“สุชาติ” ทำบุญวันเกิด “พรรครวมไทยรักชาติ” แบบเรียบง่าย !!

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65  “พรรครวมไทยรักชาติ” ได้จัดงานทำบุญครบรอบการก่อตั้งพรรคปีที่ 1 โดยในเวลา 10.00น.ได้มีพิธีทางศาสนาพุทธ โดยมีบรรดาแกนนำพรรคอาทิ หัวหน้าพรรคฯ,นายสุชาติ บรรดาศักดิ์, นายธินิค คัมมิ้น เลขาธิการพรรค,คุณณัฐธัญรดี ปรีณาภาชัยสิริ โฆษกพรรครวมไทยรักชาติ ผู้สมัคร สส. เขต 5 ศรีราชา ชลบุรี  และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ทั้งนี้มีแกนนำจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ทยอยเดินทางมานำกระเช้าดอกไม้มาอวยพร กรรมการบริหาร“พรรครวมไทยรักชาติ” กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ภายใต้มาตราการป้องกันควบคุมของ ศคบ. อย่างเคร่งครัด

พาณิชย์ 17 จังหวัดภาคเหนือ จัดเต็มหนุนผู้ประกอบการสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าอนาคต GI และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องภาคเหนือ บุกตลาดสร้างความเชื่อมั่นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ

 สำนักงานพาณิชย์จังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ กำหนดจัดงานแสดงสินค้า “มหกรรมสินค้า GI สินค้าอนาคต GI และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องภาคเหนือ และเจรจาธุรกิจการค้า” งาน GI NORTHERN MARKET ภายใต้โครงการส่งเสริมการตลาดและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟลติวัล เชียงใหม่ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ภายในงานพบกับ
• การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ จำนวน 50 ร้านค้า โดยกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าสิ่งบ่งชี้ภูมิศาสตร์ GI สินค้าอนาคต GI ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องภาคเหนือ สินค้าสร้างสรรค์และผลิตภัณฑ์เด่นของ 17 จังหวัดภาคเหนือ
• กิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่ กิจกรรมขายสินค้าราคาพิเศษ (นาทีทอง) กิจกรรมลุ้นรับของรางวัลพิเศษ กิจกรรมสาธิต และนำเสนอสินค้า และกิจกรรม Like & Share ภายในงานทุกวัน
• กิจกรรมการเจรจาธุรกิจการค้า เพื่อติดปีกธุรกิจสินค้าและผลิตภัณฑ์ 17 จังหวัดภาคเหนือ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ประกอบไปด้วย ผู้ซื้อ(Buyers) กับผู้ขาย(Sellers) (ผู้ประกอบการ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่เข้าร่วมโครงการ) จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ราย
• กิจกรรมการแสดงดนตรีสด จากศิลปิน นักร้อง นักแสดง ที่มีชื่อเสียงในวงการ อาทิ ปอ อรรณพ AF7, สงกรานต์ เดอะวอยซ์, ตูมตาม ยุทธนา, แซค ชุมแพ, หญิงลี ศรีจุมพล
• การจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Online สอดคล้องกับการค้าในยุคดิจิทัล รวมถึงการไลฟ์สดช่วยให้ผู้ประกอบการ ได้มียอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น
โดยดำเนินการจัดแสดงแบบ New normal ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) อย่างเคร่งครัด 

‘แม่ปอง’ ร่วมบวงสรวง เปิดกล้องหนัง ‘หลวงพี่ดีเนาะ’

‘แม่ปอง’ ร่วมบวงสรวง เปิดกล้องหนัง ‘หลวงพี่ดีเนาะ’ พี่ตั๊ก อรุณศักดิ์ อ่องลออ ผู้กำกับฯ พร้อมทีมนักแสดงจากทั่วฟ้าเมืองไทย ฤกษ์ดี 27 มกราคม เวลา 09.09 น. ที่สนามมวยลุมพินี
บวงสรวงเป็นที่เรียบร้อยและเดินหน้าถ่ายทำเต็มที่สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “หลวงพี่ดีเนาะ” นำทีมโดย ผู้กำกับอินดี้ตลอดกาลตั๊ก อรุณศักดิ์ อ่องลออ , สิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ผู้อำนวยการสร้าง และประจักษ์ชัย ไหทองคำ โคโปรดิวเซอร์


รับประกันภาพยนตร์เรื่องนี้มีแต่ความฮาแถมให้สาระข้อคิดไปในตัว นำทีมนักแสดงโดยแม่ปอง หรือ สมปอง นครไธสง ที่ขึ้นแท่นพระเอกภาพยนตร์ครั้งแรก! พร้อมด้วย ทิดปอง สมปอง นครไธสง , อู๊ด เป็นต่อ , บอลล์ เชิญยิ้ม , ชูษี เชิญยิ้ม , นุ้ย เชิญยิ้ม , เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก , เอ็มมี่ แมกซิม , กานต์ วิภากานต์ ศุขพิมาย , ชนินทร จิตปรีดา , กานต์ ทศน , นวลละออง ดอนเสือ , มนชยา เซเคอร์ , สายเชีย แสงวิโรจน์ , อาฉี เสียงหล่อ พร้อมด้วยมิสแกรนด์เลย ชนากานต์ นาโสม , มิสแกรนด์บึงกาฬ สุมินตรา ชุดชนบท , มิสแกรนด์สกลนคร อรุณลักษณ์ โมทะนีชัยโชค และนักแสดงอีกมากมาย ซึ่งมีการถ่ายทำกันที่พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ

และภาพยนตร์เรื่อง “หลวงพี่ดีเนาะ” เป็นการถ่ายทำแบบ ONE CUT ไม่มีการตัดต่อ นับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการหนังไทย และยังเป็นหนังวันคัทเรื่องแรกที่ยาวที่สุดของประเทศไทย พร้อมขึ้นแท่นหนังวันคัทอันดับ1 ของเอเชีย และของโลก
หลวงพี่ดีเนาะ เป็นเรื่องราวอลวน ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบภาคอีสาน หลวงพี่ท่านหนึ่ง ที่มองโลกในแง่ดี มีปัญหาอะไรๆก็พูดว่า ‘ดีเนาะ’ แถมคนในหมู่บ้านแต่ละคนยังพาให้อลเวง เล่าเรื่องด้วยการเน้นความสนุกสนาน เฮฮา แต่แฝงไปด้วยสาระและข้อคิด

งานนี้แฟนๆได้รับชมทุกโรงภาพยนตร์ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 วันเข้าพรรษานี้ฮาแน่นอน และติดตามทุกความเคลื่อนไหว เบื้องหลังความฮา ทุกเรื่องราวในภาพยนตร์หลวงพี่ดีเนาะ

ได้ที่ FB : One cut Monk หลวงพี่ดีเนาะ

วช. ร่วมประชุม Public Policy Forum

ประเด็น “อนาคตประเทศไทยใน 10 มิติ” ในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยในมิติเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการ :ประเด็นเพื่อพิจารณาสำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ครั้งที่ 4
​​

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ร่วมประชุมร่วมประชุม Public Policy Forum ประเด็น “อนาคตประเทศไทยใน 10 มิติ” ในหัวข้อ “อนาคตประเทศไทยในมิติเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการ:ประเด็นเพื่อพิจารณาสำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ครั้งที่ 4 ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็น 1 ในมิติสำคัญภายใต้โครงการประเทศไทยในอนาคต หรือ Future Thailand ซึ่งประกอบด้วยโครงการวิจัยย่อยทั้ง 10 มิติที่วช.ได้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยเชิงนโยบายแก่สถาบันคลังสมองของชาติเพื่อขับเคลื่อนให้ผลงานวิจัยถูกนำไปใช้ประโยชน์เป็นข้อมูลเชิงนโยบายประกอบการพิจารณาจัดทำร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
​​

สำหรับมิติอนาคตประเทศไทยในมิติเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการเป็นการดำเนินการวิจัยโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนทิศทางทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในการกำหนดนโยบายเพื่อนำไปใช้ในการขับเคลื่อนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยเฉพาะในภาคส่วนของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคบริการ โดยการขับเคลื่อนต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสังคม เทคโนโลยี เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและการเมือง เพื่อให้สามารถนำไปสู่การสร้างรูปแบบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการที่มีกำลังขับเคลื่อนและสามารถกำหนดอนาคตของเศรษฐกิจและการคลัง รวมถึงสามารถผลักดันให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้ นอกจากนี้ กลไกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ควรมุ่งเน้นก็คือการพัฒนาทักษะแรงงานที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ และการส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยดำเนินธุรกิจ เพราะการใช้เทคโนโลยีจะช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างเข็มแข็ง และช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาวะที่ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงวัย
​​

วช. มุ่งหวังว่าการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมในลักษณะของโครงการประเทศไทยในอนาคต มุ่งเน้นการวิจัยเพื่อให้ได้ผลสำเร็จเป็นการฉายภาพอนาคตในมิติเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ และอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการ จะสามารถนำผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างนวัตกรรมวิจัย นโยบายสาธารณะ และนโยบายทางสังคม รวมถึงขับเคลื่อน และผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์กับประเทศและประชาชน และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป

วิสาหกิจชุมชนฟอเรสฮิลล์ เขาค้อ โคกหนองนาโมเดล

นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอเขาค้อ/ผู้อำนวยการศูนย์ อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพขรบูรณ์
นางอัจฉรา คะสีทอง พัฒนาการอำเภอเขาค้อ
ดร.เอกพงษ์ ทรัพย์เมฆ นายกองค์การบริหารตำบลทุ่งสมอ
นางสาวลักขณา พรหมเศรณี เกษตรอำเภอเขาค้อ
นายเมธา คชาภิขาติ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จังหวัดเพขรบูรณ์
นายธงชัย กฤตยามงคลชัย นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอเขาค้อ
นายปกาศิต มาถึง กำนันตำบลทุ่งสมอ
ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และประชาชนจิตอาสา

ได้ทำกิจกรรมเอามื้อสามัคคีร่วมกันในโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์ สู่ โคกหนองนาโมเดล เช่นการทดลองปลูกข้าวไร่ในบอซีแมนต์ การปลูกพืชผัก ต่างๆตามริมบ่อน้ำ ในช่วงน้ำลด เลี้ยงปลาโดยวิธีให้อาหารจากฟางข้าว และมูลสัตว์(ทำแซนด์วิชอาหารปลา) เป็นต้น ทั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังพร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้และการพัฒนาเพื่อความสำเร็จยั่งยืนกับวิสาหกิจชุมชนฟอเรสฮิลล์ เขาค้อ ต่อไป ณ.ฟอเรส ฮิลล์ 1 ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพขรบูรณ์

ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่ คุณเมธาวี กลมแก้ว ประธานวิสาหกิจชุมชนฟอเรสฮิลล์ เขาค้อ
โทร 081-258-8524

ขอพรเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2565

สวัสดีปีใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพรชบูรณ์

สมาคมธุระกิจท่องเที่ยวเขาค้อ โดยนายธงชัย กฤตยามงคลชัย (ที่3 จากซ้าย)นายกสมาคม ฯพร้อมคณะกรรมการ และนายธนะโรจน์ อัครกิจชัยนนท์ (ที่2จากขวา) เลขานุการประจำคณะกรรมการการทหารสภาผู้แทนราษฎร เข้าพบ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพรชบูรณ์ ขอพรเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2565 นี้ ณ ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันก่อน

พิธีมอบทุนการศึกษา บุตร-ธิดา สมาชิกชมรมช่างภาพการเมือง ครั้งที่ 12

นายอลงกรณ์  พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานที่ปรึกษาชมรมช่างภาพการเมือง เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา บุตร-ธิดา สมาชิกชมรมช่างภาพการเมือง ครั้งที่ 12 ประจำปี 2565  โดยมีนายชัยยศ  ศิริสวัสดิ์ ประธานชมรมช่างภาพการเมืองและคณะกรรมการรับมอบ

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นสื่อมาก่อน  จึงให้ความสำคัญกับสื่อทุกสาขา  และเห็นความสำคัญของการศึกษา  โดยเฉพาะกับบุตรธิดาของสื่อมวลชน  การสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรธิดาสมาชิกสื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระ  นอกจากนี้ทางชมรมช่างภาพการเมืองยังได้จัดสรรเงินช่วยเหลือสมาชิกของชมรมฯและช่างภาพอาวุโสด้วย  ถือเป็นสิ่งที่ดีที้ไม่ทอดทิ้งกัน

นายชัยยศ  กล่าวว่า ชมรมช่างภาพการเมืองขอขอบพระคุณท่านอลงกรณ์และกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์เป็นอย่างสูงที่มอบทุนสนับสนุนการศึกษาของบุตรธิดาสมาชิกชมรมฯ   โดยทุนที่ได้รับมอบนี้นอกจากจะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้บุตรธิดาของสมาขิกชมรมฯแล้ว  ทางชมรมฯยังนำไปจัดเป็นสวัสดิการในด้านต่าง ๆ สำหรับสมาชิกฯ อาทิ ทุนรักษาพยาบาลกรณีได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่  รวมทั้งกรณีเสียชีวิต และทุนช่วยเหลือช่างภาพอาวุโส  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระด้านการเงินของสมาชิกฯ 

สำหรับในปี 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการชมรมช่างภาพการเมือง ได้มีมติให้มอบทุนการศึกษาด้วยการโอนเงินทุนเข้าบัญชีของสมาชิกฯ เพื่อให้ความสำคัญและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันตนเองและส่วนรวมอย่างเคร่งครัด ตามหลัก D-M-H-T-T  ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย ทุน 2 ประเภท ได้แก่

  1. ทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาสมาชิกชมรมฯ ทุนละ 3,000 บาท จำนวน 80 ทุน
  2. ทุนเอื้ออาทรแก่ช่างภาพ-ผู้สื่อข่าวอาวุโส ที่ประสบความเดือดร้อน ทุนละ 10,000 บาท จำนวน 6 ทุน 
    รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท ซึ่งเงินทุนการศึกษาในวันนี้เกิดจากการจัดแข่งขัน “โบว์ลิ่งการกุศลเพื่อการศึกษาบุตร-ธิดาช่างภาพการเมือง” ครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

“ในการนี้ กลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ โดยคุณอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเงินทุนการศึกษา จำนวน 400,000 บาท ให้กับชมรมช่างภาพการเมือง มาเป็นเวลา 12 ปี ติดต่อกัน ซึ่งรวมเป็นเงินหลายล้านบาท
ในนามของ ชมรมช่างภาพการเมือง ต้องขอขอบพระคุณในความรัก ความเมตตาที่ท่านอลงกรณ์ พลบุตร (พี่จ้อน) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ใหญ่ใจดีกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ทุกท่าน ที่มีต่อน้อง ๆ ช่างภาพสื่อมวลชนสายการเมืองด้วยดีมาตลอด 12 ปี “นายชัยยศกล่าวตอนท้าย

Immortals Thailand เปิดฉากศักราชใหม่ นำ 7 สุดยอดจิตรกรเอกของไทย และศิลปินอีกหลายท่าน ร่วม “เพาะงานศิลป์ถิ่นเฉียงเหนือ” ปลุกพลังเยาวชน “คนเพาะช่าง” หวังสร้างการรับรู้ทั่วโลก

Immortals Thailand เปิดฉากศักราชใหม่ นำ 7 สุดยอดจิตรกรเอกของไทย และศิลปินอีกหลายท่าน ร่วม “เพาะงานศิลป์ถิ่นเฉียงเหนือ” ปลุกพลังเยาวชน “คนเพาะช่าง” หวังสร้างการรับรู้ทั่วโลก

นายสันธยา โพธิ์เกตุ (ป๋าติ๊ด) ประธาน ชมรมอิมมอทอลไทยแลนด์ (Immortals Thailand) นำทัพ 7 สุดยอดจิตรกรระดับแถวหน้าของไทย นำโดย ผศ.นพดล เนตรดี อ.อภิชัย การิกาญจน์ อ.สุวัฒน์ บุศย์เมืองวิจารย์ อ.จักรพงษ์ แพทย์หลักฟ้า และ อ.สุเมธ สิงหวงศ์ มาสร้างสรรค์ผลงานบนเฟรมผ้าใบผืนใหญ่ร่วมกัน ภายใต้ Concept “ต้นไม้ สายน้ำ ลำตะคอง คือปากท้องชาวโคราช” ขับกล่อมด้วยเสียงดนตรี และบทกวีชั้นยอด ของ อ.สมยศ นาคสุข โดยมี นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ณ ร้านอาหารบลูมูน ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ภายในงาน นอกจากเฟรมผ้าใบผืนใหญ่ไฮไลค์ของ 7 ศิลปิน ที่ได้สร้างสรรค์ร่วมกันแล้ว ภาพวาด “กำแพงริมสวนสาธารณะเขาแคน” ฝีมือเยาวชนเพาะช่าง เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักในการสืบสานงานศิลป์ ของกลุ่มอิมมอทอลไทยแลนด์และแบล็คแองเจิล โดยได้มีการจัด workshop การเขียนสีน้ำ-สีอะคริลิค ให้กับนักศึกษาเพาะช่าง และ กลุ่ม Khao Yai Young Artists ก่อนลงปลายพู่กัน บันทึกประวัติศาสตร์บนกำแพงได้อย่างงดงาม

นับเป็นกิจกรรมเชิงวิชาการมิติใหม่ที่ยิ่งใหญ่ อีกหนึ่งก้าวสำคัญของป๋าติ๊ด และสมาชิกอิมมอทอลไทยแลนด์ ที่พร้อมขับเคลื่อนกิจกรรมสังคม ทั้งสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลในทุกมิติ ผ่านการบูรณการจากผู้ร่วมอุดมการณ์ทรงพลังอย่าง ดร.พิจักษณ์ เพชรสงค์ (เอี้ยงปู่ยีนส์) ที่ปรึกษากลุ่ม Immortals Thailand ที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย และประธานที่ปรึกษาสมาคมเยาวชนจิตอาสาพัฒนา ที่เชื่อมโยงมวลมิตรจิตอาสาหลากหลายอาชีพ รวมถึงเด็กและเยาวชน มาร่วมสืบสานงานศิลป์ให้เป็นมรดกของแผ่นดินในครั้งนี้ด้วย

30 ปี กับเส้นทางของกลุ่มบิ๊กไบค์-ฮาร์เลย์ ภายใต้ชื่อ Immortals Thailand ที่มีภาพลักษณ์เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมไทย ในด้านการจัดทริปคาราวานไปช่วยเหลือผู้ลำบากยากไร้ในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ จัดมอบสิ่งของ เครื่องใช้ ทะนุบำรุงวัด สร้างโรงเรียน ให้ทุนการศึกษา ฯลฯ ยังคงขับเคลื่อนต่อไปภายใต้ปณิธานอันแรงกล้าของป๋าติ๊ด ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ ที่มุ่งหวังสร้างการรับรู้ในวงกว้างสู่นานาอารยประเทศ โดยเฉพาะการปลูกฝังเด็กและเยาวชน ได้ตระหนักรู้ ถึงคุณค่าของ “วิจิตรศิลป์” ทุกแขนง บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรม มีศีลมีธรรม ผ่านกิจกรรมของชมรมอย่างต่อเนื่อง รุ่นสู่รุ่น ให้เป็น “อมตะ” สืบไป

ขอขอบคุณ ผู้ร่วมอุดมการณ์ : ศิลปินพลังบวก คณาจารย์ ศิษย์เก่า-ศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยเพาะช่าง สมาชิกอิมมอทอล BLUE MOON RESTHURANT NAY JOE RESORT เจเค็ง NPB น้ำเพชรบาดาล ฉัตรกมลการช่าง และเครือข่ายจิตอาสาทุกท่าน

พบกับมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง 27 กุมภาพันธ์นี้ ที่ปากช่อง มอบจักรยาน 200 คัน หมวกกันน็อค 400 ใบ และคุณค่าทางใจตลอดเส้นทางอีกมากมาย

ติดตามรายละเอียดได้ที่เพจ Immortals Thailand https://web.facebook.com/profile.php? id=100050535397410

11 องค์กรพันธมิตรลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับ โรคไข้เลือดออก Dengue-Zero เดินหน้าวางแผนงาน 5 ปี เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทย สู่สังคมปลอดไข้เลือดออก

กรุงเทพฯ 24 มกราคม 2565 – การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของระบบสาธารณสุข ชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งโรคที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้คือ ไข้เลือดออก โรคที่เกิดจากพาหะนำโรคอย่างยุงลาย ที่มีการระบาดในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทย ซึ่งการติดเชื้อไข้เลือดออกอาจทำให้อาการรุนแรงและหากมีอาการแทรกซ้อนอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ความรู้ ความเข้าใจในตัวโรคในภาคประชาชนและบุคลากรด้านสาธารณสุข และความตระหนักรู้ในการป้องกันโรค จะช่วยลดอุบัติการณ์เกิดโรค ความรุนแรงของโรค และการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้

ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา การระบาดของไข้เลือดออกในประเทศไทยนั้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนผู้คนกว่า 350,000 รายที่ต้องเจ็บป่วยจากโรคนี้ โดยในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 130,000 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่ากังวล และหากเป็นการระบาดร่วมกับโรคอื่น ๆ จะยิ่งนำพามาซึ่งภาระทั้งตัวผู้ป่วย ครอบครัว และระบบสาธารณสุขของประเทศ

ด้วยตระหนักถึงความรุนแรงหากเกิดการระบาดของไข้เลือดออกซึ่งมียุงเป็นพาหะ การส่งเสริมให้เกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับไข้เลือดออกที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน การพัฒนาและต่อยอดระบบการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมการระบาดและพาประเทศไทยเข้าสู่สังคมปลอดไข้เลือดออก จึงเป็นที่มาของความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายองค์กรภาครัฐและเอกชนจำนวน 11 องค์กร ได้แก่ แพทย์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  กรุงเทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย  สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมนักบริหารโรงพยาบาลแห่งประเทศไทย และบริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้บันทึกความเข้าใจ Dengue-Zero

ภายใต้กรอบการทำงานร่วมกันนี้ ได้ตั้งเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1) ลดอัตราการป่วยจากไข้เลือดออกลงให้ได้ร้อยละ 25 หรือให้ไม่เกิน 60,000 รายต่อปี 2) ลดอัตราการเสียชีวิตให้ต่ำกว่า 1:10,000 ราย 3) ควบคุมแหล่งลูกน้ำยุงลายในชุมชนให้ต่ำกว่า 5 หลังคาเรือน จากการสำรวจ 100 หลังคาเรือน โดยพันธกิจร่วมนี้จะต้องลุล่วงภายใต้กรอบการทำงานระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2569) ซึ่งองค์กรพันธมิตรดังกล่าวจะร่วมกันผลักดันให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไข้เลือดออกผนึกกำลังป้องกันและลดความเสี่ยงต่อไข้เลือดออก รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการป้องกันและควบคุมโรค ตลอดจนสนับสนุนนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการควบคุมไข้เลือดออก

ศ. เกียรติคุณ นพ. อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ไข้เลือดออกส่งผลกระทบทั้งต่อตัวผู้ป่วยและครอบครัว รวมทั้งสร้างภาระทางสังคมและเศรษฐกิจในระดับประเทศ การไม่สามารถเข้าถึงการรักษา ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกทำให้ไข้เลือดออกกลายมาเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขมากขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างความตระหนักในความสำคัญของการป้องกันและควบคุมโรคเป็นกุญแจสำคัญที่จะต่อสู้กับโรคนี้ โดยพันธมิตรทั้ง 11 องค์กรที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจนี้ จะร่วมมือกันทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยทั้งจากสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน จัดทำการคาดการณ์พื้นที่ความเสี่ยงสูง สื่อสารกับสังคมผ่านโซเชียลมีเดีย และพัฒนาโครงการให้ความรู้สำหรับอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการดูแลผู้ป่วย วัตถุประสงค์หลักของการดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้ คือ การเปิดให้ชุมชนมีส่วนร่วม และมีการดำเนินการอย่างมีกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน คือ การกำจัดไข้เลือดออกให้ได้อย่างเด็ดขาดและยั่งยืน”

มร. ปีเตอร์ สตรีบัล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไข้เลือดออกมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ในแต่ละปี มีประชากรทั่วโลกติดเชื้อ 390 ล้านคน โดยจำนวนผู้ป่วยกว่า 96 ล้านคนมีอาการป่วยอย่างรุนแรง[1] ในประเทศไทยเองพบว่าอัตราการติดเชื้อนั้นมีมาอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าโรคนี้ไม่เคยหายไปจากเรา และสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพยากรมากมาย จึงเป็นโอกาสที่พวกเราจะรวมพลังกันต่อสู้กับไข้เลือดออก การจะเอาชนะโรคนี้ได้นั้น ไม่สามารถทำได้ด้วยหน่วยงานหรือใครเพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการป้องกันและควบคุมไข้เลือดออก ทาเคดา มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจ Dengue-Zero นี้ โดยเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของทาเคดาในการมอบสุขภาพที่ดีกว่าให้แก่คนไทย และเราพร้อมสนับสนุนทุกความร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน”

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่ระบาดตลอดปี และพบการระบาดสูงสุดในช่วงฤดูฝน โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกีที่มียุงลายเป็นพาหะ เป็นแล้วเป็นซ้ำอีกได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสเดงกีมีถึง 4 สายพันธุ์ แหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่พบมากได้แก่ กระถางต้นไม้ จานรองกระถางต้นไม้ ท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นที่วางไข่ของยุงลาย ผู้ที่ติดเชื้อมักมีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดตา คลื่นไส้ อาเจียน และเกิดผื่นที่ผิวหนัง อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อาจจะมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ มีเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึมหรือกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น หากผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ควรได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที การรักษาเป็นแบบประคับประคองตามอาการ เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียารักษาจำเพาะ

ทนายสวยสายสุขภาพ. “ทนายฟาง” กนกอร สวัสดิ์รัมย์ ผจก.ฟุตบอลทนายพัทยา

ทนายสวยสายสุขภาพ. “ทนายฟาง” กนกอร สวัสดิ์รัมย์ ผจก.ฟุตบอลทนายพัทยา

แม้สถานการณ์ของไวรัสโอไมคอนจะยังคงต้องเฝ้าระวังกันอยู่ ทว่าเรื่องการออกกำลังกายและการใส่ใจในสุขภาพนั้นก็ยังต้องจำเป็น  วันนี้ ไปพบกับคนสวยซึ่งเป็นผู้หญิงแกร่ง-หญิงทำงาน ที่ใส่ใจในสุขภาพ  และรักการออกกำลังกายเป็นชีวิต

ทนายหัวใจกีฬา “ทนายฟาง” กนกอร สวัสดิ์รัมย์ แห่งชมรมวิ่งนาเกลือ พัทยา ยังคงขยันลงซ้อมต่อเนื่อง…ล่าสุด (23 ม.ค.2565) ยกทีมไปซ้อมที่เขาฉลากบางพระ…ฟิตร่างกายเตรียมไว้ลงรายการ Keza trail 20 กุมภาพันธ์ 2565 สำหรับ “ทนายฟาง” กนกอร สวัสดิ์รัมย์  นอกจากเป็นผู้หญิงทำงานที่ใส่ใจในเรื่องการดูแลสุขภาพแล้วก็ยังทำงานด้านสังคมไปพร้อมกัน อาทิ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทนายความแห่งเมือพัทยา เรียกได้ว่าแม้งานหลักที่สำนักงานทนายความจะหนักและเครียด ทว่าเธอก็ยังสามารถบริหารจัดการแบ่งเวลาได้อย่างลงตัว นี่ก็คือไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่อย่างแท้จริง.