“ฉลองวาเลนไทน์” ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

“ฉลองวาเลนไทน์” ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เชิญชวนทุกคู่รักมาสัมผัสบรรยากาศหวานซึ้งรับคืน “วันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2566” พร้อมอิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์นานาชาติที่รวมซีฟู้ดและซูชิพรีเมียม อาทิ ขาปู อลาสก้า หอยนางรม กั้งกระดาน หอยหวาน กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ซูชิวากิว แซลมอน พาสต้าพรีเมียม ของหวาน ผลไม้ ไอศกรีม เครื่องดื่มครบครัน เพลิดเพลินกับเสียงไวโอลินอันไพเราะตลอดคืน

รับเครื่องดื่มพิเศษ 1 แก้ว พร้อมช็อคโกแลตวาเลนไทน์ เมื่อจองล่วงหน้า มาเดี่ยวเพียงท่านละ 1,399 บาทถ้วน มาเป็นคู่เพียง 2,600 บาทถ้วนเท่านั้น ที่ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ

หรือจองแพ็คเกจพร้อมห้องพักซูพีเรีย 1 คืนรวมอาหารเช้าที่เสิร์ฟถึงห้อง (สำหรับ 2 ท่าน) เพียง 3,999 บาทเท่านั้น

พิเศษ!! จองล่วงหน้าภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 รับสิทธิ์อัพเกรดเป็นห้องพักดีลักส์ พร้อมดอกไม้ 1 ช่อและเครื่องดื่มพิเศษฉลองวาเลนไทน์ในห้องพัก 1 ขวด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองล่วงหน้าได้ที่โทร.0-2276-4567 หรือไลน์ @theemeraldhotel และ www.facebook.com/theemeraldhotel

ADVERTISEMENT

เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิด Health Plus Global Wellness Service & Genetic Laboratory อย่างยิ่งใหญ่

เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิด Health Plus Global Wellness Service & Genetic Laboratory อย่างยิ่งใหญ่

พร้อมให้บริการตรวจถึงระดับยีน มุ่งมั่น ร่วมสร้าง Wellness Ecosystem เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย

MP Group (Thailand) ได้จัดงาน MP Group 2023: Shaping the Future of Health & Well-being อย่างยิ่งใหญ่ ณ อาคาร MP Group (Thailand) Headquarter โดยได้รับเกียรติจาก ท่านองคมนตรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ให้เกียรติมากล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ความสำคัญของ Genetic Testing กับอนาคตของชาติ” อีกทั้งเป็นประธานในพิธีเปิดห้องปฏิบัติการ Health Plus Global Wellness Service and Genetic Laboratory อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งได้มีการจัดงานบรรยายทางวิชาการ และได้มีการจัดงานเสวนาวิชาการนวัตกรรมการตรวจระดับยีน โดยท่านวิทยาการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Genetic และ Lifestyle Medicine เพื่อเป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในปี 2023 นี้ของ MP Group ด้วยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยเพื่อที่จะ ร่วมสร้าง Wellness Ecosystem ใหม่ ให้คนไทยได้เข้าถึงการตรวจวินิจฉัยระดับยีนเพื่อการดูแลสุขภาพจําเพาะบุคคลแบบองค์รวม

โดยในปี 2566 นี้ MP Group จะสร้าง S-curve ใหม่ อีกมากมาย เพื่อตอบโจทย์ต่อการบริการทางการแพทย์ที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ห้องปฏิบัติการ Health Plus Global Wellness Service and Genetic Laboratory และนับได้ว่าเป็นก้าวใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นในอนาคต โดยมุ่งหวังว่าห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะร่วมสร้าง Wellness Ecosystem ในการยกระดับการให้บริการตรวจวินิจฉัย เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยประกอบไปด้วยการให้บริการตรวจ Wellness Gene Check, Cancer Gene Check และการตรวจสุขภาพทั่วไป รวมไปถึงบริการตรวจ COVID-19 RT-PCR ด้วย ในการตรวจ Gene ห้องปฏิบัติการได้ใช้เทคโนโลยีการตรวจขั้นสูง ด้วยหลักการ Next Generation Sequencing และ Microarray เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด โดยได้รับรองมาตรฐาน CE-IVD ทั้งระบบ อีกทั้งห้องปฏิบัติการยังได้รับรองมาตรฐาน ISO15189 และ ISO15190 ซึ่งเป็นเครื่องมือยืนยันคุณภาพที่ได้การยอมรับในมาตรฐานสากล
ซี่งในขณะนี้ ห้องปฏิบัติการ Health Plus Global Wellness Service and Genetic Laboratory พร้อมเปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้ว และมุ่งมั่นว่าห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนชาวไทย Live an Excellent Life

โดย คุณ นทพร บุญบุบผา CEO บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า
“บริษัท เอ็มพี กรุ๊ปฯ เป็นบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายนวัตกรรมทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานสากล เอ็มพี กรุ๊ป มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับและใช้งานในการวินิจฉัยจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ยาวนานกว่า 22 ปี โดยเอ็มพี กรุ๊ป ยังเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของห้องปฏิบัติการชั้นนำทั่วประเทศ
ปัจจุบัน ผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มจะกลับมาใช้บริการในไทยก็เพิ่มขึ้นในปี 2565 ที่ผ่านมา และจากนโยบายภาครัฐ ในการพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ทางบริษัท MP Group ยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อร่วมสร้าง Wellness Ecosystem ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการวินิจฉัยทางห้องแลปที่ได้มาตรฐาน และมีชีวิตอย่างยั่งยืนอย่างมีความสุขด้วยสุขภาพที่ดีค่ะ

ผู้บริหารยังกล่าวอีกว่า “ ในปี 2023 นี้ บริษัท เอ็มพี กรุ๊ปฯ ต้องการปั้นธุรกิจใหม่เข้าสู่ธุรกิจ Wellness ได้แก่ Genetic Testing Laboratory ที่มีแพคเกจการตรวจยีนเฉพาะบุคคล โดยใช้เทคโนโลยีการตรวจที่ทันสมัยเพื่อให้เกิดความแม่นยำ ( Precision Medicine ) เนื่องจากยีนในแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน จึงทำ ให้คนแต่ละคน มีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน โดยในปัจจุบันปัจจัยภายนอก เช่น ได้แก่ การสูบบุหรี่ อาหาร อาหารเสริม สารเคมี มลภาวะ เช่น PM2.5 สามารถมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของยีนในแต่ละบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชั่วคราว หรือ การเปลี่ยนแบบถาวร ที่อาจจะนำไปสู่การกลายพันธุ์ของยีนในครอบครัวรุ่นต่อไป (Germ Line) ได้ หากตรวจพบการเปลี่ยนแปลงนี้ในกลุ่มโรคที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งเต้านม ก็อาจจะนำมาสู่ความสูญเสีย อย่างมากมาย ดังนั้น บริษัท เอ็มพี กรุ๊ปฯ ก่อตั้ง Health Plus Laboratory (HP Lab) ขึ้นมา ด้วยความเชื่อที่ว่า หากคนได้มีโอกาสเข้าถึงการตรวจการเปลี่ยนแปลง หรือ ผิดปรกติของยีนที่เกิดจากปัจจัยภายนอกนี้ จะสามารถนำไปสู่การวางแผนสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาวได้ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสีย รวมถึงช่วยบรรเทาค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เอ็มพี กรุ๊ปฯ ยังปั้นธุรกิจใหม่ คือ MP Heathcare ที่เป็น Beauty Wellness ในแบรนด์ Glass Skin ที่เป็นชุดบำรุงผิว (Skincare) ที่ผลิตจากเมือกหอยทากโมเลกุลเล็ก (Micro Molecule) ที่มาจากงานวิจัยโดยทีมนักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกทันที เราใช้เมือกแห่งความสุขจากหอยทากสัญชาติไทยที่หลั่งมาจากส่วนคอ ของหอยทาก (Mantle Mucin) ที่อุดมไปด้วยคุณค่า ของ Hyaluronic Acid , Allantoin , Glycolic Acid (AHA) และ Glycopeptide สูงมากกว่าเมือกหอยทากทั่วไปถึง 30 เท่า จึงสามารถเนรมิตผิวให้สวยแข็งแรงขึ้นได้อย่างชัดเจน ลดปัญหาสิว ผื่นแดง ผิวแพ้ง่าย ริ้วรอย กระ ฝ้า นอกจากนี้ Glass Skin ยังช่วยส่งเสริมธุรกิจ หมุนเวียน Bio Circular Green ( BCG model) ที่ส่งเสริมคุณค่าให้ ทุก Stake Holder ที่อยู่ใน Value Chain ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เราเชื่อว่า Glass Dkin จะเป็น Cleanical หรือ Science-based Skincare ที่เป็นทางเลือกที่ทุกเพศทุกวัยที่มองหา เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ที่มีงานวิจัยรองรับ ที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น แตกต่างจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นที่มีในท้องตลาด เอ็มพี กรุ๊ปฯ อยากเห็นคนไทยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน เพื่อใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น Live an Excellent Life ” คุณนทพร กล่าว

MP Group (Thailand) ผู้นำด้านนวัตกรรมทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างครบวงจร (Total Solution) และการบริการหลังการขาย Fast and Accurate ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล ISO9001 ในฐานะผู้นำแห่งนวัตกรรมการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เราเชื่อว่านวัตกรรมทางการวินิจฉัย คือกุญแจไขความลับของโรคภัยต่างๆ ดังนั้นเราพร้อมส่งมอบกุญแจดอกนี้ให้กับห้องปฏิบัติการ เพื่อมอบคำตอบที่ถูกต้องและแม่นยำให้กับการวินิจฉัย และอีกทั้งยังก้าวสู่ผู้นำแห่งนวัตกรรม Healthcare Business เพื่อสร้าง Wellness Ecosystem ของประเทศ โดยการตรวจลงลึกในระดับ Gene ซึ่งเปรียบเสมือนรหัสลับ ที่ทำให้สามารถกำหนด Lifestyle ด้วยศาสตร์ของ Precision Medicine นับว่าเป็นอีกหนึ่ง S-curve ที่จะเชื่อมโยงการวินิจฉัยผู้ป่วย Illness และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม Wellness เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน Live an Excellent Life
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ customerservice@mpgroup.co.th LINE : @MPGroupThailand

ขอขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์
อุมา จงสิริวิทยา (น้อง) โทร.081-899-5395

สมศักดิ์” บุกเชียงราย แก้ปัญหายาเสพติด ชี้ เหนือตอนบน ถูกใช้เป็นทางผ่านขนส่งยา แนะ ช่วยกันแจ้งเบาะแส รับรางวัล 5%

สมศักดิ์” บุกเชียงราย แก้ปัญหายาเสพติด ชี้ เหนือตอนบน ถูกใช้เป็นทางผ่านขนส่งยา แนะ ช่วยกันแจ้งเบาะแส รับรางวัล 5%

ยกตัวอย่าง “ชูวิทย์”แฉจีนเทา อาจรับทรัพย์ถึง 200 ล้านบาท มั่นใจไม่มีเจ้าหน้าที่ช่วยคดี หลังมีส่วนแบ่ง 25% เผย บุกทลายโรงงานผลิตยาไม่ได้ แต่สกัดส่งออกสารตั้งต้นแล้ว

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เมื่อเวลา 14.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด รองรับประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย นางแววตา แสงบุญ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงราย และสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดินกว่า 1,250 คน เข้าร่วม ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยกันป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพราจังหวัดเชียงราย ถือเป็นทางผ่านของการใช้ขนย้ายยาเสพติด เนื่องจากแหล่งผลิตยาเสพติด อยู่ชายแดนรอบประเทศ ทำให้ประเทศเรา กลายเป็นทางผ่าน เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ดังนั้น รัฐบาล จึงแก้ปัญหายาเสพติดแบบจริงจัง ด้วยการบูรณาการทุกหน่วยงาน โดยมีตน เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามยาเสพติด และแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 24 ฉบับ มาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เน้นการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการตัดวงจรการค้ายา

“กฎหมายฉบับใหม่ ยังให้รางวัลนำจับกับผู้แจ้งเบาะแส 5% อย่างที่เป็นข่าวใหญ่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดโปงกลุ่มจีนเทา จนทำให้ขณะนี้ ป.ป.ส.อายัดทรัพย์สินได้แล้วกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งหากศาลสั่งยึดทรัพย์ 4 พันล้านบาท นายชูวิทย์ ก็จะได้รางวัลนำจับถึง 200 ล้านบาท ส่วนข้อกังวลว่า เจ้าหน้าที่จะรับสินบนช่วยผู้ต้องหานั้น เราก็มีการให้รางวัลเจ้าหน้าที่ด้วย 25% เพื่อปิดช่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่จะได้ถึง 1 พันล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีเจ้าหน้าที่ไปช่วยผู้ต้องหาอย่างแน่นอน” รมว.ยุติธรรม กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ปีนี้ ตนได้ตั้งเป้าไว้ที่ 1 แสนล้านบาท โดยผลงานในรอบ 3 เดือนแรก สามารถยึดได้แล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท และก่อนตนเข้ามารับตำแหน่งรมว.ยุติธรรม มีการยึดทรัพย์เข้ากองทุนยาเสพติดได้เพียงปีละ 20-30 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ยึดทรัพย์เข้ากองทุนยาเสพติดได้แล้ว 541 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ตัวเลขมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้น ขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ในการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน 1386 และระบบบล็อคเชน ในการแจ้งแบบไม่เปิดเผยตัวตน

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตยาเสพติด สามารถผลิตยาบ้าได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยปี 2540 สามารถผลิตได้เพียงวันละ 6.5 หมื่นเม็ด แต่ปัจจุบัน มีกำลังผลิตได้ถึงวันละ 4 ล้านเม็ด จึงเป็นสาเหตุของการทำให้ยาบ้ามีราคาถูก เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกลงเป็นจำนวนมาก และถึงแม้ เราจะเข้าไปจัดการกับแหล่งผลิตยาเสพติด ที่อยู่รอบประเทศไม่ได้ แต่รัฐบาล ก็ได้แก้ปัญหาเรื่องการส่งออกสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เพราะสารตั้งต้น 1 กิโลกรัม สามารถผลิตยาบ้าได้ถึง 15,000 เม็ด

“กระทรวงยุติธรรม ยังได้ผลักดันกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ จนสามารถมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งก็จะมีการนำมาเฝ้าระวังกับผู้ที่ก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่ติดยาเสพติด แล้วก่อเหตุสะเทือนขวัญ ซึ่งจะมีการใส่กำไลอีเอ็ม สูงสุด 10 ปี เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำ โดยนับเป็นกฎหมายที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมเป็นฉบับแรก นอกจากนี้ ผมก็กำลังผลักดันกฎหมายช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยสัตว์ที่สามารถจัดการแข่งขันได้ ก็จะมีการช่วยยกระดับ สร้างมูลค่าให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องเกษตรกร” นายสมศักดิ์ กล่าว

พลเอก​​ เทอดศักดิ์​ มารมย์ พร้อมญาติมิตรร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ​คุณพ่อบุญเลิศ​ ตั้งคณา

พลเอก​​ เทอดศักดิ์​ มารมย์ พร้อมญาติมิตรร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ​คุณพ่อบุญเลิศ​ ตั้งคณา

พลเอก​​ เทอดศักดิ์​ มารมย์ พร้อมญาติมิตรของพันเอกนายแพทย์​ พงศ์ศักดิ์​ ตั้งคณา​ นักพูดชื่อดังของเมืองไทย จากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน​ ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ​ คุณพ่อบุญเลิศ​ ตั้งคณา

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน​ พ.ศ 2565
ณ​ สุคติสถาน
วัดชลประทานรังสฤษดิ์​
พระอารามหลวง​ จังหวัดนนทบุรี

พระปัญญานันทมุนี(สง่า สุภโร) ให้เกียรติ​มา​ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์​ และ​ ปาฐกถาธรรม​ โดยมี พลเอก​ ดร.​ เทอดศักดิ์​ มารมย์​ ประธานมูลนิธิสหพันธ์สันติภาพสากล​ ประเทศไทยเป็นประธาน​ ฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ คุณพ่อบุญเลิศ​ ตั้งคณา บิดาของพันเอกนายแพทย์พงศ์ศักดิ์​ ตั้งคณา​ ประธาน​ มูลนิธิ​จิต​เป็น​ผู้ให้​ใจ​เป็น​นิพพาน​ โดยมี​
พลเอก​ จำลอง คุณสงค์​ รองประธานมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน, ศาสตราจารย์พิเศษ​ ดร.​ ยุวัฒน์​ วุฒิเมธีประธานมูลนิธิร่มเกล้าเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ฯ, ดร. ธีรภัทร​ ประยูรสิทธิ​ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, คุณอา​ สมบุญ​ เสริมศักดิ์ น้องคนสุดท้องของครอบครัว​ ตั้งคณา, นายแพทย์วิเชาว์​ กอจรัญจิตต์​ อดีตผู้อำนวยการ​ ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย, นายประกอบ​ วิวิธจินดา อดีตอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์​ สูทกวาทิน​ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติร่วมทอดผ้าบังสกุล

รวมทั้ง ญาติมิตร และผู้มีเกียรติจากหลากหลาย​วงการ​ ที่ได้มาร่วมไว้อาลัย อาทิ​เช่น​ ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธาน มูลนิธิธรรมดี,พลตำรวจ​ตรี​ ทวี​โรจน์​ ศิริ​สวัสดิบุตร,นายแพทย์​ สกล​ ภูมิรัตน์ประพิน อดีต ผู้อำนวยการ​โรงพยาบาล​สมุทรสาคร,นายแพทย์​ ภาณุวัฒน์ วิรัตนภาณุ หัวหน้ากุมารแพทย์ โรงพยาบาล​สุรินทร์, ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาและ​ ทนาย​ พสิษฐ์​ เลิศสินเจริญ​กุล​ ฯลฯ​

สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณพ่อบุญเลิศ​ ตั้งคณา​ บิดา​ พันเอกนายแพทย์พงศ์ศักดิ์​ ตั้งคณา​ นักพูด​ส่งเสริมคุณธรรม​ จริยธรรม ชื่อดัง ของเมืองไทย​ ในครั้งนี้ จัดขึ้น​ อย่างสมเกียรติ​เพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่คุณพ่อบุญเลิศ​ ตั้งคณา​

โดยมีขบวนเชิญกล่องเพลิงพระราชทาน​ มาถึงบริเวณประกอบพิธีพระราชทานเพลิง​ คณะเจ้าภาพตั้งแถว​ รับกล่องเพลิงพระราชทาน เจ้าหน้าที่​สำนักพระราชวัง​ อัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ขึ้นวางประจำจุด โดยมีพลเอก​ ดร.เทอดศักดิ์​ มารมย์​ เป็นประธาน​ ฝ่ายฆราวาส​ ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้ และพันเอกนายแพทย์พงศ์ศักดิ์​ ตั้งคณา​ เป็นผู้แทนของครอบครัว​ ตั้งคณา​ อ่านคำไว้อาลัยฯ​ ท่ามกลาง ญาติมิตรและผู้ที่เคารพนับถือเดินทางมาร่วมไว้อาลัยจากทั่วประเทศกว่า 1,000 คน

ภาพ/ข่าว​ โดย
ชยุต​ เมธาวิชิตชัย​ ผู้​สื่อข่าว​ ​ประจำ​กอง​บรรณาธิการ​หนังสือ​พิมพ์​ข่าว 4​ เหล่าทัพ​ และ
บรรณาธิการ​ข่าว​ออนไลน์​ /ข่าวหน่วย ราชการ​ ​ Asia morning​ news​ /
ประธาน​ ชมรมผู้สื่อข่าว
และกัลยาณมิตรกลุ่มจริงใจสายบุญ
ประธาน​ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ชมรมผู้ปิดทองหลังพระ
0994926996
0642987896​

“สมศักดิ์”รับมอบรถขนร่างอาจารย์ใหญ่จาก”ชูวิทย์” ส่งต่อนิติวิทย์ใช้งาน

“สมศักดิ์”รับมอบรถขนร่างอาจารย์ใหญ่จาก”ชูวิทย์” ส่งต่อนิติวิทย์ใช้งาน

ชมช่วยปลุกกระแสปราบยาเสพติด หลังแจ้งเบาะแสยึดทรัพย์กว่า 8,000 ล้านบาท ชี้การเอื้อเฟื้อกันในสังคมทำให้เกิดความสุข

วันที่ 1 ก.พ.66 เวลา 09.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม และนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิบัติราชการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รับมอบ หลอดไฟ 1,600 หลอดจาก นายนรินทร์ ศิลปรักษ์ ประธานกรรมการบริหาร ทีทีซี แอลอีดี เทคโนโลยี เพื่อให้หน่วยงานต่างๆนำไปใช้ประโยชน์ จากนั้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เข้ามอบ รถยนต์บรรทุกร่างอาจารย์ใหญ่ ให้กับสถาบันนิติวิทยาศาตร์

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนชื่นชมการทำงานของ นายสมศักดิ์ มานาน ซึ่งไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ติดตามและเห็นผลงานหลายอย่างที่น่าชื่นชม วันนี้ตนอยู่ในช่วงปลายอายุไข จึงอยากทำกุศล ช่วยสังคมและราชการ เพราะทราบว่ารัฐบาลมีงบประมาณจำกัด และเห็นว่างานของนิติวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะต้องใช้รถ ตนจึงอยากมาบริจาคช่วย โดยก่อนหน้านี้ตนตั้งเป้าว่าจะบริจาคช่วยโรงพยาบาลทั้งหมด 10 คัน ได้บริจาคไปแล้ว 3 คือ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลตำรวจ สำหรับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นคันที่ 4

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายชูวิทย์ ได้แจ้งเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด ถือเป็นคนแรกที่มีความกล้าหาญ ทำให้เราสามารถยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมากกว่า 8,000 ล้านบาท และยังเหลืออีกเยอะมากที่เรากำลังสืบ ซึ่งเราสามารถยึดย้อนหลังได้ 10 ปี ถือเป็นการนำร่องที่สวยงาม ในอดีตคนไม่รู้เลยว่าคนค้ายามีเงินมากมายมหาศาล โดยข้อมูลจาก UNODC เปิดเผยมูลค่าตลาดยาเสพติดว่ามีมากถึง 1 ล้านล้านบาท โดยในช่วงวาระท้ายๆของรัฐบาล เราอาจจะกังวลว่าที่เราทำมาตลอด 3 ปีเศษจะเป็นหมัน แต่นายชูวิทย์เข้ามาปลุกกระแส ทำให้คนตื่นตัวและเข้าใจปัญหายาเสพติดมากขึ้น ซึ่งจะมีคนอื่นที่นำแบบอย่างจากนายชูวิทย์ไปทำตาม

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้นายชูวิทย์ นำรถมามอบให้ จริงๆนายชูวิทย์ต้องได้รางวัลแจ้งเบาะแส 400 ล้านบาท แต่ก็ไม่เอาเป็นของตัวเอง กลับนึกถึงคนอื่น นำรถบริจาคให้กับโรงพยาบาลและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อีก ตนต้องขอชื่นชม การมีน้ำใจเอื้อเฟื้อกันในสังคมนั้น ประเทศชาติของเราจะสะอาด เป็นยุคที่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เฉพาะคนรุ่นใหม่เท่านั้นแต่คนที่อายุมากก็เปลี่ยนได้ หากเรานึกถึงส่วนรวม โดยใช้ศาสตร์พระราชาที่ชี้นำชีวิต คือการ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา จะทำให้เรามีความสุข

จากนั้นนายสมศักดิ์ และนายชูวิทย์ ได้เดินดูรถ และได้เข้าไปนั่งโดยนายชูวิทย์นั่งฝั่งคนขับและนายสมศักดิ์นั่งฝั่งผู้โดยสาร

เมย์  สริญญา มากับ เน็ท-พีรนัย บอสใหญ่ พีรดาออร์แกนิค เปิด FOOD MATTERS  

เมย์  สริญญา มากับ เน็ท-พีรนัย บอสใหญ่ พีรดาออร์แกนิค เปิด FOOD MATTERS  

จากการที่เศรษฐกิจฝืดเคืองจึงเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนเพื่อนพ้องน้องพี่นักร้องนักดนตรีที่หาค่ำกินเช้า เท่ากับว่าต้องดิ้นรนหาอาชีพเสริมเติมพลังทรัพย์นับได้ว่าหนทางที่ทุกคนฟันธงลงไป คือตลาด ออนไลน์ ซึ่งกำลังเป็นที่หมายตาของนักลงทุนในวงการบันเทิง 

ส่วนที่กำลังเป็นที่ฮือฮ่าในบรรดานักชิมเพราะจากการวัดเรตติ้งที่วิ่งแรงเป็นสิ้นค้าอาหารสุดยอดนิยมอยู่ในตลาดออนไลน์ในขณะนี้ต้องยกให้ “คอหมูทอดน้ำปลา” ของ FOOD MATTERSจากบทสัมภาษณ์ น้องเมย์ -สริญญา ณรงค์ฤทธิ์ อดีต นางฟ้าฟุตบอลไทย เมย์เชสเตอร์ซึ่งในปัจจุบันหันมาทำธุรกิจจำหน่ายสินค้าบริโภคทาง ON LINE ภายใต้ชื่อ FOOD MATTERS  น้องเมย์ สริญญา ได้เสวนาถึงที่มาของ FOOD MATTERน้องเมย์ -สริญญา กล่าวว่า“เรื่องมีอยู่ว่า เมย์ ต้องการผลิตสินค้าบริโภคที่มีคุณภาพด้วยราคาที่ผู้ซื้อจับต้องได้ภายใต้ ชื่อ Food Mattersส่วนสินค้า เบอร์แรกของเรา คือคอหมูทอดน้ำปลา สำหรับเมนูนี้เมย์ต้องขอยอมรับว่าเป็น เมนูอาหารที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเกินกว่าที่เราคาดคิดชนิดที่เรียกได้ว่า ผลิตกันแทบไม่ทัน คงเป็นเพระว่า“คอหมูทอดน้ำปลา”หมักด้วยสูตรพิเศษจากเชพเลอกอร์ดองเบลอทำให้หมูนั้นนุ่มออกแบบเพื่อให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รับประทานได้ง่ายสบายท้องกันทั่วหน้าส่วนเรื่องปัญหาเรื่องการเก็บรักษาควรแช่ช่องฟรีซอายุการเก็บรักษาได้ถึง 1-2 เดือนเลยทีเดียวเรายินดีรับพันมิตรทุกแบรนด์ล่าสุด  คุณเน็ท พีรนัย เจ้าของแบรนด์พีรดา ออร์แกนิค ตอบรับเป็นตัวแทนจำหน่ายในแถบโซนบางแคและสถานที่ใกล้เคียงซึ่งทางเราได้กระจายสินค้าและสามารถนำไปต่อยอดในโซนอื่นได้ ส่วนท่านที่รอคอย น้ำพริกกากหมูและก็เนื้อทอด เมย์ขอบอกได้เลยว่าตอนนี้สามารถสั่งซื้อได้แล้วส่วนใครที่มีความประสงค์จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสามารถสมัครมาได้เลยซึ่งช่วงนี้เราจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ เมย์ 065-494-9789หรือที่คุณเน็ท พีรดา 080-559-1662 ได้ตลอดเวลาฝากติดตามเพจ Food Matters ด้วยนะคะ”

งานพิธีมอบรางวัลส่งเสริมคนดีเด่นแห่งปี 2566 รางวัล “เพชรสุบรรณ” เชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบของแผ่นดิน

งานพิธีมอบรางวัลส่งเสริมคนดีเด่นแห่งปี 2566 รางวัล “เพชรสุบรรณ” เชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบของแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 ณ ห้องดอนเมืองบอลรูม โรงแรมอมารี ดอนเมืองแอร์พอร์ต กรุงเทพฯ มีงานพิธีประกาศเชิดชูเกียรติ บุคคลต้นแบบของแผ่นดิน มอบรางวัล “เพชรสุบรรณ” คนดีเด่นแห่งปี 2566

สำหรับงานพิธีประกาศเชิดชูเกียรติ บุคคลต้นแบบของแผ่นดิน มอบรางวัล “เพชรสุบรรณ” คนดีเด่นแห่งปี 2566 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติคุณยกย่องส่งเสริมบุคคลต้นแบบในการกระทำความดีเป็นต้นแบบของสังคม ภายใต้โครงการรณรงค์จิตสำนึก สร้างกระแสการพัฒนาคน และสังคมไทย ภายใต้แนวคิด “สร้างชาติ สร้างไทย คนดีของแผ่นดิน” โดยการมอบรางวัล “เพชรสุบรรณ” สัญลักษณ์ พญาครุฑนาค ความเจริญรุ่งเรือง มหาอำนาจ เมตตามหานิยม พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ในรัชกาลที่ 9 ประธานที่ปรึกษาโครงการ โดยหม่อมเจ้า ฑิฆัมพร ยุคล เสด็จเป็นประธานพิธีมอบ

ภายในงาน ได้มีบุคคลผู้ได้รับรางวัล “เพชรสุบรรณ” เชิดชูเกียรติคุณต้นแบบสังคม ในแต่ละสาขา และแขกผู้มีเกียรติต่างเดินทางเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายสัตยะพล สัจจเดชะ อดีตนายกสมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย และ นางสาวสิริภา สัจจเดชะ ได้รับรางวัล “เพชรสุบรรณ” เชิดชูเกียรติคุณต้นแบบสังคม สาขาบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมดีเด่น แห่งปี 2566

นางสาวสิริภา สัจจเดชะ ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจการรับรางวัลคนดีเด่นแห่งปี “เพชรสุบรรณ” ในครั้งนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับตัวเองและครอบครัว และหวังว่าสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ช่วยกันมุ่งมั่นสร้างสรรค์ทำความดีแก่ตนเองและสังคม โดยไม่ต้องมุ่งหวังผลตอบแทน แต่คุณงามความดีนั้นจะตอบรับกลับมาหาคุณเองและเป็นเกียรติคุณแก่ครอบครัว ช่วยกันแชร์เรื่องราวดี ๆให้แก่สังคมต่อไป

นางสาวสิริภา สัจจเดชะ จบการศึกษาปริญญาโท MBA จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้ซึ่งประพฤติตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ครอบครัวและสังคมมาโดยตลอด สร้างสรรค์สังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด มุ่งมั่นทำในคุณงามความดี จึงมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมในการรับรางวัลลูกตัวอย่างดีเด่น และอีกหลายรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง

พลตรีวัชชรินทร์ สุวรรณรินทร์ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ อดีตเจ้ากรมการสารวัตรทหารบก ได้รับรางวัล “เพชรสุบรรณ” เชิดชูเกียรติคุณ สาขาบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติดีเด่น แห่งปี 2566 ท่านได้กล่าวว่า รู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเองและครอบครัว ขอฝากถึงทุกท่านให้ตั้งใจทำตนใหเป็นคนดีเพื่อได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติแบบนี้เช่นกัน

เด็กชายปกรณ์เกียรติ สุขสุคนธ์ ได้รับรางวัล “เพชรสุบรรณ” เชิดชูเกียรติคุณต้นแบบสังคม สาขาบุคคลผู้เป็นแบบอย่างเยาวชนดีเด่น
เด็กชายปกรณ์เกียรติ สุขสุคนธ์ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6/4 โรงเรียนอนุบาลสามเสน เขตพญาไทย กรุงเทพมหานคร

งานพิธีประกาศเชิดชูเกียรติ บุคคลต้นแบบของแผ่นดิน มอบรางวัล “เพชรสุบรรณ” คนดีเด่นแห่งปี 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและน้อมถวาย พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมนำตามรอยพระยุคลบาทตามพระราชดำรัส มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
คนดีเด่นแห่งปี (รางวัล เพชรสุบรรณ) ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดยมีหน่วยงาน/องค์กรรับผิดชอบคือ มูลนิธิสร้างสรรค์สังคมไทย

“สมศักดิ์” เยี่ยมให้กำลังใจ”ตะวัน-แบม” กำชับหมอดูแลระวังผลข้างเคียงอดอาหาร

“สมศักดิ์” เยี่ยมให้กำลังใจ”ตะวัน-แบม” กำชับหมอดูแลระวังผลข้างเคียงอดอาหาร

“สมศักดิ์” เยี่ยมให้กำลังใจ”ตะวัน-แบม” กำชับหมอดูแลระวังผลข้างเคียงอดอาหาร ฝากเพื่อนช่วยโน้มใจกลับมากินข้าว ชี้ข้อเสนอหากทำได้ตามระบบพร้อมดำเนินการให้

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลา 14.00 น. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการ น.ส.อรวรรณหรือแบม ภู่พงษ์ และ น.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน ตัวตุลานนท์ หลังจากที่อดอาหารและถูกส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยมี น.ส.จุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ น.ส.โศรยา ฤทธิ์อร่าม ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์  รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ คณะแพทย์และพยาบาล ให้การต้อนรับ

รศ.นพ.พฤหัส กล่าวว่า อาการโดยรวมของน้องทั้ง 2 คน ยังไม่อันตราย หากยังยอมดื่มน้ำก็อยู่ได้ แต่ทางหมอก็พยายามใช้น้ำแข็งบำบัด ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง และพยายามช่วยให้กลับมาดื่มน้ำและกินข้าวได้

นพ.วัฒน์ชัย กล่าวว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ดูแลผู้ต้องขังที่อดอาหารมาหลายรายแล้ว และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี แต่น้องทั้ง 2 คนนี้ไม่ยอมกินอะไรเลย และขอให้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็มีการดูแลผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยอย่างเต็มที่เหมือนการรักษาของคนทั่วไป

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าไปเยี่ยม ว่า ตนต้องขอบคุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานอย่างดีในการดูแลผู้ป่วย และได้ฝากให้หมอดูแลเรื่องคีโต และการมาเยี่ยมเป็นการมาให้กำลังใจ อยากให้น้องๆทั้ง 2 คนดูแลตัวเองด้วย ต้องระวังเรื่องของโรคที่อาจจะตามมาหลังการอดอาหาร โดยเฉพาะไกรโคเจน ที่สะสมในตับ และมวลกล้ามเนื้อที่หายไป โดยทั้งสองคนยังไม่มีท่าทีจะถอย แต่ก็ได้ยอมดื่มน้ำไปบ้าง โดยทางคณะแพทย์บอกว่าจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด แต่หากปล่อยไว้นานอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งตนก็อยากให้เพื่อนๆ ของสองคนช่วยกันให้กำลังใจและขอให้กลับมาทานอาหารบ้าง ในส่วนข้อเสนอของทั้งสองนั้น ตนได้ชี้แจงว่า หากเราทำอะไรได้ตามระบบราชการที่ถูกต้อง เราก็พร้อมจะทำ ส่วนการปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรม คงทำไม่ได้เร็ว เพราะมีกรอบกฎหมายปฏิรูปอยู่ ก็คงต้องหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางตัวแทนคณะพยาบาล ได้ขอจับมือเป็นกำลังใจ และกล่าวขอบคุณที่ช่วยดูแลความปลอดภัยของเด็กๆ โดยนายสมศักดิ์ ถึงกับแสดงท่าทีตื้นตันและน้ำตาคลอ

“สมศักดิ์” ควง​ “ปลัดยุติธรรม” ถก “ไผ่ ดาวดิน-แอมมี่” ปมผู้ต้องขังอดอาหารในเรือนจำ ยัน ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน

“สมศักดิ์” ควง​ “ปลัดยุติธรรม” ถก “ไผ่ ดาวดิน-แอมมี่” ปมผู้ต้องขังอดอาหารในเรือนจำ ยัน ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน

ขณะที่ “พงษ์สวาท” แจงข้อเสนอปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล​อยู่แล้ว​ โดยทำได้ผ่านคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม

วันที่ 30 มกราคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ได้หารือกับ รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน หลังมีความเป็นห่วงสุขภาพ​ผู้ต้องขังคดีชุมนุมในเรือนจำ โดยเฉพาะ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ ที่อดอาหารในเรือนจำ

โดยตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวว่า ที่ได้เดินทางเข้ามาหารือวันนี้ เพราะต้องการอยากให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม รวมถึงอยากให้กรมราชทัณฑ์ คอยอัพเดทอาการของผู้ชุมนุมที่อดอาหารอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว พร้อมเสนอแนวทางการดูแลผู้ต้องขังที่ศาลยังไม่ตัดสินคดี โดยให้ใส่กำไลอีเอ็มแทนการคุมขังในเรือนจำ

ขณะที่ นางพงษ์สวาท กล่าวว่า ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยขับเคลื่อนตามแผนปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ที่มีการปรับปรุงแก้ไขทุก 5 ปี ซึ่งหากมีประเด็นใดที่ต้องการเสนอ เพื่อพัฒนาปรับปรุง ประชาชนทุกคนก็สามารถเสนอผ่านคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม เพื่อพิจารณาก่อนส่งต่อไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกฝ่าย ที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อช่วยกันทำให้บ้านเมือง เดินไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุข โดยกระทรวงยุติธรรม ขอยืนยันว่า อะไรที่ทำได้ เช่น การอัพเดทอาการผู้ต้องขัง เราก็จะรีบประสานไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ให้ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม มีความยินดีและมีความตั้งใจที่จะทำให้ เพื่อให้เกิดความสุขทุกภาคส่วน​ต้องการให้สิ่งดีๆ​ เกิดขึ้นในวันข้างหน้า พร้อมยืนยันว่า จะดูแลผู้ต้องขังตามหลักสิทธิมนุษยชน และมาตรฐานสากล โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติอย่างแน่นอน เพราะกระทรวงยุติธรรม มีแนวนโยบายเรื่องหลักสิทธิมนุษยชน บนพื้นฐานประชาธิปไตยอยู่แล้ว

ไพศาล เฉลย “ลุงป้อม”ไม่ทนแบกเสลี่ยงให้ท่านขุนนั่งอีกแล้ว! ชี้ อย่าหลง”อุบายเมืองร้าง”ของใคร!!!!

ไพศาล เฉลย “ลุงป้อม”ไม่ทนแบกเสลี่ยงให้ท่านขุนนั่งอีกแล้ว! ชี้ อย่าหลง”อุบายเมืองร้าง”ของใคร!!!!

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพส Facebook ว่า

2ป. จะกลับมาจับมือกันจริงหรือ???? อย่าหลงกระแส อย่างงกับโพล!!!!

1 หลังฤดูฝนผ่านพ้นไป สายลมอันหนาวเหน็บกำลังพัดจากเหนือ-อีสาน-กลาง เข้าเมืองหลวง ในขณะภาคใต้คลื่นใหญ่ลมแรงหลายระลอกกระหน่ำจากทุกทิศ หลายกลุ่มจอมยุทธ ได้กลับมารวมตัวกันใน พปชร.
~ กลุ่มเซนต์คาเบรียล ที่ถูกถีบหัวส่งก่อนใคร
~ กลุ่มสี่กุมารที่ถูกถีบหัวส่งเป็นชุดที่ 2
~ กลุ่มสามมิตรที่เคยถูกใช้โค่นกลุ่มสี่กุมาร แต่สัญญาไม่เป็นสัญญา
~ กลุ่มผู้กองธรรมนัส ที่ออกศึกรบให้ทุกทิศ อยู่ในสภาพเสร็จนาฆ่าโคถึก แต่ชะตาไม่ขึ้นกับคน ใครก็ฆ่าไม่ได้ มีฐานกำลังรุ่นที่ 25 และหลากหลายกลุ่มบู๊เฮี๊ยบ สนับสนุนอย่างแข็งขัน
~ สายวงศ์เทวัญกลุ่มลูกชายปู่ยศ อดีตแคดิเดทผู้บัญชาการทหารบก
~ กลุ่มโคราช ที่ถูกเอาเชือกคล้องคอไว้หวุดหวิดจะถูกรัดคอแต่ลุงป้อมช่วยตัดเชือกได้ทัน
~ เครือข่ายสายตรงของลุงป้อมทั้งในสว. และในสายตำรวจ ที่ถูกกันออกจากอำนาจมาร่วม3ปี

หลากหลายกลุ่มเหล่านี้ วันนี้กลับมารวมตัวกันในพ.ป.ช.ร. เดินหน้าหนุนลุงป้อมเป็นนายก และประสานทุกสายเพื่อเป็นแกนการจัดตั้งรัฐบาล!!!

ในขณะที่ลุงตู่ประกาศตัวชัดเจนต่อชาวชุมพรขอเวลาเป็นนายกอีก2ปี!!!!

2 ลุงป้อมในวันนี้”ไม่ยอมทนเป็นคนแบกเสลี่ยงให้ท่านขุนนั่ง” อีกแล้ว
แค่ที่แบกมา จากพี่ใหญ่ก็คล้ายเป็นพลทหารเข้าไปทุกทีแล้ว !!!
ถึงขนาดโต๊ะประชุมในบ้านป่ารอยต่อ ที่เคยนั่งเก้าอี้ประธานก็ต้องมานั่งอยู่ข้างซ้ายมือเสียแล้ว

3 สภาพเช่นนี้ 2 ป.กำลัง”เดินคนละทางสร้างดาวคนละดวง” หรือ”กลับมาจับมือกัน “????
ท่านสาธุชนอ่านหน้าไพ่กันเอาเองเถิด จะได้ไม่หลง”อุบายเมืองร้าง” ของใคร!!!!!

4 ในขณะที่หลายพรรคยังฝ่าด่านหิน 25 ส.ส ชนิดยังไม่รู้หมู่จ่า

แต่ในวันนี้พระพายพัดเสียงแว่วตามสายลมว่า ทีมงานฟอร์มรัฐบาลใหม่ของ พปชร เดินงานไปไกลแล้วในสภาพ ยื่นมือข้างไหนก็จัดตั้งรัฐบาลได้ทั้งนั้น!!!!

นับถอยหลังการเลือกตั้ง