รฟฟท. สวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสารเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์

ฟฟท. สวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสารเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ ส่งมอบความสุข และความห่วงใย ผ่านกิจกรรมการตลาดสุดพิเศษ! ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ แจกฟรี! หน้ากากอนามัย KF94 (Korea Design) 100,000 ชิ้น (10,000 ชุด) และบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท 50 รางวัล

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสารเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ จัดกิจกรรมการตลาดสุดพิเศษ เพื่อส่งมอบความสุข และความห่วงใยให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ โดยส่งมาสคอต “MR.RED Line” ออกแจกหน้ากากอนามัย KF94 (Korea Design) จำนวน 100,000 ชิ้น (10,000 ชุด) ภายในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกสถานี และแจกบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท 50 รางวัล ให้แก่ผู้โดยสารที่ร่วมสนุกโพสต์ภาพการใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงลงใน Instagram ส่วนตัว และติดแฮชแท็ก #สวัสดีปีใหม่ไทยรถไฟฟ้าสายสีแดง และแท็กมาที่ Instagram red_line_srtet

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่าเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2565 บริษัทฯถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสาร พร้อมส่งมอบความสุข และความห่วงใยให้แก่ผู้โดยสารด้วยกิจกรรมการตลาดทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์

โดยกิจกรรมการตลาดออฟไลน์ บริษัทฯส่งมาสคอต “MR.RED Line” เป็นตัวแทนอวยพรปีใหม่ไทยและแจกหน้ากากอนามัย KF94 (Korea Design) จำนวน 100,000 ชิ้น (10,000 ชุด) ภายในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกสถานี ในวันที่ 11 – 12 เมษายน 2565 ระหว่างเวลา 06.00 – 18.00 น.

สำหรับกิจกรรมการตลาดออนไลน์ เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารร่วมสนุกโพสต์ภาพการใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงลงใน Instagram ส่วนตัว และติดแฮชแท็ก #สวัสดีปีใหม่ไทยรถไฟฟ้าสายสีแดง และแท็กมาที่ Instagram red_line_srtet ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 เมษายน 2565 โดยผู้ร่วมสนุกกิจกรรมต้องตั้งค่า Instagram ส่วนตัวเป็นสาธารณะ ภาพที่ถูกใจคณะกรรมการรับบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท จำนวน 50 รางวัล ส่งตรงถึงบ้านฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ประกาศผลการร่วมสนุกวันที่ 25 เมษายน 2565 ทั้งนี้การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้โดยสารจะได้รับความสุข และรู้สึกถึงความปลอดภัยทุกครั้งจากการใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

พิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “รักพิเศษเพื่อคนพิเศษ”

พิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “รักพิเศษเพื่อคนพิเศษ” (Wonderful Love for Wonderful People) เปิดการเรียนการสอนสำหรับเด็กออทิสติกฟรีแบบบูรณาการ

พิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “รักพิเศษเพื่อคนพิเศษ” (Wonderful Love for Wonderful People) เปิดการเรียนการสอนสำหรับเด็กออทิสติกฟรี ตั้งแต่ ระดับประถมศึกษา ถึง มัธยมต้น ด้วยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย นำโดย ICSN ร่วมกับ UNPKFC และ NCA จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กออทิสติก เพิ่มโอกาสเด็กออทิสติกแบบบูรณาการ โดยมีจุดประสงค์: เสริมสร้างพัฒนาการเด็กออทิสติก ด้านอารมณ์ รู้จักรอคอย อดกลั้น ความคิดสร้างสรรค์ และ เตรียมความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพเด็ก โดยผ่าน Art therapy (ศิลปะบำบัด), Music therapy(ดนตรีบำบัด) และ Sensory integration (บูรณาการด้านประสาทสัมผัส) โดยความคาดหวังเพื่อให้เด็กมีความสุข สามารถควบคุมอารมณ์ มีความรับผิดชอบ พึงพาตนเองได้และ เป็นที่ยอมรับของสังคม

ซึ่งผู้เข้าร่วมพิธีลงนามในครั้งนี้ นำโดย คุณสหัส เอกตระกูล และคุณสุรางค์ เอกตระกูล ผู้บริหาร ICSN (International Christian School Nonthaburi ) ผู้คิดริเริ่มโครงการ ร่วมกับ คุณปัญญา เอกตระกูล Nonthaburi Christian Academy (NCA) ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ และ ดร.อภินิตา ไชยชนะ ประธาน UNPKFC (United Peace Keepers Federal Council) ผู้ร่วมก่อตั้งและบริหารโครงการด้านกลยุทธ์ ซึ่งจะเป็นผู้สนับสนุนหลักโครงการ ทั้งนี้ยังมี นายศรพงศ์ศักดิ์ สุวรรณปรุง ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการฯ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ,นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำ (คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนหน่วยงานราชการและสักขีพยาน ,ทนายรัชพล ศิริสาคร,ทนายที่ปรึกษาโครงการฯ และกลุ่มผู้ร่วมสนับสนุนโครงการ เช่น มูลนิธิเปี่ยมพระคุณ,Peeraney Furniture Industry , Jintamusic ,Flat Five Inter Media Co.,Ltd , Mind Pixels Co.,Ltd. ,Katyusha Russian Dance Academy

รายละเอียดและเงื่อนไข สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1.ข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก (เพื่อรู้จักเด็กเป็นรายละบุคคล และช่วยกันปรับตัวสร้างความเข้าใจระหว่างครูผู้ฝึกสอนและนักเรียน)
2.เด็กนำอุปกรณ์เครื่องเขียน เช่น สี ดินสอ มาด้วยตัวเอง
3.ค่าลงทะเบียน คนละ 100 บาท (ฟรีค่าเล่าเรียน)
4.รับนักเรียนชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ภาคเรียนละไม่ต่ำกว่า 30 คน

การเริ่มต้นคอร์สที่ 1 ตามรายละเอียดดังนี้
วันเสาร์ ที่ 23 , 30 เมษายน 2565
วันเสาร์ ที่ 7,21,28 พฤษภาคม 2565
วันเสาร์ที่ 4 ,11,18 มิถุนายน 2565
เริ่มตามวันและเวลาดังกล่าว ตั้งแต่ 09.00 – 11.30 น.

ผู้รับผิดชอบโครงการ และวิทยากร โดยโรงเรียนนานาชาติสาธิตคริสเตียนนทบุรี ,โรงเรียนนนทบุรีคริสเตียนวิทยา และคณาจารย์อาสาสมัครจากหน่วยงานภาครัฐ,เอกชน และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งนี้ทางโครงการขอขอบคุณคณะศิลปินดาราและนักแสดงที่ให้ความร่วมมือกับโครงการเป็นอย่างดี โดย นายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด,นายรัฐ ริมธีรกุล ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ ,นายนรรัตน์ เชาวน์วิวัฒน์,นายกิติกรโพธิ์ปี ,คุณษา วรรณษา ทองวิเศษ ,คุณอาร์ท รณชัย ดังกล่าว

สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล พร้อมขับเคลื่อนองค์กรอย่างเต็มรูปแบบGRAND OPENING อย่างเป็นทางการ 26 มีนาคม 2565 ประกาศจุดยืน ต้องเป็นสื่อมวลชนดิจิทัลที่แท้จริง

สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล” พร้อมขับเคลื่อนองค์กรอย่างเต็มที่ GRAND OPENING อย่างเป็นทางการ 26 มีนาคม 2565 ประกาศจุดยืน ต้องเป็นสื่อมวลชนดิจิทัลที่แท้จริง เน้นย้ำ “ต้องแตกต่างอย่างมีคุณค่า” มุ่งนำเสนอหลากหลายกิจกรรม ดูแลสวัสดิการสมาชิกร่วมองค์กร และสนองตอบกลับสังคมรูปแบบใหม่ในยุค NEW NORMAL

นายกิตติพันธ์ ขันติศีลชัย นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล ได้กล่าวถึงความเป็นมาของสมาคมฯ และปณิธานความตั้งใจในการรังสรรค์สมาคมฯนี้ขึ้นมาว่า หลังจากที่ทุกฝ่ายร่วมผลักดันให้องค์กรอิสระ เพื่อสมานสามัคคีสร้างสรรค์ผลงานคืนกลับสู่สังคม และดูแลเหล่าสมาชิกร่วมองค์กร ทั้งสื่อหลัก และสื่อออนไลน์ อย่างพอมีพอกินและพอเพียงได้บังเกิดขึ้น การขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายที่ทุกฝ่ายวางไว้ ก็เดินหน้าไปตามกำหนด

จากวันที่ได้ประกาศตัวด้วยการเป็น “ชมรมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล” เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา นั่นคือขั้นต้นของการก้าวมาถึง วันที่ 26 มีนาคม 2565 อันเป็นวาระสำคัญของวงการสื่อสารมวลชนของไทย ที่ “สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล” ได้ก่อเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีปณิธานอันแรงกล้าและมุ่งมั่นที่จะทำให้ ปรากฏการณ์ “ความแตกต่างอย่างมีคุณค่า” ได้เกิดขึ้นกับวงการสื่อสารมวลชนของไทยดังนี้

  1. “แตกต่างอย่างมีคุณค่า” ในแง่ของความหลากหลายของกิจกรรม ที่จะนำเสนอ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับมวลเหล่าสมาชิกสมาคมทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่จะสนองตอบความเป็น “สื่อมวลชนดิจิทัล” อย่างแท้จริง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    1. “แตกต่างอย่างมีคุณค่า” ในการนำเสนอผลงาน “คืนสู่สังคม” รูปแบบใหม่ ที่มุ่งสร้างสรรค์ทิศทางใหม่ สำหรับการคืนสู่สังคมในยุค New Normal
      ในวาระเริ่มต้นของสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัลนี้ ฯพณฯ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบหมายให้ ฯพณฯ นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาเป็นประธานเปิดงาน โดยได้กล่าวสุนทรพจน์ และให้กำลังใจกับสมาคมว่า
      สังคมประชาธิปไตยในอุดมคติ ซึ่งพร้อมเปิดโอกาสให้ ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกแนวความคิด มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น แสดงการเรียกร้องเพื่อสิทธิ เสรีภาพ “อย่างมีขอบเขตที่ควรจะเป็น” นั้น นอกจากต้องประกอบด้วย รัฐบาลที่มี “คุณธรรม” กลุ่มคน หรือประชาชนที่มี “วุฒิภาวะ” รู้จักตัวตน รู้จักรับผิดชอบ ต่อปฏิกิริยาที่ได้เรียกร้องไปนั้นแล้ว
      ยังจะต้องประกอบด้วย
    2. องค์ประกอบประการสำคัญหนึ่งที่จะเป็นเหมือน “คนกลาง” ที่จะสื่อข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน ไปสู่สาธารณะอย่าง “ไม่เอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” นั่นคือ “สื่อสารมวลชน” ที่มีคุณภาพ และคุณธรรมนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สังคมไทยที่กำลังเผชิญกับการแปรเปลี่ยนและปฏิรูปทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม อยู่ตลอดเวลานี้ บทบาทสื่อมวลชน รวมถึง “ช่างภาพ” ที่สามารถสื่อภาพความเคลื่อนไหวไปสู่สาธารณะ ได้อย่างรวดเร็ว อย่างมีคุณภาพ และมีความรับผิดชอบนั้น
    3. ถือว่าเป็นความจำเป็นประการหนึ่งของสังคมไทย ที่จะสร้างความสมดุลระหว่างภาครัฐ และองคาพยพฝ่ายต่างๆ ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุข

เลเจนด์ สยาม พัทยา ปรับโฉมใหม่ สู่เมืองท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์“เที่ยวสนุก เสริมสมอง ท่องตะลุยไร่กัญชา”เมษาฮาเฮ ทุ่มจัดคอนเสิร์ตเปิดมิติใหม่ “เมืองต้นไม้มหัศจรรย์” พืชสีเขียวแห่งอารยะสยาม

เลเจนด์ สยาม พัทยา ปรับโฉมใหม่ สู่เมืองท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์
“เที่ยวสนุก เสริมสมอง ท่องตะลุยไร่กัญชา”
เมษาฮาเฮ ทุ่มจัดคอนเสิร์ตเปิดมิติใหม่ “เมืองต้นไม้มหัศจรรย์” พืชสีเขียวแห่งอารยะสยาม

24 มีนาคม 2565 – เลเจนด์สยาม พัทยา ประกาศจัดกิจกรรมความสนุกสุดยิ่งใหญ่ตลอดเดือนเมษายน เดือนแห่งความสุขของคนไทย พร้อมปรับโฉมใหม่ เลเจนด์ สยาม พัทยา สู่เมืองท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ “เที่ยวสนุก เสริมสมอง ท่องตะลุยไร่กัญชา” ประกาศเปิดตัวเป็น “เมืองต้นไม้มหัศจรรย์ พืชสีเขียวแห่งอารยะสยาม” ดินแดนแห่งพืซมหัศจรรย์ กัญชง กัญชาที่มาเติมเต็มให้ เลเจนด์สยามฯสร้างตำนานใหม่ให้เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในภาคตะวันออกที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด

คุณศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหารบริษัท NUSA – CSR ผู้สร้างเลเจนด์สยาม พัทยา กล่าวว่า ”เนื่องจากโลกเรามีความเปลี่ยนแปลงทุกวัน โดยเฉพาะยิ่งมีสถานะการโควิด ระบาด มันก็เป็นตัวเร่งตัวหนึ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ที่โดนผลกระทบหนักที่สุดภาคส่วนหนึ่ง เราเลยคิดว่า เลเจนด์สยามแต่เดิม อยู่ด้วยการท่องเที่ยว จึงเจอผลกระทบหนักเช่นกัน เราจึงมีนโยบาย ปรับ เลเจนด์สยามพัทยาโฉมใหม่ ไม่ให้อิงเรื่องท่องเที่ยวอย่างเดียว และเรามองว่าตอนนี้เรื่องสุขภาพกำลังเป็น เทรนด์ที่มาแรงและเหมาะสมกับโลกยุคนี้มากๆ เลเจนด์สยาม จึงปรับโฉมไปสู่ “ดินแดนแห่งพืชมหัศจรรย์” นั่นก็คือ กัญชง กัญชา โดยที่นี่จะเป็นทั้งแหล่งวิจัย ปลูก และสกัดสาร CBD ที่จะนำไปใช้ทางการแพทย์ เลเจนด์สยาม นอกจากจะเต็มไปด้วยจุดท่องเที่ยวมากมาย ทั้งโซนงานวัด บ้านแม่นาค โซนรักดอกให้มาถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆ เรายังพร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเที่ยวชมแปลงกัญชาที่เราปลูกไปแล้วหลายไร่ ทั้ง Indoor และ Out door ชมพิพิธภัณฑ์กัญชา เข้ามาเพื่อศึกษาและชอปปิ้งผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีครบ เราเป็นตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ นอกจากนี้เรายังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของต้นกัญชาโดยที่ไม่ต้องปลูกเอง เราจึงทำโครงการ “ต้นไม้ทองคำ” เปิดให้มาร่วมลงทุนกับเราเพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมาย โดยผู้สนใจเข้าไปดูรายละเอียดและจองได้ที่ www.nusacsr.com และสำหรับ เลเจนด์สยาม โฉมใหม่นี้ เรามั่นใจว่า คุณจะได้ครบทุกสิ่งที่คุณต้องการ” คุณศิริญา กล่าว
เลเจนด์สยาม พัทยา ประกาศพร้อมเปิดตำนานการท่องเที่ยวอีกครั้ง ทุ่มงบจัดอีเวนท์สุดอลังการ เฉลิมฉลองสร้างสุขให้คนไทย หวังสร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายให้ภาคการท่องเที่ยว ในทุกวัน ศุกร์-เสาร์ ตลอดเดือนเมษายน ประกาศกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของเลเจนด์สยาม พัทยา พร้อมเดินหน้าจัดงานฉลองเมษา 2022 อย่างยิ่งใหญ่ ยกขบวนศิลปินชื่อดังมากมายประชันเปิดคอนเสิร์ต ด้วยโปรดักชั่นขนาดใหญ่ทั้งแสงสีเสียงแบบจัดเต็ม ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 อย่างเข้มงวด พร้อมระดมมหกรรมทุกความสนุก สุดอึ้ง สุดทึ่ง สุดเฟี้ยว สุดอร่อย มารวมไว้ใน เลเจนด์สยาม พัทยามากมาก เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์

สำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับการเดินทางไปชิลๆ ชิคๆ รับความคูลแบบสุดพิเศษในช่วงกลางปีเพื่อคลายร้อน ต้องไม่ควรพลาดกับ “มหัศจรรย์ FUN FEST” ที่ เลเจนด์ สยาม พัทยา ที่จัดยิ่งใหญ่อลังการกว่าทุกปี จัดเต็มความสนุกตลอดทั้งเดือนเมษายน พร้อมปรับเวลาการเข้าชม เลเจนด์ สยาม ใหม่ จากที่เคยเปิดตั้งแต่เวลา 10.30 - 19.30 น.ปรับช่วงเวลาเปิดเป็น 12.00 - 21.00 น. 

ซึ่งความพิเศษความสนุกของงานเปิด “เมืองต้นไม้มหัศจรรย์” ตลอดเดือนเมษายนนี้ท่านจะได้พบกับ
• ชมบอลลูนยักษ์ ลอยเด่นเต็มฟ้า
• ตื่นตากับว่าวถุงลมแฟนซี รูปปลาทะเล ขนาดยักษ์ ลอยวิบวับไปมาสวยงามสุดบรรยาย
• เที่ยวชมไร่กัญชา Out door และ In door มหัศจรรย์กับทุ่งสีเขียวขจีเต็มทุ่งแบบสุดฟิน
• ชมพิพิธภัณฑ์กัญชา ความมหัศจรรย์ที่คุณไม่คาดคิดว่าจะมีแบบนี้ในเมืองไทย
• ชมและแชะในโซน “รักดอก” ความมหัศจรรย์บนภาพถ่ายท่ามกลางดอกไม้นับพันที่คุณจะแชร์ได้อีกนานแสนนาน
• เที่ยวเล่นในโซนงานวัด ก่อกองทราย ฉลองเดือนแห่งความสุขในเทศกาลสงกรานต์
• ตื่นตะลึงกับความงามของสามการประกวด หนูน้อยสงกรานต์ / สาวงามสงกรานต์ (สาวประเภท 2 และ นางสงกรานต์
• ระทึกกับ “บ้านแม่นาค” ความน่ากลัว สุดระทึกที่ติดอันดับความน่ากลัว 1 ใน 5 ของเอเชีย
• ตะลุยชิม ชอป ชิล เอร็ดอร่อยกับ Food Truck และร้านอาหารที่เข็นเมนูกัญชามากมาย มาสร้างความสุขให้ลูกค้า
นอกจากนี้ เลเจนด์ สยาม ยังทุ่มงบขนศิลปินชื่อดังมากมายมาโชว์แบบจัดเต็มให้ดูกันแบบฟรีๆ!
ในเดือน เมษายน โดยอัดแน่นความสนุกทุกวันศุกร์-เสาร์ ที่มาในธีมสุดจี๊ด อาทิ
​มหัศจรรย์ล้านตลับ
วันที่ 1 เมษายน 2565 กบ แท็กซี่ / อี๊ด ฟลาย
วันที่ 2 เมษายน 2565 อมิตา ทาทา ยัง
มหัศจรรย์ลูกทุ่ง
วันที่ 11 เมษายน 2565 ใบเตย อาร์สยาม
วันที่ 12 เมษายน 2565 เป๊กกี้ ศรีธัญญา

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.033-073-333 หรือ FB : Legend Siam งานนี้ขอบอกเลยว่า ใครร้อน ใครล้า ใครมองหาความสนุก ตรงมาที่ เลเจนด์สยาม พัทยา มีครบทุกองศาความเพลิดเพลินที่คุณจะต้องจดจำไปอีกนาน

ไทยเฮิร์บ เปิดตำรับยากัญชา พร้อมร่วมงานประชุม กัญชาทางการแพทย์ ทั่วประเทศ

ไทยเฮิร์บ เปิดตำรับยากัญชา พร้อมร่วมงานประชุม กัญชาทางการแพทย์ ทั่วประเทศ

บริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด (ไทยเฮิร์บ) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาจาก ตำรับยากัญชา “ศุขไสยาศน์” และ “แก้ลมแก้เส้น” ร่วมเดินสายออกบูธกับกระทรวงสาธารณสุข ในงานประชุมวิชาการ กัญชาทางการแพทย์ ทั้ง 12 เขตสุขภาพ ทั่วประเทศ ในระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม นี้

นายแพทย์ศิริชัย ลิ้มสกุล ผู้อำนวยการ บริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด (ไทยเฮิร์บ) บริษัทร่วมทุนขององค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันกัญชาได้รับการยอมรับในฐานะพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างจริงจัง ทั้งในแง่ของการออกกฎหมายสนับสนุน ปลดล็อกตำรับยากัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติด หรือแม้แต่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ไทยเฮิร์บ ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการนำสมุนไพรไทยมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม จึงได้เปิดตัว ตำรับยากัญชา “ศุขไสยาศน์” ซึ่งมีสรรพคุณ ช่วยให้นอนหลับ เจริญอาหาร และ “แก้ลมแก้เส้น” สำหรับบรรเทาอาการ ปวดตึงกล้ามเนื้อ ลดอาการมือเท้าชา อ่อนกำลัง ถือเป็นผลิตภัณฑ์นำร่องด้านกัญชา 2 ตัวแรกของ ไทยเฮิร์บ

“เพื่อเป็นการสร้างความรู้จักให้กับตำรับยากัญชา ศุขไสยาศน์ และ แก้ลมแก้เส้น ไทยเฮิร์บ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ กระทรวงสาธารณสุข ในการเดินสายประชาสัมพันธ์ ด้วยการออกบูธ ใน 12 เขตสุขภาพ หรือ 12 จังหวัดทั่วประเทศไทย ตลอดเดือนมีนาคม จนถึงเดือนพฤษภาคม ศกนี้ รวมระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยในแต่ละจังหวัดที่ไปจะออกบูธอยู่ 3 วันด้วยกัน และขอเชิญชวนผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์กัญชา มาดูสินค้าของ ไทยเฮิร์บ ได้ภายในงานนี้” นายแพทย์ศิริชัย กล่าว

ผู้สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiherbinfo.com , Facebook:Herbalshopthailand และLine:@Herbalshopthailand

 สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่ คุณนัทกานต์ ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ โทร. 098-703-4965 E-mail : pr@newsperfect.co.th

MMI Asia ประกาศความร่วมมือกับ AES (Asian Exhibition Services) จัดงาน ASEAN Ceramics 2022

MMI Asia ประกาศความร่วมมือกับ AES (Asian Exhibition Services) จัดงาน ASEAN Ceramics 2022

MMI Asia ประกาศความร่วมมือกับ AES (Asian Exhibition Services) จัดงาน ASEAN Ceramics 2022 วันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565 ณ.อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี เป็นนิทรรศการเครื่องจักร เทคโนโลยี และวัสดุชั้นนำระดับนานาชาติของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการผลิตเซรามิกขั้นสูง 3 วัน คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 100 รายและผู้เยี่ยมชม 4,000 รายจากทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ

มร.เดวิด เอ็ทคิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ AES (Asian Exhibition Services) ที่ปรึกษางานจัดแสดงสินค้า เปิดเผยว่าปีนี้ได้เตรียมจัดงาน ASEAN Ceramics 2022 มีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565 ที่อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี โดยได้ร่วมมือกับ MMI Asia ผู้จัดงาน Ceramitec ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเซรามิกชั้นนำของโลก เพื่อนำ ASEAN Ceramics ไปสู่ความเป็นเลิศระดับสากลในตลาดหลักสองแห่งของภูมิภาค ได้แก่ ไทยและเวียดนาม ด้วยความเชี่ยวชาญและการทำงานร่วมกันครั้งแรกของความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้กลายเป็นงานที่สำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการเพิ่มการมองเห็นผลิตภัณฑ์เซรามิกและเทคโนโลยีชั้นสูง
นิทรรศการและการประชุมจะยังคงสลับไปมาระหว่างไทยและเวียดนามทุกปี ในช่วง 3 วัน คาดว่าจะมีผู้แสดงสินค้ามากกว่า 100 รายและผู้เยี่ยมชม 4,000 รายจากทั่วโลก จากเกือบ 50 ประเทศ ประเทศที่ไปเยือนอันดับต้นๆ ได้แก่ จีน อินเดีย เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ผู้เข้าชมต่างประเทศ5อันดับแรก อาเซียน 82.4% เอเชีย 10.2% ยุโรป4.0 % อื่นๆ 1.6%
การร่วมงานนิทรรศการในครั้งนี้ จะแบ่งปันผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของตน ตั้งแต่เซรามิก คลาสสิกไปจนถึงเซรามิกอุตสาหกรรม วิศวะกรรมเซรามิก ไปจนถึงเซรามิกเชิงเทคนิค และโลหะผง งานนี้จะมอบการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในอาเซียนสำหรับผู้เข้าร่วมทั่วโลก ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของ Messe München ผ่านเครือข่าย Ceramitec (มิวนิค) และ Indian Ceramics Asia
นอกจากงานนิทรรศการแล้ว ยังมีการประชุมเป็นเวลา 3 โดยวิทยากรที่มีชื่อเสียงในหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่การวิจัยใหม่ไปจนถึงแนวโน้มนวัตกรรมระดับโลกและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซรามิก ของโลก การประชุมมุ่งที่จะผสมผสานความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเซรามิกในปัจจุบันและที่กำลังพัฒนา การวิเคราะห์ และการออกแบบผลิตภัณฑ์ และการประชุมเต็มระดับสูงที่กระตุ้นความคิดอย่างเข้มข้น เราจะมุ่งเน้นที่ความยั่งยืน การเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในเซรามิกส์
การผลิตแบตเตอรี่เซรามิกขั้นสูง การพิมพ์ 3 มิติ ความทนทาน พลังงานสีเขียว การประหยัดพลังงาน การแปลงเป็นดิจิทัล และการวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และอื่นๆ
มร.ไมเคิล วิลตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ มิวนิค จำกัด โดย บริษัท เอ็มเอ็มไอ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า งานASEAN Ceramics 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้น จะส่งเสริมความรู้ ความร่วมมือ และการเติบโตในอุตสาหกรรมผ่านการแลกเปลี่ยนความคิด ส่งเสริมความสัมพันธ์ นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นใหม่ๆ และการเปิดตลาดต่อไป
สำหรับบริษัท เมสเช่ มิวนิค ซึ่งบริหารงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยบริษัท เอ็ม เอ็ม ไอ เอเซีย จำกัด (MMI) ผนึกกำลังกับ บริษัท เอเซีย เอ็กซิบิทชั่น เซอริวิสเซส (AES) จำกัด เพื่อยกระดับงานแสดงสินค้าและการประชุมอาเซียน เซรามิกส์ สู่ความเป็นเลิศในระดับนานาชาติ
เมสเซ่ มิวนิค มีจุดแข็งในเรื่องเครือข่ายของงานเซรามิเทค (ceramitec) ซึ่งจัดแสดงในเมืองมิวนิค และงานอินเดียน เซรามิกส์ เอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ซัพพลายเออร์ขั้นนำระดับโลกเข้าถึงผู้ซื้อรายสำคัญในพื้นที่ “ฮอตสปอต” ด้านการผลิตในตลาดอาเซียนที่มีการเติบโตที่เข็มแข็ง

โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส (AES) จำกัดในการเชื่อมโยงงานระดับโลกมาจัดที่ภูมิภาคที่มีความสำคัญด้านเซรามิกมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส (AES) จำกัด มีบทบาทในการเป็นที่ปรึกษาให้กับเอ็ม เอ็ม ไอ เอเชีย (MMI) ในการจัดงานครั้งนี้ อย่างครบวงจร และพร้อมให้การสนับสนุนด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวขาญกับตลาดแถบอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับงาน ASEAN Ceramics 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้น 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565 นี้ เชิญชวนผู้ประกอบการร่วมงานสามารถเข้าชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของงานอาเซียน เซรามิก ประเทศไทยได้ที่เว็บไซต์ www.aseanceramics.com
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ

  1. ASEAN Ceramics: www.aseanceramics.com
  2. MMI Asia Pte Ltd: www.mmiasia.com
  3. เซรามิเทค: www.ceramitec.com
  4. Indian Ceramics Asia: www.indian-ceramics.com

ประนีประนอม “บัวขาว” ทีมทนายสองฝ่ายเจรจาสุดชื่นมื่นจบสวย เพื่อประโยชน์ลูกสาวเป็นหลัก

ประนีประนอม “บัวขาว” ทีมทนายสองฝ่ายเจรจาสุดชื่นมื่นจบสวย เพื่อประโยชน์ลูกสาวเป็นหลัก
…….

เมี่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ที่ศาลเยาชน และครอบครัวกลาง กรุงเทพมหานคร “เก๋” อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ ภรรยานอกสมรสของ สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว” บัญชาเมฆ ยอดนักมวยชื่อก้องโลก พร้อมทีมนายความทั้งสองฝ่าย ได้เดินทางมายังศาลเพื่อนไกล่เกลี่ยเจรจาหาทางออกในคดีความที่ผ่านมา โดย ก่อนหน้านี้มีการฟ้องร้องให้รับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดู

สำหรับการเจรจาในวันนี้สรุปจบลงด้วยดี คือครอบครัวหันหน้ามาปรองดองกันเพื่อบุตร โดยความขัดแย้งที่ผ่านมาจบลงสวยงาม ซึ่งบรรยากาศการเจรจาต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย คุยกันด้วยเหตุผล โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็มุ่งเน้นเรื่องร่วมกันดูแลบุตรสาวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเรื่องการศึกษา การอุปการะเลี้ยงดู เพื่อประโยชน์สูงสุดของบุตรสาว

ที้งนี้ คุณอัญวีย์ หรือ “เก๋” จะไปดำเนินการถอนแจ้งความร้องทุกข์คดีหมิ่นประมาทผู้จัดการบัวขาวและพี่สาวคุณบัวขาวในวันที่ 23 มีนาคม 2565 ที่ สน. โชคชัย โดยจะถอนแจ้งความร้องทุกข์ทุกคดี

การเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งนี้ มีทีมทนายทั้งสองฝ่ายที่ร่วมกันดูแลและร่วมกันเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ นำโดยทนายธีรธร มรกตจินดา ทนายสันติวัสถ์ สังข์วรรณะ, ทนายรุ่งเรือง รัสมี และทนายที่ปรึกษากนกอร สวัสดิ์รัมย์ ที่เจรจากันด้วยมิตรภาพและไมตรี ตั้งแต่เวลา 13.30น. จนกระทั้งร่างสัญญาประนีประนอมยอมความเสร็จสิ้นเวลา 17. 00 น.

 งานนี้จบลงเพราะ  ถ้านักกฎหมายยึดมั่นในความยุติธรรม มีเมตตาธรรม ใช้กฎหมายเพื่อความสุขสงบร่มเย็นของสังคมอย่างแท้จริง  นั่นคือนักกฎหมายตัวจริง  ซึ่งได้ตระหนักรู้ถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกฎหมาย

Wow…Wow บัตรบุฟเฟต์สุดคุ้มเพียง 999 บาท “10 แถม 1”

Wow…Wow บัตรบุฟเฟต์สุดคุ้มเพียง 999 บาท “10 แถม 1”

กลับมาแล้วกับบัตรบุฟเฟต์สุดคุ้มที่ทุกท่านรอคอย รับซัมเมอร์ จัดเต็มกับความอร่อยมื้อเย็นของบุฟเฟต์อาหารนานาชาติอย่างคุ้มค่า ทั้งซูชิพรีเมียม ฟัวกราส์ วากิว เทมปุระ ของห้องอาหารญี่ปุ่นไดอิจิ ซีฟู้ดออนไอซ์และแบบนึ่งร้อนทั้ง หอยนางรม กั้งกระดาน หอยหวาน กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ฯลฯ ข้าวต้มปลากะพง ขาหมูชื่อดังของดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ รวมของหวานทั้งไทย-เทศ เช่น เบเกอรี่ ช็อคโกแลตฟองดูว์ บิงซู ผลไม้ตามฤดูกาล และเครื่องดื่ม เพียงใบละ 999 บาทถ้วนเท่านั้น (ราคาปกติ 1,400 บาท)

พิเศษสุด “ซื้อ 10 แถม 1” บัตรใช้ได้ทุกวันจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565

       โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านอนามัยอย่างสูงสุด  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2276-4567 และ Line : @theemeraldhotel

เมาไม่ขับรวมพลังเครื่อข่ายเหยื่อเมาแล้วขับลดปัจจัยเสี่ยงโควิด 19

เมาไม่ขับรวมพลังเครื่อข่ายเหยื่อเมาแล้วขับลดปัจจัยเสี่ยงโควิด 19



เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องเจ้าพระยาเทอเรซ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัวจัดโครงการอบรมรวมพลังเครื่อข่ายเหยื่อเมาแล้วขับลดปัจจัยเสี่ยงโควิด 19ให้กับเครือข่ายผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปถ่ายทอดให้กับชุมชนที่อาศัยอยู่ โดยได้เชิญวิทยากรประกอบด้วย นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค, นางสาวธาริณี ปานเขียว ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร  บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด,  นายอดิศักดิ์ ศรธนะรัตน์  อธิบดีศาลล้มละลายกลาง บรรยายพิเศษ กฎหมายจราจรอดีต ปัจจุบัน อนาคต

บรรยายพิเศษมองผ่านคนรุ่นใหม่อุบัติเหตุบนท้องถนน อะไรคือปัญหาโดย
พชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย

บรรยายพิเศษ CPR เรื่องที่คนไทยต้องรู้โดยทีมงานมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง และสถานะประเทศไทยด้านความปลอดภัยทางถนนในสายตาองค์การอนามัยโลกโดยว่าที่ร้อยตรีธนาศักดิ์ วิวัฒน์นิรันดร นอกจากนั้นทางมูลนิธิจราจร โดยพล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล อดีตรองผบช.น.ประธานมูลนิธิ ได้ส่งเจ้าหน้าที่อาสาจราจรมาช่วยบำเพ็ญประโยชน์ ทั้งนี้มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว หวังว่าการอบรมในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดการเสริมสร้างชีวิตวิถีไทยในยุคแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า(โควิด 19) ให้ปลอดอุบัติเหตุ และไวร้สโควิด 19 ไปพร้อม ๆกัน

องคมนตรี เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ ศาลาการเปรียญ วัดโคธารามตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

องคมนตรี เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ ศาลาการเปรียญ วัดโคธาราม
ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

วันอาทิตย์ ที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2565 เวลา 14.09 น.พระปลัดชาตรี สิริมังคโล เลขานุการเจ้าคณะตำบลคลองด่านเขต 2เจ้าอาวาสวัดโคธาราม ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อจังหวัดสมุทรปราการได้กำหนดพิธีวางศิลาฤกษ์ ศาลาการเปรียญ วัดโคธารามตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคม และได้รับเกียรติจากท่านพลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี มาเป็นประธานในงานวางศิลาฤกษ์ วัดโคธาราม และได้รับเมตตาหลวงพ่อ พระครูสังวรวิมลกิจเจ้าคณะตำบลคลองด่านเขต 2 เจ้าอาวาสวัดแจ่มราษฎร์ศรัทธาธรรม(สีล้ง) เปป็นที่ปรึกษาและช่วยจัดสถานที่ภายในวัดโคธารามโดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชจังหวัดสมุทรปราการกล่าวต้อนรับท่านพลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี

พระปลัดชาตรี สิริมงฺคโล เจ้าอาวาสวัดโคธาราม เข้าถวายสักการะ และท่านพลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาส เข้าถวายสักการะ
พร้อมเครื่องไทย พร้อมจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานฝ่ายสงฆ์นำกล่าวบูชาพระรัตนตรัย/อาราธนาศีล
จากนั้นเจ้าภาพทั้ง 49 เจ้าภาพ พุทธศาสนิกชน และประชาชนชาววัดโคธาราม พร้อมกัน ณ บริเวณแท่นวางศิลาฤกษ์ ประธานในพิธีเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ ไม้มงคล แผ่นอิฐทอง-อิฐนาค-อิฐเงินวางแผ่นอิฐทอง – อิฐนาค – อิฐเงิน บนไม้มงคลจนครบ 9 ก้อน วางนพรัตน์บน อิฐทอง – อิฐนาค – อิฐเงิน เจ้าภาพทั้ง 49 เจ้าภาพ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมตอกไม้มงคลพร้อมกับประธานในพิธี ประธานฝ่ายสงฆ์ ประธานฝ่ายฆราวาส โปรยข้าวตอกดอกไม้ ประธานฝ่ายสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานลั่นฆ้องชัย
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้แทน มอบของที่ระลึก ท่านพลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาส

  • นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอบางบ่อมอบของระลึก นายวันชัย คงเกษม ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ
  • กำนันอำนาจ แก้วนุช กำนันตำบลบางเพรียงมอบของระลึก นายวัฒนา เจริญจิตร นายอำเภอบางบ่อ
  • สจ.วะสัน บรรเจิดศิลป์มอบของระลึก นางนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
  • นายประทีป ใจดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางเพรียง
    มอบของที่ระลึก นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ
    พระปลัดชาตรี สิริมงฺคโล วงศ์ศิริกล่าวว่า วัดโคธาราม ตั้งอยู่เลขที่ 18หมู่ที่ 3 บ้านคลองบางเหี้ย ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันตั้งอยู่บนเนื้อที่ ที่มีเอกสารสิทธิ์ 32 ไร่
    45 ตารางวา จากหลักฐานเดิมตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2300 ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้ง แรก เมื่อวันที่
    10 เมษายน 2339 เดิมประชาชนเรียกว่า “วัดบางเหี้ยใน”
    ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 เดือน ธันวาคม 2554
    ที่ตั้งวัด เป็นที่ราบลุ่มประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม การบริหาร และ การปกครองมีเจ้าอาวาส 9 รูป รูปที่ 9 พระปลัดชาตรี สิริมังคโล พ.ศ. 2562-ถึงปัจจุบัน ปัจจุบันมีพระภิกษุ 17 รูป
    สำหรับการดำเนินงานการก่อสร้างอาคาร คสล. ชั้นเดียว วัดโคธาราม ดังนี้ วัดก่อสร้าง จำนวน 1 หลัง มีความกว้าง 35 เมตร ยาว 52.9 เมตร จำนวนเงินก่อสร้างตัวอาคาร คสล. ชั้นเดียว (สามสิบเจ็ดล้านบาทถ้วน) กำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2569 จำนวน 4 ปี
    การดำเนินการในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงคณะกรรมการวัดโคธารามและผู้มีอุปการคุณแด่วัดทุกๆท่านที่ให้การสนับสนุนและเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาวัดแห่งนี้เป็นอย่างดีท่านใดประสงค์จะร่วมบุญสร้างศาลาการเปรียญ สามารถโอนผ่านบัญชีธนาคาร ธกส. ของวัดโคธาราม เลขที่บัญชี 011802137558 ชื่อ บัญชี วัดโคธาราม หรือสอบถามที่เบอร์โทรศัพท์ 094-7710517 เจ้าอาวาสวัดโคธาราม