ดีไซน์ล้ำ มศว.สร้างสรรค์ “เครื่องประดับเวียงโกศัย” จ.แพร่ เคลื่อนไหวได้

คว้ารางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ปี 2565 จาก วช.

นักวิจัย วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโวฒ สร้างสรรค์“ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์สานศิลป์เวียงโกศัยเครื่องประดับนวัตกรรมอัตลักษณ์ไทย” ชูเอกลักษณ์โดดเด่น 10 ตำบล ในจังหวัดแพร่ เสริมอาชีพรายได้ให้ชุมชน ด้านสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประกาศเกียรติคุณ ประจำปี 2565 ให้ ในงานวันนักประดิษฐ์ ระหว่างวันที่ 2-6 ก.พ.
ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

คณะนักวิจัย นำโดย ผศ.ดร.ดวงแข บุตรกลู วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า การออกแบบเครื่องประดับ โดยนำคุณค่า อัตลักษณ์ วิถีชีวิตที่งดงามของชุมชน มาสื่อสารสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องประดับอัญมณี ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ชาวบ้าน นวัตกร มีแนวคิดการสืบสานศิลป์เวียงโกศัย โดยนำแรงบันดาลใจมาจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ของ 10 ตำบล ในจังหวัดแพร่ ได้แก่ ตำบลช่อแฮ, ในเวียง, บ้านถิ่น, ทุ่งโฮ้ง, ทุ่งกวาว, น้ำชำ, สวนเขื่อน, บ้านปิน, ห้วยอ้อ และไทรย้อย โดยสร้างสรรค์ความร่วมสมัยจากการใช้นวัตกรรมออกแบบ

ให้เครื่องประดับมีลักษณะเคลื่อนไหวได้ เห็นมิติแบบใหม่ อาทิ วัดพระธาตุช่อแฮพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล, คุ้มวงศ์บุรี, คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่, ศิลปะพุกามรูปทรงวัดจอมสวรรค์, วิถีผ้าหม้อห้อมทุ่งโฮ้ง, วนอุทยานแพะเมืองผี, ลางสาดหวานและสาหร่ายเตา, ตำนานแพร่แห่เบิดบ้านปิน, ผ้าลายดอกผักแว่น และอัญมณีไพลินสีเงินเข้มไทรย้อย เป็นต้น

ผศ.ดร.ดวงแข เล่าอีกว่า ได้ต่อยอดร่วมกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว การจำหน่ายเครื่องประดับ ของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ชุมชน ด้วยนวัตกรรมวัสดุคอมโพสิตกลาสเซรามิก ทำมาจากผงเศษแก้วและผงพลอยไพลินละเอียดอัดขึ้นรูปด้วยความร้อน ความดันในสภาวะสุญญากาศ ให้กลายเป็นอัญมณีน้ำงาม เป็นเครื่องประดับสิริมงคล เพิ่มมูลค่าจากเครื่องเงินในชุมชนที่มีอยู่เดิม นับเป็นการยกระดับให้ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับชุมชน กระตุ้นความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระดับชุมชน เกิดของที่ระลึกที่มีลักษณะแปลกใหม่ โดยมีการผลิตต้นแบบในโรงงานแล้ว ผ่านการทดลองตลาด ปรับปรุงและพัฒนาให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ โดยผลงานได้รับการจดสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร/ลิขสิทธิ์ แล้ว 79 ชิ้นงาน และจัดจำหน่าย อยู่ที่วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองเเพร่ จังหวัดแพร่ พร้อมส่งเสริมการขายในรูปแบบดิจิทัลให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย จีน และต่างประเทศอีกด้วย เนื่องจากการบริหารจัดการที่ง่ายและสะดวก เหมาะกับสภาวะปัจจุบันโดยเฉพาะช่วงการระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ผลงาน“ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์สานศิลป์เวียงโกศัยเครื่องประดับนวัตกรรมอัตลักษณ์ไทย”ยังได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับรางวัลประกาศเกียรติคุณ จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) อีกด้วย โดยผู้สนใจที่สามารถเยี่ยมชมผลงานได้ ภายในงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2564 – 2565 ระหว่างวันที่ 2- 6 กุมภาพันธ์ 2565 ณ
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

วาเลนไทน์ปีนี้ชวนคนรักมาดื่มด่ำบรรยากาศค่ำคืนที่ “ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ”

วาเลนไทน์ปีนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2565) ชวนคนรักมาดื่มด่ำบรรยากาศค่ำคืนที่แสนโรแมนติก เก็บความประทับใจด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่ ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ คัดสรรเมนูและตกแต่งเป็นพิเศษด้วยบุฟเฟต์นานาชาติ รวมซูชิพรีเมียมและซีฟู้ด เพียงท่านละ 999 บาทถ้วน

หรือจองพร้อมห้องพักซูพีเรียสุดเก๋เพื่อความสะดวก พร้อมอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น สำหรับ 2 ท่าน เพียง 3,999 บาทเท่านั้น (พิเศษ!! 5 คู่แรกที่จองจะได้รับการอัพเกรดห้องพักเป็น Executive Suite)

โปรโมชั่นพิเศษ!! ทุกคู่รักที่จองฉลองวาเลนไทน์ ภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จะได้รับอภินันทนาการ “ช็อคโกแลตมูสสตรอเบอร์รี่” สีสวยหวาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองล่วงหน้าได้ที่โทร. 0-2276-4567 ไลน์ @theemeraldhotel และ www.facebook.com/theemeraldcoffeeshop

วช.หนุนนักวิจัย มทร.อีสานพัฒนาเตียงผู้ป่วยติดเตียง – สูงวัยสู้แผลกดทับสู่อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์

รศ.ดร.ศักดิ์ระวี ระวีกุล นักวิจัยสาขาวิศกรรมไฟฟ้า ด้านระบบควบคุมไฟฟ้าและ นวัตกรรมการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น เปิดเผยว่า ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เรื่อง “การพัฒนาต่อยอดระบบ software smart bed ควบคุมเตียงพลิกตะแคงและเบาะเจลยางพาราป้องกันแผลกดทับ Doctor N Medigel เพื่อให้ได้มาตรฐานเครื่องมือแพทย์ระดับสากล สำหรับใช้งานในหอผู้ป่วยวิกฤตโควิด-19” ซึ่งเตียงผู้ป่วยติดเตียงผู้สูงวัยที่ต้องนอนเตียงเป็นเวลานาน ๆ เกิดผลข้างเคียงอันเนื่องจากผิวหนังถูกกดทับเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง บริเวณที่ถูกกดทับ มีการตายของเนื้อเยื่อซึ่งแรงกดมากกว่า 20 มิลลิเมตรปรอท เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ถึง 4 ชั่วโมง ทำให้มีปัจจัยต่อการเกิดแผลกดทับ การเกิดแผลกดทับจะส่งผลให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมาน และส่งผลกระทบต่อทางด้านจิตใจของผู้ป่วยด้วย ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะวิจัยพัฒนาต่อยอดงานวิจัยนี้ เป็นทางเลือกให้กับภาคอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์ในประเทศได้พัฒนาขยายโอกาสทางธุรกิจเพิ่มช่องทางการแข่งขันทางการตลาดให้หลากหลาย

และลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลป้องกันการเกิดแผลกดทับในผู้สูงวัยและผู้ป่วยติดเตียง ร่วมถึงปัญหาการระบาดของโควิด -19 ซึ่งในจำนวนที่เกิดการระบาดนี้จะมีผู้ป่วยปอดอักเสบที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและการช่วยหายใจในท่าคว่ำจึงจะช่วยให้สามารถคงค่าออกซิเจนในเลือดของผู้ป่วยได้ ซึ่งการจะพลิกคว่ำเปลี่ยนท่าผู้ป่วยเหล่านี้จะต้องใช้พยาบาลหลายคนในการเปลี่ยนท่าผู้ป่วย แต่หากใช้เตียงพลิกตะแคงและ software นี้จะช่วยผ่อนแรงพยาบาลได้ และสามารถควบคุมการเปลี่ยนท่าจาก software central control ได้ ทำให้พยาบาลไม่ต้องเข้าไปเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยที่ติดเชื้อมากเกินไป

รศ.ดร.ศักดิ์ระวี กล่าวต่อว่า แต่การจะนำเตียงและ software นี้ใช้ในหอผู้ป่วยวิกฤตได้นั้นจำเป็นที่จะต้องผ่านมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานขั้นสูงสุด เตียงผู้ป่วยที่พัฒนาขึ้นสามารถส่งข้อมูล และ รับข้อมูลผ่านแอพพลิเคชัน ทำให้การเข้าถึงการควบคุมช่วยเหลือ ผู้ป่วย ผู้สูงวัยทำได้รวดเร็ว เช่น การกำหนดเวลาการปรับท่าทางการนอน การเปลี่ยนตำแหน่งจุดกดทับ การปรับให้ผู้ป่วยในท่าทางการรักษาที่เหมาะสม การกำหนดเวลาล่วงหน้า การพาผู้ป่วยผู้สูงวัยทำกายภาพบำบัด ในส่วนต่างๆที่มีความละเอียดอ่อน นวัตกรรมระบบควบคุมนี้ ได้รับจดทรัพย์สินทางปัญญา และ ผ่านการทดสอบมาตรฐาน ซอฟต์แวร์ ทางการแพทย์ ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับผู้ใช้งานและ ผู้ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี

“น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข เจ้าค่ะ” เปิดตัวยิ่งใหญ่ สู่ตลาดโลก

 ใจถึงสู้ภัยโควิด-19
ขวดละ 19 บ. 1ล้านขวด แจกทุนทำกิน2หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 นางไพลิน โตอิ้ม เจ้าของกิจการผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าจ่าวิรัช” และเป็นรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าน้ำอ้อยม่วงหัก เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข” ผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าต้มสุก ปรุงรส ณ ห้องประชุมจ่าวิรัช Outlet ตำบลท่าน้ำอ้อย อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์

โดยมี ร.ต.ต.วิรัช โตอิ้ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าน้ำอ้อยม่วงหัก และนายศุภเกียรติ โตอิ้ม (บุตรชาย) ร่วมในงาน

นางไพลิน เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือประชาชน ลูกค้า และพ่อค้าแม่ค้า ในการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ ทำมาหากินยากลำบาก รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เราในฐานะที่เป็นแม่ค้าคนหนึ่ง เข้าใจถึงความทุกข์ยากเป็นอย่างดี ตนเคยจนมาก่อน ต้องหาบปลาร้าไปเร่ขายตามที่ต่างๆ จนกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ มีโรงงานน้ำปลาร้าเป็นของตัวเอง พอมีรายได้ที่มั่นคงขึ้น จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือคนที่ยังยากลำบากให้พอมีแรงที่จะลุกขึ้นสู้ฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปให้ได้ด้วยกัน

“ครอบครัวของเรา ดำเนินกิจการเกี่ยวกับปลาร้า ตนเกิดก็รู้จักปลาร้าแล้ว สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ปีนี้ครบรอบ 100 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าด้วยดีเสมอมา ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น วันนี้ลูกค้าเราลำบาก ก็อยากจะทำอะไรเพื่อตอบแทนบ้าง เพราะตนเคยจนมาก่อน รู้ดีว่าอาชีพค้าขายมันลำบาก ถ้าเราพอช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือมีเงินทุนสนับสนุนเขาได้บ้าง ทำให้เขามีเงินไปลงทุนทำมาหากินต่อ ก็จะช่วยให้เขาฟื้นตัว มีอาชีพมีรายได้เลี้ยงครอบครัวเขาได้ แล้วเขาก็จะคิดถึงเราคิดถึง “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน จ่าวิรัช” เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว”

ผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข” สูตรแซปเข้มข้นอร่อยยิ่งขึ้น เป็นผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าที่ไม่หวังกำไร เพื่อช่วยเหลือ คืนกำไรให้ผู้บริโภค และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ลูกค้า พ่อค้าแม่ค้า ได้เปิดการจำหน่ายในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขายขวดละ 19 บาท จำนวน 1,000,000 ขวด ถูกกว่าท้องตลาดที่ขายขวดละ 35-60-70 บาท ซื้อสินค้าได้ที่ ร้านจ่าวิรัช Outlet ตลาดไท และที่ร้านบลูช้อป ซุปเปอร์สโตร์ทุกสาขา

มอบทุนทำมาหากิน 20,000 บาท ให้กับผู้ประกอบการที่ซื้อผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข” จำนวน 50 ร้านค้าๆ ละ 20,000 บาท เพียงถ่ายรูปคู่กับผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข” ที่หน้าร้านตนเอง ส่งมาที่เพจ facebook: น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข นับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข” ในวันนี้ มีผู้โชคดีหลายราย ได้รับรางวัลสร้อยคอทองคำ มูลค่า 5,000 บาท โดยซื้อเพียง5ขวด ราคา 95 บาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย หรือเข้าไปกดไลท์-กดแชร์เพจ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข” สำหรับ 50 ท่านแรก รับน้ำปลาร้าไปทานฟรีถึงบ้าน ติดตามกติกาเพิ่มเติมและข้อมูลกิจกรรมดีๆ อย่างต่อเนื่องได้ที่เพจ “น้ำปลาร้าแม่ไพลิน by จ่าวิรัช ปันสุข”

ผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าจ่าวิรัช มีมาตรฐานสากลส่งออกทั่วโลก จำหน่ายในและต่างประเทศ มีส่วนช่วยในการสร้างชื่อเสียงและทำให้ปลาร้าไทยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก

ทางโรงงานยังรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ปลาร้า น้ำปลาร้าให้กับยี่ห้ออื่นด้วย และผู้สนใจทำธุรกิจน้ำปลาร้า

องค์การสวนสัตว์ฯ เตรียมปล่อยนกกระเรียนรอบที่ 11 คืนสู่ธรรมชาติ

ดีเดย์ 13 กุมภา ต้อนรับวันแห่งความรัก

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เตรียมปล่อย นกกระเรียนพันธุ์ไทย รอบที่ 11 กลับคืนสู่ธรรมชาติ ถือฤกษ์ดีเดย์ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ต้อนรับวันแห่งความรัก
(18 ม.ค. 2565) นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนการเตรียมปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ในปี 2565 ภายในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ ภายหลังจากที่ องค์การสวนสัตว์ฯ ประสบความสำเร็จในการ เพาะขยายพันธุ์และปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติมาตั้งแต่ปี 2554 จนปัจจุบันนกกระเรียนพันธุ์ไทยสามารถมีชีวิตรอดอยู่ในธรรมชาติได้แล้วจำนวน 133 ตัว
สำหรับนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่จะทำการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในปี 2565 นี้ เป็นการปล่อยรอบที่ 11 มีจำนวน 12 ตัว (เพศผู้ 8 ตัว และ เพศเมีย 4 ตัว) โดยสาเหตุที่เลือกปล่อยในห้วงวันแห่งความรัก เนื่องจากเป็นนก ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของรักแท้ เป็นนกที่จับคู่แบบผัวเดียว เมียเดียวตลอดชีวิต โดยการปล่อยครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ อาทิ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน ชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ บริษัทน้ำตาลบุรีรัมย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดการบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ โรงแรม กรีน โฮเต็ล The 8 hostel สภาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ และ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีของความสำเร็จบนความยั่งยืนที่เกิดขึ้น ทำให้องค์การสวนสัตว์ฯ ได้จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นโครงการอนุรักษ์ถิ่นอาศัยของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่มีความสำคัญระดับโลกในพื้นที่ภาคการผลิตของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก โดยมี บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนการก่อสร้าง และถือเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งเดียวที่มีความสำคัญและโดดเด่นของจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงกับวิถีชุมชน และองค์ความรู้ท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศ.

“อลงกรณ์”เผยจีนเปิด4ด่านนำเข้าผลไม้ไทยแล้วหลังลงพื้นที่เชียงราย

ข่าวดี ส่งออกผลไม้ไทย !!
เตรียมความพร้อมล่วงหน้ารับมือการส่งออกผลไม้ฤดูการผลิตปี2565
ชี้ปี2564ส่งออกผลไม้ไปจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เตรียมประชุมความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรไทย-จีนปลายเดือนนี้หวังปี65ส่งออกมากขึ้นหากปัญหาด่านคลี่คลาย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการและบริหารการจัดการผลไม้ (Fruit Board) มีความเป็นห่วงสถานการณ์ปัญหาด่านจีนและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งคลี่คลายปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย จึงได้มอบหมายให้ ตนในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ ลงพื้นที่ภาคเหนือ3จังหวัด ได้แก่เชียงใหม่ ลำพูนและเชียงรายระหว่างวันที่ 11-15ม.ค.โดยประชุมเตรียมความพร้อมในการการบริหารจัดการผลไม้ของภาคเหนือ ฤดูการผลิตปี 2565และตรวจเยี่ยมด่านเชียงแสนซึ่งเป็นด่านนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรทางลำน้ำโขงรวมทั้งการเพิ่มความเข้มข้นสำหรับมาตรการSPSและโควิดฟรี(Covid Free)โดยเฉพาะการประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งผ่านด่านบ่อเตนและด่านโมฮ่านเพื่อเตรียมรับมือฤดูการผลิตผลไม้ปี2565ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนมีนาคมนี้
นายอลงกรณ์กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ จีนได้เปิด 4 ด่านหลักทั้งหมดแล้ว ได้แก่

1.ด่านโม่ฮาน บนเส้นทางR2A(เชียงของ-บ่อเตน-โมฮ่าน)เปิดให้บริการทุกวันโดยกำหนดเปิดด่านตั้งแต่เวลา07.30-16.30สำหรับรถขนส่งผลไม้และ16.30-20.00สำหรับรถเปล่าถือเป็นความก้าวหน้าในความร่วมมือระหว่างไทย-สปป.ลาวและจีนซึ่งตนได้ประชุมและตรวจความพร้อมที่ด่านเชียงของ ปรากฎว่ามีรถบรรทุกผลไม้ห้องเย็นเข้าออกที่ด่านเชียงของคึกคักมากขึ้นหลังจากด่านโมฮ่านเปิดโดยไม่จำกัดจำนวนรถ โดยเป็นรถบรรทุกส่งออกจากไทยมากกว่ารถที่นำเข้าสินค้าจากจีนเข้าไทยซึ่งตนได้กำชับให้มีการพ่นฆ่าเชื้อทั้งรถขาเข้าและขาออกตามมาตรการCovid freeและSPS
2.ด่านโหย่วอี้กวน เปิดให้บริการปกติ แต่ยังจำกัดรถบรรทุกสินค้าเข้าด่านไม่เกิน100คันเนื่องจากมาตรการโควิดที่เข้มงวดซึ่งทางการไทยและเวียดนามได้ประสานงานกับจีนเพื่อให้เพิ่มปริมาณการปล่อยรถสินค้า ซึ่งได้ให้ฑูตเกษตรของเราในปักกิ่งและกวางโจวเสนอจีนให้ใช้ในแนวทางเดียวกับด่านโมฮ่าน
3.ด่านรถไฟผิงเสียง เปิดนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารที่ขนส่งผ่านห่วงโซ่ความเย็น (รวมผลไม้ไทย) ระหว่างวันที่ 4 – 17 มกราคม 2565 (ตามมาตรการ เปิด 14 วัน ปิด 14 วัน)
4.ด่านตงซิง กลับมาเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 หลังจากปิดด่านเนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองตงซิง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ไปตรวจเยี่ยมล้งใหญ่เป็นบริษัทไทยกำลังขึ้นตู้คอนเทนเนอร์เป็นทุเรียนทวาย(นอกฤดู)จากชุมพรและภาคใต้แจ้งว่าส่งออกไปที่ด่านตงชิง

นายอลงกรณ์ยังเปิดเผยด้วยว่าได้เสนอรายงานเบื้องต้นต่อ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานฟรุ้ทบอร์ดและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ โดยปลายเดือนนี้ทางการไทยและจีนได้หารือก่อนหน้านี้จนได้ข้อสรุปในการที่กระทรวงเกษตรฯ.ของไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงเกษตรของจีนและเดือนหน้าจะมีการประชุมว่าด้วยมาตรการSPSระหว่าง2ประเทศ
นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า การขนส่งผลไม้ทางเรือจากแหลมฉบับมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกันมีสายการเดินเรือเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นหลายสายเช่น Evergreen หยังหมิง KMTC Cosco Wan Hai TSL CNC CK และมีการประกาศค่าระวางล่าสุดตั้งแต่วันที่9มกราคมที่ผ่านมาลดค่าระวางจาก6พันดอลลาร์สหรัฐต่อตู้เป็นเหลือ4,800เหรียญนับเป็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ต้นปี
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานฟรุ้ทบอร์ดและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ประสานความร่วมมือกับประเทศที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เกิดปัญหาด่านติดขัดรุนแรงในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมที่ผ่านมาจนสถานการณ์เริ่มดีขึ้น และขอความร่วมมือผู้ประกอบการส่งออกให้ยึดแนวปฏิบัติการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดหากด่านจีนตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในตู้สินค้าปิดด่านทันที
ปี2564แม้จะเผชิญปัญหาด่านติดจัดและตู้ขนส่งสินค้าขาดแคลนรวมทั้งค่าระวางเรือขึ้นสูงมากแต่เราสามารถส่งออกผลไม้ไปจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียง11เดือนปี2564มีมูลค่ากว่า1.5แสนล้านบาทและครองส่วนแบ่งในตลาดจีนเป็นอันดับหนึ่งมีมาร์เก็ตแชร์ถึง45%จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการขยายการส่งออกผลไม้ให้เพิ่มขึ้นจากปี2564”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด

Soft Opening สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล

หลังจากระดมสรรพกำลัง จากมวลหมู่สมาชิกช่างภาพมืออาชีพ มาร่วมขับเคลื่อนภารกิจกันในรูปของ“ชมรมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล” อยู่ระยะหนี่ง ถึงเวลาที่ “สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล” เปิดตัวสู่สาธารณะ เพื่อผลักดันภารกิจให้มวลเหล่าช่างภาพสื่อมวลชนร่วมอุดมการณ์ ในการตอบแทนสังคมทุกรูปแบบในช่วงต่อไป

งาน Soft Opening เปิดตัวของสมาคมฯ ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากพลตำรวจตรี อธิศวิส กมลรัตน์ ผู้บังคับการกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง
กิตติพันธ์ ขันติศีลชัย นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล กล่าวถึงการเปิดตัวของสมาคมในครั้งนี้ว่า คณะกรรมการบริหารของสมาคม มีความปรารถนาที่จะทำงานตามปณิธานที่วางไว้ว่า จะสร้างสรรค์สวัสดิการคืนกลับสู่สมาชิกสมาคมฯ และตอบแทนสังคมด้วยกิจกรรมด้านต่าง ๆ

พร้อมกันนี้ทางสมาคมฯ ได้จัดงาน “รื่นเริงสุขสันต์ รับขวัญปีใหม่” ให้กับหมู่มวลสมาชิก และตัวแทนประชาสัมพันธ์ บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ที่ให้การสนับหนุนมาโดยตลอด
งานเปิดตัว “สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล” ครั้งนี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 ณ ร้านโก๋พลัส ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด

พลิกโฉมภาคเกษตรครั้งใหญ่ !!!อุตสาหกรรมเกษตรสู่หมุดหมายเกษตรมูลค่าสูง

กรกอ.มีมติสนับสนุนโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรโมเดลใหม่ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน
มอบ”อลงกรณ์”นำทีมตั้งเป้ายกระดับรายได้เกษตรกรพร้อมเห็นชอบโครงการนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร9กลุ่มจังหวัดแรกหวังสร้างฐาน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กร.กอ.) เปิดเผยวันนี้(15ม.ค.)ภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/ 2565 ผ่านการประชุมทางไกล zoom cloud meeting โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทั้ง5ภาค นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยมี นายวินิต อิทธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และนายพงศ์ไท ไทโยธิน
ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นฝ่ายเลขานุการ
โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า กรกอ.มีมติสนับสนุนโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรโมเดลใหม่โดยภาคเอกชนและให้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการมีเป้าหมายประกันราคาสินค้าเกษตรสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกษตรอาหารเพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้แนวคิดความเป็นหุ้นส่วนระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่และจะเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ของภาคเกษตรของเรา ภายใต้5ยุทธศาสตร์ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ.โดยการสนับสนุนของรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีพาณิชย์
“ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมกุ้งตลอดห่วงโซ่ธุรกิจร่วมกับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งและกรมประมงโดยกระทรวงเกษตรฯ.เริ่มทดลองโครงการประกันราคากุ้งเฟสแรกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังขยายผลโครงการไปกลุ่มผลไม้เศรษฐกิจภายใต้ฟรุ้ทบอร์ด ในอดีตที่ผ่านมาภาครัฐใช้เงินงบประมาณอุดหนุนสินค้าเกษตรกว่าแสนล้านต่อปีขณะที่ผลิตภาพการผลิตภาคเกษตรยังเป็นปัญหาเช่นเดียวกับราคาสินค้าเกษตรก็ไม่มีความแน่นอน การเอาเปรียบทางการค้ากับเกษตรกรยังมีอยู่ ถ้าโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรโดยภาคเอกชนสำเร็จ ต่อไปภาครัฐจะได้ใช้งบประมาณไปทุ่มเทกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเมดอินไทนแลนด์ การพัฒนาผลิตภาพ(Productivity)ทั้งระบบ การพัฒนาการศึกษาด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม การเพิ่มทักษะ(Reskill&Upskill)บุคคลากรภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการภาคเกษตรกร และการโปรโมทสินค้าเกษตรอาหารของไทยในต่างประเทศ
โครงการนี้ไม่ง่ายเลยแต่มีความเป็นไปได้ขึ้นกับความร่วมมือแบบหุ้นส่วนของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและความกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ เราต้องช่วยกันปลดกระดุมแล้วกลัดใหม่ สร้างคานงัดใหม่ๆในการอัพเกรดประเทศไทยของเรา”นายอลงกรณ์กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร9กลุ่มจังหวัดแรกหวังสร้างฐานอุตสาหกรรมเกษตรสู่หมุดหมายเกษตรมูลค่าสูงและ12อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่(S-Curve)
รวมทั้งรับทราบวาระต่างๆเช่น (1) บันทึกความร่วมมือการสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรด้วยการผลิตไฟฟ้าและพลังความร้อนจากพืชพลังงานเพื่อชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 (2) ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระดับภาค (กร.กอ.ระดับภาค)

(2.1) ความก้าวหน้าภายใต้คณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรรมแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออก ได้เสนอกรอบแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารภาคตะวันออก ปี 2566 -2570 มีเป้าหมายสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตการเกษตรและเชื่อมโยงตลาดในระดับภาคตะวันออกฝให้เป็นรูปธรรมตามนโยบายตลาดนำการผลิต (2.2) ผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรรมแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าเกษตรที่สำคัญตามศักยภาพแบบครบวงจร ในพื้นที่ 5 กลุ่มจังหวัด ซึ่งได้กำหนดสินค้าแบ่งออกเป็น (1) สินค้าหลัก ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ผัก โค และแพะ และ (2) สินค้ากลุ่มใหม่ อาทิ แมลงเศรษฐกิจ (จิ้งหรีด) สมุนไพร กัญชาและใบกระท่อม
ที่ประชุมได้พิจารณา “แนวทางการดำเนินการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของกลุ่มจังหวัดนำร่อง” และมีมติ ดังนี้ (1) เห็นชอบให้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อหารือแนวทางการจัดทำมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ของกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อม 9 กลุ่มจังหวัด (2) มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ ระดับภาค และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับปรุงและเพิ่มเติมรายละเอียดแนวทางการพัฒนาเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อมบางส่วน และกลุ่มที่ไม่มีความพร้อมให้มีสอดคล้องกันในแนวทางการส่งเสริม

สำหรับการจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนโครงการประกันราคาสินค้าเกษตร นั้นที่ประชุม
กรกอ.มีมติมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน โดยองค์ประกอบคณะอนุฯ ได้แก่ นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทั้ง5ภาค (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้) ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิอีกจำนวนหนึ่งและฝ่ายเลขานุการ กร.กอ. ดำเนินการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ.ตามมติที่ประชุมโดยเร็ว.

ภาครัฐ-เอกชน ร่วมมือพัฒนาคลองไร่อ้อยตามโครงการ “คลองสวย น้ำใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ม.ค.65 นายชวลิต คำสอน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลองสวย น้ำใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งทาง บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด และเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ จัดโครงการนี้ขึ้น โดยมีนาย สมรัก ลิขิตเจริญพันธ์ ผู้จัดการบริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) นาย บุญชัย ก่อเกียรติพิทักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) นางสาว อังคณา สถิตเสถียร ผู้จัดการแผนกบุคคลและธุรการ บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด และนาย เสริมศักดิ์ อยู่เป็นสุข ผู้จัดการแผนกความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด ให้การต้อนรับ

สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการปรับปรุงสภาพแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำสาธารณะโดยเฉพาะคลองไร่อ้อย หมู่ที่ 1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกฤดูกาลและไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำจำพวกขยะ สิ่งปฏิกูล รวมทั้งวัชพืชต่างๆ นอกจากนั้นเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในชุมชนในการร่วมกันอนุรักษ์บำรุงรักษาใช้ประโยชน์ และปลูกฝังจิตสำนึกในการรักษาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อให้การจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้รับการป้องกันดูแลและแก้ไขให้เกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ

นายสมรัก ลิขิตเจริญพันธ์ ผู้จัดการบริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโครงการคลองสวย น้ำใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะและวัชพืชที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจนทำให้ชุมชนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำลำคลองได้ อีกทั้งทำให้สูญเสียความสวยงามของทัศนียภาพตามลำน้ำ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอดจนคูคลองบางสายเกิดการตื้นเขิน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชุมชนอีกด้วย ซึ่งในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้มีการสำรวจพื้นที่ที่จะดำเนินการพร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์และคนงานในการดำเนินงานให้ลุล่วงไปด้วยดีเพื่อประโยชณ์ของชุมชนริมฝั่งคลองตลอดแนวสำหรับโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์และบริษัทไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด ด้วย

ดินหน้า“5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย”ปี2565

“อลงกรณ์”ลุยภาคเหนือ ตั้งบอร์ดลำไยผนึกเกษตรกร-เอกชนเดินหน้าโครงการประกันราคาลำไยรูปแบบใหม่พร้อมมอบศูนย์AICเชียงใหม่และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือพัฒนาเพิ่มมูลค่าครบวงจร ปักหมุดลำพูนเมืองหลวงลำไย เร่งปฏิรูปผลไม้ไทยเชื่อมแผน13 ขับเคลื่อนสู่ “เกษตรมูลค่าสูง”

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดลำพูน เพื่อติดตามงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้บริหาร ข้าราชการ และหน่วยงานภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
ในการนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมภาคีเครือข่ายเกษตรกรภาครัฐและเอกชน เพื่อการขับเคลื่อนการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือที่สำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูและประชุมทางไกลตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้แทนคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) จังหวัดลำพูน และผู้แทนคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ผู้แทนสภาเกษตรกรแห่งชาติ ผู้แทนหอการค้าจังหวัด ผู้แทนกรมการค้าภายใน ผู้แทนกรมการส่งเสริมค้าระหว่างประเทศ นายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ ประธานและ นายอมรพันธุ์ พูลสวัสดิ์ เลขานุการ คณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคเหนือ (กร.กอ.ภาคเหนือ) และหัวหน้าหน่วยราชการ และหน่วยงานภาคเอกชนด้านการขนส่ง ตัวแทนผู้ประกอบการ(ล้ง)ในจังหวัดลำพูน ตัวแทนเกษตรกรแปลงใหญ่และศพก. และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยมี นายขจร เราประเสริฐ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นฝ่ายเลขานุการ

ที่ประชุมได้รับทราบ (1) รายงานการคาดการณ์แนวโน้มผลผลิตภาคเหนือ ปี 2565 (2) รายงานผลการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ ปี 2564 และปัญหาอุปสรรค และที่ประชุมได้ร่วมหารือพิจารณาในแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ ระดับพื้นที่ (AREA BASED)

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า กล่าวว่า ภายใต้โมเดลเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาดตามยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตและ “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการผลไม้ในสภาวะวิกฤติโควิด-19 โดยเน้นร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดอายุผลผลิต และแปรรูปยกระดับสู่อุตสาหกรรมเกษตรอาหารเพิ่มมูลค่ารายได้ให้มากขึ้น ซึ่งในปี 2565 และปีต่อๆ ไปได้วางเป้าหมายพลิกโฉมภาคเกษตรไทยมุ่งเน้นการทำเกษตรมูลค่าสูง ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566 -2570) ในมิติภาคการผลิตและบริการเป้าหมายหมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตร และเกษตรมูลค่าสูง มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานของภาคเกษตร และการสนับสนุนบทบาทของผู้ประกอบการเกษตร โดยมอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์AICภาคเหนือและอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเร่งวิจัยพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมทั้งการแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้
นายอลงกรณ์กล่าวว่าจังหวัดลำพูนเป็นศูนย์กลางลำไยภาคเหนือและเป็นเมืองหลวงลำไยโลก มีพื้นที่ปลูกลำไยกว่า 250,000 ไร่ เป็นแหล่งผลิตสำคัญในภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน จากสถานการณ์การผลิต ปี 2560 – 2564 เนื้อที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1,451,714 ไร่ ในปี 2560 เป็น 1,655,036 ไร่ ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.13 ต่อปี ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1,200,804 ตัน ในปี 2560 เป็น 1,437,740 ตัน ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.12 ต่อปี และผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก 827 กิโลกรัมในปี 2560 เป็น 869 กิโลกรัม ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.004 ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริมสนับสนุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตามเรายังเผชิญปัญหาราคาลำไยตกต่ำในบางปีบางฤดูเป็นปัญหาซ้ำซากตลอดมาจึงให้ดำเนินการโครงการประกันราคาลำไยขั้นต่ำบนความร่วมมือระหว่างภาคเกษตรกรและภาคเอกชนโดยการสนับสนุนของภาครัฐเป็นโมเดลใหม่เพื่อให้ทุกภาคส่วนเป็นหุ้นส่วนกัน(Partnership model)แบบwin-winทุกฝ่ายเช่นที่กำลังดำเนินการกับอุตสาหกรรมกุ้งโดยบอร์ดกุ้งซึ่งภาคเอกชนตกลงกับเกษตรกรในการประกันราคาขั้นต่ำ โดยจะมีการประชุมภายใน2สัปดาห์หากเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายต่อไปจะขยายผลกับทุกกลุ่มสินค้าเกษตรต่อไป

นายอลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตลำไยในพื้นทีภาคเหนืออย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการรองรับผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดล่วงหน้าตามแนวทางการบริหารจัดหารผลผลิตลำไยปี 2565 เช่น โครงการกระจายลำไยออกนอกแหล่งผลิต จังหวัดลำพูนโดย คพจ. ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณจากเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อเตรียมการรองรับการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและราคาผลผลิตตกต่ำ เป้าหมาย การสนับสนุนค่าบริหารจัดการกระจายผลผลิตลำไยออกนอกแหล่งผลิต การรับซื้อในราคานำตลาดตลอดจนแนวทางการบริการจัดการ ตั้งแต่ต้นทาง คือ เน้นตลาดนำการผลิต การลดต้นทุน พัฒนาคุณภาพมาตรฐานเพิ่มผลิตภาพการผลิต การทำลำไยนอกฤดูการสร้างมูลค่าเพิ่ม การพัฒนายกระดับมาตรฐานเน้นการใช้เทคโนโลยีแปรรูปเพิ่มมูลค่าให้หลากหลายตามความต้องการของตลาด การซื้อขายล่วงหน้าระบบPre-order การบริการจัดการระบบขนส่งและเพิ่มระบบ Cold Chain Logistics พร้อมทั้งการขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ออฟไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ การสร้างระบบ Traceability และ QR code เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพสินค้า ตลอดจนแนวทางส่งเสริมการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อให้ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด ทั้งหมดนี้จะเป็นก้าวสำคัญให้ภาคเกษตรไทยก้าวสู่มิติใหม่ โดยใช้โมเดล Fair Trade ลำไย การค้าที่เป็นธรรมเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนลำไยอย่างยั่งยืนโดยบูรณาการทำงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่นสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ร้านค้า โรงงานแปรรูป ล้ง และผู้ส่งออก
นอกจากนี้คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board)ได้แต่งตั้งคณะทำงานกลุ่มสินค้าลำไย(ลำไยบอร์ด) เพื่อดูแลลำไยเป็นการเฉพาะอีกด้วย.