์เอส ไทยแลนด์ 

จัดงานในวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ณ วัดท่าประชาสวรรค์ ต.วังลึก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

ครั้งที่ 2 การแสดงจากคณะรำวงโฟร์เอส ไทยแลนด์

จัดงานในวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ณ วัดพังตรุ ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

ครั้งที่ 3 การแสดงจากคณะอีสานนครศิลป์

จัดงานในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ณ วัดโป่งสะเก็ดนอก ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ครั้งที่ 4 การแสดงจากคณะประถมบันเทิงศิลป์

จัดงานในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ณ วัดอ้อมน้อย ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

ครั้งที่ 5 การแสดงจากคณะรำวงโฟร์เอส ไทยแลนด์

จัดงานในวันที่ 20 ธันวาคม 2568 ณ เขื่อนเจ้าพระยา ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

ททท. เชื่อมั่นว่าการจัดงาน “Amazing Thailand Folk Music Festival” ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวอันทรงคุณค่า ถ่ายทอดความสุขผ่านเสียงเพลง การแสดง และ   วิถีชีวิตท้องถิ่นไทย อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

“สุทิน บัวตูม” ประกาศฟุตซอลชายต้องเหรียญทองซีเกมส์ 2025 ยก อินโดนีเซีย-เวียดนาม น่ากลัว

“บิ๊กทิน”สุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลชายทีมชาติไทย เปิดเผยถึงเป้าหมายในการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ว่า 
   
“ฟุตซอลชายทีมชาติไทยเราเป็นแชมป์เหรียญทองซีเกมส์มาทุกสมัยที่มีการแข่งขันใน 5 ครั้งที่ผ่านมา และหนนี้จะต้องรักษาแชมป์สมัยที่ 6 เอาไว้ให้ได้”

“ส่วนชาติที่น่ากลัวที่สุด คือ อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ซึ่งแต่ละชาติต่างพัฒนาขึ้นมาทัดเทียมกันหมดแล้ว ดังนั้น แรงวัด-แรงเหวี่ยง จึงพอๆกัน ซึ่งทีมฟุตซอลทีมชาติไทยจะไม่ประมาทไม่ได้เลยเด็ดขาด ไม่ว่าทีมใหนๆที่จะต้องเจอก็ตาม”

“ผมในนามของผู้จัดการทีมฟุตซอลชายทีมชาติไทย ขอเชิญชวนแฟนๆฟุตซอลคนไทยร่วมให้กำลังใจ ฟุตซอลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ทั้งทีมชายและทีมหญิง ซึ่งประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพซีเกมส์2025 และร่วมกันให้กำลังใจกีฬาทุกชนิดในครั้งนี้ด้วยครับ”

“ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทั้งประเทศร่วมกันต้อนรับนักกีฬาในชาติอาเซี่ยน และให้การต้อนรับแฟนกีฬาจากชาติต่างๆให้ดีที่สุด พวกเขาเปรียบเสมือนญาติสนิทที่มาร่วมใก้กำลังใจกีฬาแต่ละประเทศ และเราจะต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดีครับ”

สำหรับการแข่งขันฟุตซอลชายในซีเกมส์2025 มีทั้งหมด 5 ชาติ ใช้ระบบพบกันหมด อันดับ 1 คว้าเหรียญทอง , อันดับ 2 เหรียญเงิน และ อันดับ 3 เหรียญทองแดง แข่งขันที่ โรงยิมเนเซียม อบจ.นนทบุรี 

🇹🇭 ไทย (เจ้าภาพ) อันดับ 11 โลก 
🇮🇩 อินโดนีเซีย อันดับ 23 โลก 
🇻🇳 เวียดนาม อันดับ 26 โลก 
🇲🇲 เมียนมา อันดับ 56 โลก 
🇲🇾 มาเลเซีย อันดับ 81 โลก 

โปรแกรมของฟุตซอลชายทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ มีดังนี้

#Matchday1 
📅 วันที่ 15 ธันวาคม 2568
🇹🇭 ไทย พบ มาเลเซีย 🇲🇾
⏰ เวลา 19.00 น.
🏟️ นนทบุรี สเตเดียม

#Matchday2
📅 วันที่ 16 ธันวาคม 2568
🇲🇲 เมียนมา พบ ไทย 🇹🇭
⏰ เวลา 19.00 น.
🏟️ นนทบุรี สเตเดียม

#Matchday3
📅 วันที่ 18 ธันวาคม 2568
🇻🇳 เวียดนาม พบ ไทย 🇹🇭
⏰ เวลา 19.00 น.
🏟️ นนทบุรี สเตเดียม

#Matchday4
📅 วันที่ 19 ธันวาคม 2568
🇹🇭 ไทย พบ อินโดนีเซีย 🇮🇩
⏰ เวลา 19.00 น.
🏟️ นนทบุรี สเตเดียม

#ทีมชาติไทย #ฟุตซอลทีมชาติไทย #SEAGames #SEAGames2025 #SEAGamesThailand2025

ดอยอินทนนท์สุดคึกคัก!นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสหนาวยามเช้า

บรรยากาศการท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่องในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามเช้าที่อุณหภูมิลดต่ำลงมาอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันหลั่งไหลเดินทางขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวเย็น

นอกจากนี้เพื่อชมความงามของปรากฏการณ์ธรรมชาติ อุณหภูมิลดฮวบ บริเวณยอดดอยอินทนนท์รายงานอุณหภูมิต่ำสุดแตะ 6 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่หนาวเย็นที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา

นักท่องเที่ยวเนืองแน่น แม้จะเป็นช่วงเช้าตรู่ แต่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็ไม่ย่อท้อ ต่างสวมเสื้อกันหนาว หมวก และถุงมือ เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและสัมผัสความหนาวเย็น

.

อุณหภูมิดิ่ง 20 องศา คนขอนแก่นแห่ซื้อผ้ากันหนาวดันยอดขายพุ่ง

อากาศขอนแก่นเย็นต่อเนื่องแตะ 20 องศา ชาวบ้านแห่ซื้อเสื้อกันหนาวมือสองคึกคัก ร้านค้าคอนเฟิร์มปีนี้หนาวแรง–ขายดีกว่าปีก่อน

ประชาชนจำนวนมาก พากันมาออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองที่ตลาดสดบางลำภู จ.ขอนแก่น กันอย่างคึกคัก ภายหลังจากสภาพอากาศที่ จ.ขอนแก่น อุณหภูมิลดลงต่อเนื่องโดยช่วงเช้าวันนี้วัดระดับอุณหภูมิได้ 20  องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนได้ออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง กันอย่างคึกคัก

น.ส.ไพรัตน์ แสงสว่าง อายุ 58 ปี เจ้าของร้านไพรัตน์ ผ้ามือสอง ตลาดบางลำภู กล่าวว่า ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาขอนแก่นอากาศเริ่มเย็นลงต่อเนื่อง พร้อมลมหนาวที่พัดมา ทำให้ประชาชนออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาวจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศการขายเสื้อกันหนาวมือ 2 ที่ร้านตนเอง เริ่มขายดีขึ้น ส่วนปัญหาชายแดนกับการนำเข้าเสื้อกันหนาวมือสองช่วงแรกๆที่รบกันมีปัญหาบ้าง แต่ตอนนี้ค้าขายได้ตามปกติและสามารถนำเข้ามาได้ 

“ส่วนใหญ่เสื้อที่ขายดีจะเป็นเสื้อฮูด สเวกเตอร์ เพราะใส่ได้ทุกเพศทุกวัย นักเรียน นักศึกษาใส่ได้หมด ใส่ได้ทุกช่วงฤดู ราคาขายเสื้อกันหนาวมือสองขายเริ่มต้นตัวละ 70 บาท แพงที่สุดในร้าน 100 บาท อย่างไรก็ตามถ้าเทียบช่วงนี้กับปีที่ผ่านมาปีนี้ ขายดีกว่าเพราะตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา จะหนาวกว่าปีที่ผ่านมา คนเริ่มทยอยออกมาซื้อเสื้อใส่มากขึ้นและคึกคักกว่าปีที่แล้ว”