สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด ได้จัดงาน “มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง”

ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากภาคกลาง ตามแผนงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565 ในระหว่างวันที่ 6 – 10 มกราคม 2565

   วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565 ที่ บริเวณ ชั้น G โซนร้านทอง ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี โดยการนำนายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐมในนามสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี,สมุทรปราการ, นนทบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, สระบุรี, อ่างทอง, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกันจัดงาน “มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง” 

ซึ่งทางด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด จัดงาน “มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากภาคกลาง ตามแผนงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565
ในระหว่างวันที่ 6 – 10 มกราคม 2565 ณ ชั้น G โซนร้านทอง ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี
โดยมีวัตถุประสงค์
1.เพื่อสร้างโอกาส และเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย/
เกษตรอินทรีย์/เกษตรแปรรูป/สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ชุมชน
ของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง
2.เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง
3.เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าที่มีศักยภาพและได้มาตรฐานของกลุ่มจังหวัด ภาคกลางให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการเกษตรปลอดภัย/เกษตรอินทรีย์/เกษตรแปรรูป/สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ SME กลุ่มเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และผลิตภัณฑ์ชุมชน
ของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง
กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย
1.การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์เด่น จำนวน 60 คูหา โดยกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ประเภทอาหาร เครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก
จากจังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด
2.กิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่กิจกรรมนาทีทอง จับฉลากลุ้นรับรางวัลทุกวัน
3.กิจกรรมการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน อาทิ เอิ้นขวัญ วรัญญา, เต๋า ภูศิลป์, ตรี ชัยณรงค์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์วิถีของดีกลุ่มภาคกลาง
4.การจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Online สอดคล้องกับการค้าในยุคดิจิทัล รวมถึงการไลฟ์สดช่วยให้ผู้ประกอบการ ได้มียอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น
5.กิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้าทั้งในรูปแบบ Online และ Offline เพื่อเป็น การสร้างโอกาสขยายช่องทางตลาดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (Covid-19)

ในการจัดงานฯ ดังกล่าว ได้ดำเนินการแบบ New normal ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) อย่างเคร่งครัด และได้รับความอนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่ในการจัดงานจากศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี
โดยทางด้านท่านบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวเปิดงาน
“มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง”ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากภาคกลาง ตามแผนงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565 กลุ่มจังหวัดภาคกลาง ทั้ง 17 จังหวัด เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมีความหลากหลาย ทั้งในด้านสินค้าเกษตร/ เกษตรปลอดภัย/เกษตรอินทรีย์/เกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ชุมชน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการส่งเสริมช่องทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงอัตลักษณ์และคุณภาพของสินค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางอย่างแพร่หลาย และเพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์วิถีชุมชนกลุ่มจังหวัดภาคกลางให้สามารถแข่งขันได้ อันจะเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าของกลุ่มจังหวัดภาคกลางทั้ง 17 จังหวัด ตามนโยบายด้านการพัฒนาศักยภาพทางการตลาด ของท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

เปิดแล้ว!! “ป่าช้าคาเฟ่” สำหรับคนที่ชอบคาเฟ่บรรยากาศหลอนๆ

เกิดจากความต้องการของชาวบ้านที่จะเปลี่ยนพื้นที่รกชัฏน่ากลัวบริเวณหน้าวัดเสาธงทอง ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ให้เป็นพื้นที่สวยงามด้วยการปลูกดอกไม้ทำการค้าขายเป็นร้านกาแฟที่มีจุดให้ถ่ายรูปเช็คอินสำหรับนักเดิน..ทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ พ่อค้าแม่ค้าจะแต่งเป็นผี คอยให้บริการ..ใครที่ผ่านมาแถวๆวัดเสาธงทอง จ.เพชรบูรณ์ หากชื่นชอบบรรยากาศหลอนๆนั่งจิบกาแฟแล้วปลงสังขารเจริญมรณานุสติไปด้วย ลองแวะดู..บรื๋อส์!!!

เดินทางมาสักการะสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ “ณ วัดช้างเผือก”

เดินทางมาสักการะสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ บรรจุในโลงแก้ว ณ วัดช้างเผือก บ้านยางหัวลม ต.วังชมภู อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์

ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิต แก่กล้าเหนือธรรมชาติ เชื่อกันว่าท่านได้บรรลุธรรมชั้นสูง จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ตามประวัติ เล่าว่า หลวงพ่อทบได้ศึกษาวิชาอาคมมาจากเขมร จนเป็นที่เลื่องลือทางด้านเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชื่อเสียงในด้านแคล้วคลาดจากภยันตราย อยู่ยงคงกะพัน

นอกจากนี้ภายใน วัดยังมีซากโบสถ์เก่าสมัยอยุธยา อายุกว่า 300 ปี และพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อทบแสดงเรื่องราวประวัติของท่านอีกด้วย

“ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ”เปิดให้เยี่ยมชมและศึกษาความเป็นมาในอดีต

เยี่ยมชมและศึกษาความเป็นมาในอดีต ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อำเภอศรีเทพ ซึ่งเป็น โบราณสถานสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ สร้างขึ้นในยุคของขอมเรืองอำนาจ เดิมมีชื่อว่า “เมืองอภัยสาลี” ถูกค้นพบเมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จไปตรวจราชการมณฑล เพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2447 และได้ทรงเรียกเมืองนี้ว่า “เมืองศรีเทพ” คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่เศษ มีกำแพงเมืองที่ก่อด้วยดินล้อมรอบ และมีคูเมือง นอกกำแพง มีประตูเมืองทั้งสี่ทิศ

ภายในเมืองมีปรางค์สมัยลพบุรี 2 องค์ เรียกว่า ปรางค์องค์พี่ และปรางค์องค์น้อง ทางทิศเหนือนอกกำแพงเมืองมีสระน้ำสองแห่ง ชื่อสระแก้ว และสระขวัญ ในสมัยก่อนเมืองศรีเทพต้องส่งส่วยน้ำจากสระทั้งสองนี้ เพื่อนำไปทำน้ำพิพัฒน์สัตยา เพราะ ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพยังได้รับรางวัล Thailand Tourism Award ประจำปี 2543 จำนวน 2 รางวัล คือ รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโบราณสถานยอดเยี่ยม และรางวัลสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านอินเตอร์เน็ตดีเด่น

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ “ออนไลน์” สุดพิเศษ! ร่วมเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ “ออนไลน์” สุดพิเศษ ! เฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกโพสต์ภาพในวัยเด็กสุดคิวท์ พร้อมคำขวัญวันเด็กที่ประทับใจ ซึ่งเป็นคำขวัญที่คุณคิดเองหรือจากบุคคลที่มีชื่อเสียงใครก็ได้ ลุ้นรับ “จักรยานแอลเอไบซิเคิล รุ่น อี-สปอร์ตี้ 20” จำนวน 11 รางวัล ฟรี !!!!!

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ตามสถานการณ์ปกติเมื่อถึงช่วงวันเด็กแห่งชาติในแต่ละปี บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งมอบความสุข และสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ และผู้โดยสารมาโดยตลอด ทว่าในปีนี้ด้วยสถานการณ์การแพร่ระระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน บริษัทจึงได้ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมการตลาดจากเดิมที่เป็นการจัดกิจกรรมแบบออฟไลน์ เป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ “ออนไลน์” แทน ด้วยการให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกโพสต์ภาพวัยเด็กของตัวเอง พร้อมคำขวัญวันเด็กสุดประทับใจ โดยเป็นคำขวัญที่คุณคิดเองหรือจากบุคคลที่มีชื่อเสียงใครก็ได้ ในโพสต์กิจกรรม ซึ่งจะลงในวันที่ 8 มกราคม 2565 ทางเฟสบุค Airport Rail Link ( เฟซบุ๊กเพจปัจจุบันของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ) ซึ่งภาพ และคำขวัญที่ได้รับการโหวตจากคณะกรรมการมากที่สุด จะได้รับรางวัลจักรยานแอลเอไบซิเคิล รุ่น อี-สปอร์ตี้ 20 จำนวน 11 รางวัล โดยรางวัลจะจัดส่งถึงบ้าน ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ 1 บัญชีเฟสบุคแอคเคาท์สามารถร่วมสนุกได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้น และการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

สำหรับการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล บริษัทจะทำการประกาศผ่านเฟซบุ๊กออฟฟิเชียลเพจของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเพจใหม่ Red Line BKK ในวันที่ 15 มกราคม 2565

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

องค์การสวนสัตว์ ฯ วางเป้าหมายให้สวนสัตว์เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้เด็กและเยาวชนของชาติ

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) วางเป้าหมายให้สวนสัตว์เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ หวังเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้เด็กและเยาวชน ให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดให้บริการสวนสัตว์ตามปกติ โดยมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA Plus) ทุกสวนสัตว์ปลอดภัย สัมผัสความร่มรื่น ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทเป็นธรรมชาติ

(วันนี้ 5 ม.ค 2565) นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ยกระดับมาตรฐานการให้บริการสวนสัตว์ในสังกัด ด้วยการกำหนดหมุดหมายให้สวนสัตว์เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับเด็กและเยาวชน ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA Plus) และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของรัฐ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย จึงของดจัดกิจกรรมวันเด็กในสวนสัตว์ แต่จะยังคงเปิดให้บริการสวนสัตว์ทั้ง 6 แห่งและโครงการ คชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้เด็กๆและเยาวชนรวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไป เข้ามาเที่ยวชมได้ตามปกติ โดยในวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เด็กๆ จะได้เข้าชมสวนสัตว์ฟรี (เฉพาะเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร) และสวนสัตว์แต่ละแห่ง ได้จัดเตรียมกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับเด็กและเยาวชน อาทิ
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว พบกับการป้อนอาหารสัตว์ ชมส่วนแสดงละมั่ง ลีเมอร์ และรับชมการ Live สด เสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดทั้งวัน

สวนสัตว์เชียงใหม่ พบกับการชุมนุมเหล่าบรรดาลูกสัตว์หรรษา อาทิ นกมาคอว์ ลูกหมูจิ๋ว กระต่าย ลูกแพะ และลูกสัตว์ป่านานาชนิด
สวนสัตว์นครราชสีมา พบกับแลนมาร์คใหม่ดินแดนไดโนเสาร์ และการเปิดตัวกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก
สวนสัตว์สงขลา ชมการแสดงความสามารถสัตว์นานาชนิด และองค์ความรู้ด้านสัตว์ป่า
สวนสัตว์อุบลราชธานี ชมการให้อาหารสัตว์แบบใกล้ชิด และร่วมอุปถัมภ์สัตว์ป่ารับของที่ระลึก
สวนสัตว์ขอนแก่น ชมสัตว์ผจญภัยในดินแดนแห่งสัตว์ป่า และสุดหรรษากับบรรดาเหล่ามาสคอตแสนน่ารัก
“องค์การสวนสัตว์ฯ คาดหมายว่าในปี 2565 เป็นต้นไป เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ จะมาเที่ยวชมสวนสัตว์กันมากขึ้น เพราะสวนสัตว์ถือเป็นศูนย์รวมความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ ยังได้สร้างการมีส่วนร่วมโดยการเปิดให้ร่วมบริจาคโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่าภายในสวนสัตว์ทุกแห่ง และแจ้งไปยังนักท่องเที่ยวทุกท่าน ที่จะพาบุตรหลานมาเที่ยวชมสวนสัตว์ ขอให้มั่นใจในด้านความปลอดภัย เพราะสวนสัตว์ทุกแห่งได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าว

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว : โทร. 096-9742546, 038-318444 หรือ FB สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
สวนสัตว์เชียงใหม่ : โทร.053 221 179 หรือ FB สวนสัตว์เชียงใหม่ Chiang Mai Zoo
สวนสัตว์นครราชสีมา : โทร. 044-934537-8 / 083-3720404 หรือ FB สวนสัตว์นครราชสีมา KORAT ZOO
สวนสัตว์สงขลา : โทร. 074 598 555 หรือ FB สวนสัตว์สงขลา Songkhla zoo
สวนสัตว์อุบลราชธานี : โทร. 093 320 9369 หรือ FB สวนสัตว์อุบลราชธานี ubon zoo
สวนสัตว์ขอนแก่น : โทร. 086 459 4192 หรือ Facebook สวนสัตว์ขอนแก่น khonkaen zoo
โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ : โทร. 092-3284907 , 065-7326690 หรือ FB โครงการ คชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ Elephant Kingdom Surin by ZPOT

“ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่” “อลงกรณ์”เปิดวิสัยทัศน์“ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย”

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส.6สมัยและอดีตรัฐมนตรี เขียนบทความใน
เฟสบุ้ควันนี้
เรื่อง “ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย”
“ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่”
เป็นตอนที่2ของซีรี่ย์”ก้าวใหม่ประเทศไทย”อย่างน่าสนใจ…….

ก้าวใหม่ประเทศไทย (ตอนที่2)
เรื่อง“ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย”
“ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่”
โดย อลงกรณ์ พลบุตร
4 มกราคม 2564
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO) โครงการอาหารโลก(World Food Program) องค์การสหประชาชาติ(UN) และองค์การอนามัยโลก(WHO)รายงานผลการประชุมสุดยอดระบบอาหารโลก(UN Food System Summit 2021)โดยสรุปว่า โลกกำลังเผขิญภาวะขาดแคลนอาหารจากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและการ
แพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้ประชากรโลกประสบปัญหาการเข้าถึงอาหารและราคาอาหารจะแพงขึ้น
เป็นวิกฤติของโลกแต่ก็เป็นโอกาสของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารชั้นนำของโลก
ประเทศไทยของเรามีศักยภาพการผลิตและการตลาดด้านเกษตรและอาหารสูงมาก
ปี2560 เราเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับ14ของโลก
ปี2561 ขึ้นเป็นอันดับ 12ของโลกซึ่งมีเพียง2ประเทศเท่านั้นที่ปีเดียวขึ้น2อันดับและเป็นครั้งแรกที่ขึ้นเป็นที่2ของเอเซียรองจากประเทศจีนเท่านั้น
ปี2562 ขยับต่อเนื่องขึ้นเป็นอันดับ11ของโลกและยังครองอันดับ2ของเอเซีย
นับเป็นประเทศ “หนึ่งเดียวในโลก” ที่2ปีขึ้น3อันดับ
ไทยแลนด์ โอนลี่ครับ
หลังโควิดคลี่คลาย เราจะสานฝัน”ครัวไทย ครัวโลก”สู่อันดับท็อปเทนของโลกตามนโยบายของรัฐบาล
วันนี้สินค้าเกษตรสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมของไทยติดท็อปเทนของโลกจำนวนไม่น้อย เช่น ยางพารา ยางรถยนต์ ถุงมือยาง น้ำตาล ทุเรียน ข้าว สัปปะรดกระป๋อง อาหารทะเล ทูน่ากระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง เอทานอล มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ.
ส่วนใหญ่ส่งออกในรูปวัตถุดิบและสินค้าแปรรูปขั้นต้นมูลค่าต่ำแบบที่เรียกว่า”ทำมากได้น้อย(More for Less)” ประเทศและเกษตรกรจึงมีรายได้น้อยมาอย่างยาวนาน เรา จึงต้องเปลี่ยนใหม่สู่การ”ทำน้อยได้มาก(Less for More)”
ถ้าทำแบบเดิมๆจะไม่สามารถยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรเทคออฟสู่เพดานใหม่ได้
อย่างไรก็ตามแม้โจทย์จะชัดเจนในตัวเอง แต่คำถามคือ แล้วเราจะทำอย่างไร
ผมจะยกตัวอย่างการถอดสมการนำมาสู่การออกแบบโมเดลการปฏิรูปภาคเกษตรไทย
ถ้าเราย้อนมองบริษัทเช่น Amazon Alibaba Google Apple Teslaจะได้คำตอบว่าทำไมบริษัทเหล่านี้จึงสามารถทะยานขึ้นสู่บริษัทแนวหน้าของโลกภายในเวลา20ปีโดยเฉพาะAppleเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ3ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(มากกว่างบประมาณไทย30ล้านเท่า)
คำตอบคือ วิสัยทัศน์ เทคโนโลยีและการบริหารจัดการใหม่ๆ
อีกตัวอย่างเช่น ประเทศจีนที่พัฒนาตัวเองจากประเทศยากจนด้อยพัฒนาสู่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ2และมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีภายใน30ปี
คำตอบก็เหมือนกัน
การถอดบทเรียนจากตัวอย่างเหล่านี้ช่วยให้การดีไซน์การปฏิรูปง่ายขึ้น
การปลดกระดุมแล้วกลัดใหม่จึงเกิดขึ้นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นกระบวนการปฏิรูปการบริหารจัดการเชิงโครงสร้างและระบบ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นแก่นกลาง
2ปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งรัดการปฏิรูปภาคเกษตรเดินหน้าภายใต้5ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ.(จบปริญญาเอกด้านยุทธศาสตร์โดยตรง)และนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์(เจ้าของสโลแกน”ทำได้ไวทำได้จริง”)ด้วยการสร้างกลไก4แกนหลักคือภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการและภาคเกษตรกรเป็น4เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร4.0 ยุทธศาสตร์3S(Safety-Security-Sustainability)เกษตรปลอดภัยเกษตรมั่นคงเกษตรยั่งยืน ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนและยุทธศาสตร์บูรณาการทำงานเชิงรุก นโยบายโลจิสติกส์เกษตร นโยบายอาหารแห่งอนาคต รวมทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการ22หน่วยงานเพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรและพัฒนาต้นน้ำการผลิตด้วยการเพิ่มผลิตภาพ(productivity)ลดต้นทุน การพัฒนาคนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน(Competitiveness)ของประเทศ
ผมจะเล่าให้ฟังโดยสังเขปว่า 2ปีมานี้ เราทำอะไรไปบ้าง ขอยกตัวอย่างเพียง 10 เรื่อง
1.เราจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(Agritech and Innovation Center)เรียกสั้นๆว่า ศูนย์AIC 77 จังหวัดเป็นฐานเทคโนโลยีของทุกจังหวัดและยังมีศูนย์AICประเภทศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน(Center of Excellence:COE)อีกกว่า20ศูนย์ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนา(R&D)และเป็นศูนย์อบรมบ่มเพาะเกษตรกรผู้ประกอบการและถ่ายทอดนวัตกรรมเน้นเมดอินไทยแลนด์(Made In Thailand)เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของเราเองโดยคิกออฟพร้อมกันทุกศูนย์ทุกจังหวัดทั่วประเทศเมื่อ1มิถุนายน2563 วันนี้มีเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมกว่า624ชิ้นงานพร้อมถ่ายทอดต่อยอดสู่แปลงนาแปลงสวนแปลงไร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่องกว่า7,000ราย
เราจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ(National Agriculture Big Data Center:NABC)ภายใต้แพลตฟอร์มดิจิตอลใหม่ๆที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)เริ่มตั้งแต่มีนาคม2563 เพราะเทคโนโลยีข้อมูล(Information Technology)คือเครื่องมือเอนกประสงค์ของทุกภารกิจและทุกหน่วยงานโดยกำลังเชื่อมต่อกับBig Dataของหน่วยงานรัฐ เอกชนและศูนย์AICทุกจังหวัด
เราปฏิรูปกระทรวงเกษตรฯ.ภายใต้คอนเซ็ปท์GovTechให้เป็นกระทรวงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี(TechMinistry)
22หน่วยงานในสังกัดกำลังพัฒนาตัวเองโดยโครงการดิจิตอล ทรานสฟอร์เมชั่น(Digital Transformation)เพื่อ เปลี่ยนบริการอนาล็อคเป็นบริการออนไลน์ เปลี่ยนการลงนามอนุมัติด้วยมือเป็นลายเซ็นดิจิตอล(Digital Signature) การเชื่อมโยงตามโครงการNational Single Window การบริการออนไลน์และแพลตฟอร์มแผนที่เกษตร(Agrimap)แบบmobile users
2.เราขับเคลื่อนฟาร์มอัจฉริยะ(smart farming)ตามแผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเช่น ระบบเซนเซอร์ตรวจวัดดินน้ำอากาศและการอารักขาพืช การปรับระดับพื้นแปลงเกษตร(Land Leveling) ระบบเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์(Sead Technology) ระบบชลประทานอัจฉริยะรวมทั้งการใช้โดรนการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและแพลตฟอร์มแผนที่เกษตรดิจิตอล(Agrimap platform)
3.เราริเริ่มโครงการใหม่ๆเช่นการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง(urban Farming)อย่างเป็นระบบเป็นครั้งแรกตอบโจทย์Urbanization(ประชากรไทยในเมืองมากกว่าในชนบทตั้งแต่ปี2562) การจัดตั้งสภาเกษตรอินทรีย์PGSแห่งประเทศไทย การขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์1.3ล้านไร่ การวางหมุดหมายแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่บนฐานศาสตร์พระราชาทุกตำบล การจัดตั้งองค์กรชุมขนประมงท้องถิ่น2พันองค์กร การฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทย การพัฒนาเกลือทะเลไทย การพัฒนาวัคซีนจากโปรตีนพืชสำหรับสัตว์ โครงการเกษตรแม่นยำ(Recision Agriculture)2ล้านไร่ โครงการพลังงานทดแทนโซล่ารถเซลล์ในฟาร์มกุ้งฟาร์มปลา โครงการธนาคารสีเขียว(Green Bank)ตอบโจทย์Climate Changeโดยเพิ่มต้นไม้ลดก๊าซเรือนกระจกโครงการCold Chainตลอดห่วงโซ่อุปทานและระบบแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลวแบบNitrogen Freezer เป็นตัวอย่าง
4.เราริเริ่มและขับเคลื่อนนโยบายอาหารแห่งอนาคต พืชแห่งอนาคต(Future Food Future Crop)เช่นการส่งเสริมโปรตีนทางเลือกจากพืช(Plant base Protein) มีบริษัทstartupเกิดขึ้นจำนวนมาก การสนับสนุนโปรตีนทางเลือกจากแมลง(Edible Inseat base Protein)ปัจจุบันมีกว่า2หมื่นฟาร์ม(FAOประกาศเมื่อ3ปีที่แล้วว่าแมลงกินได้Edible Insectคืออนาคตใหม่ของโปรตีนโลก)
เราเปลี่ยนวิสัยทัศน์และแนวทางใหม่โดยโฟกัสการผลิตและการตลาดใหม่แบบคลัสเตอร์เช่น คลัสเตอร์อาหารเจอาหารVeganและอาหารFleximiliamอาหารใหม่(Novel food) คลัสเตอร์อาหารฮาลาลซึ่งมีลูกค้ากลุ่มประชากรมุสลิมและไม่ใช่มุสลิมกว่า2พันล้านคน มูลค่าตลาด48พันล้านบาท และการส่งเสริมการตลาดแบบไฮบริดแพลตฟอร์ม(hybrid marketing platform)ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ทั้งออนไลน์ (on-line)ออฟไลน์(off-line)และออนไซต์(on-site)ด้วยโครงการLocal HeroทุกจังหวัดมีทีมE-Commerceรับผิดชอบเป็นต้น
5.เราได้วางโรดแม็ปเส้นทางโลจิสติกส์เกษตรเชื่อมไทยเชื่อมโลกในระบบการขนส่งหลายรูปแบบ(Multimodal Transportation)ทั้งทางรถทางรางทางน้ำและทางอากาศ(Low Cost Air Cargo)เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงตลาดทั่วโลกและตลาดเป้าหมายใหม่เช่น
โครงการดูไบคอริดอร์-ไทยแลนด์ คอริดอร์ (Dubai Coridor- Thailand Corridor),เส้นทางรถไฟอีต้าอีลู่(BRI)เชื่อมไทย-ลาว-จีนสู่จีนทุกมณฑล-เอเซียใต้-เอเซียตะวันออก-เอเซียกลาง-ตะวันออกกลาง-รัสเซียและยุโรป และกำลังเปิดประตูใหม่จากอีสานสู่แปซิฟิกไปทวีปอเมริกาเหนืออเมริกาใต้และเปิดประตูตะวันตกประตูใต้สู่ทะเลอันดามัน-อ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียสู่เอเซียใต้ อัฟริกา ตะวันออกกลางและยุโรป
6.เรากำลังปรับเปลี่ยนเกษตรแปลงย่อยเป็นเกษตรแปลงใหญ่(Big Farm)ซึ่งขณะนี้ขยายเพิ่มเป็นกว่า8,000แปลงเป็นพื้นที่รวมกว่า7ล้านไร่แล้วโดยมีการสนับสนุนเครื่องจักรกลเกษตรและระบบเกษตรอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
7.เราพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่เป็นyoung smart farmerได้กว่า 20,000คนและส่งเสริมพัฒนาศูนย์ศพก.เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ระดับอำเภอพร้อมกับยกระดับเกษตรกรที่มีประสบการณ์สู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพโดยร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
8.เรานำระบบทรัพย์สินทางปัญญา(Intellectual property)มาใช้ในการสร้างเกษตรมูลค่าสูงสร้างผลิตภัณฑ์สร้างแบรนด์ภายใต้แนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์(Creative Economy)โดยมีทีมงานรับผิดชอบโดยตรง
9.เราบริหารการพัฒนาเชิงพื้นที่(Area base)ควบคู่กับการบริหารการพัฒนาเชิงคลัสเตอร์เช่น โครงการ1กลุ่มจังหวัด1นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารทั้งหมด18กลุ่มจังหวัดเป็นศูนย์การแปรรูปผลผลิตเกษตรเพื่อกระจายการพัฒนาทุกภาคทุกจังหวัดไม่ให้เจริญแบบกระจุกตัวซึ่งก่อให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาโดยปี2565 รัฐมนตรีเกษตรฯ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรระดับอำเภอ878อำเภอทั่วประเทศและคณะทำงานเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล7,255ตำบลเพื่อสร้างจุดเปลี่ยนระดับพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
10.ความก้าวหน้าของงานแต่ละด้านเกิดจากการบริหารแบบเปิดกว้างสร้างหุ้นส่วน(Partnership platform)ในการทำงานกับทุกภาคีภาคส่วนเช่นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมต่างๆ สถาบันอาหาร มหาวิทยาลัยและวิทยาลัย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย เครือข่ายองค์กรเอกชน ทุกกระทรวงและทุกพรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล การยึดประโยชน์บ้านเมืองมาก่อนประโยชน์ทางการเมืองได้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจนำมาซึ่งความร่วมมืออย่างจริงจังและจริงใจ ประการสำคัญคือการทำงานอย่างทุ่มเทของคนกระทรวงเกษตรฯ.
งานหนักและอุปสรรครออยู่ข้างหน้าอีกมาก แต่ด้วยก้าวใหม่ๆตามโรดแม็ปที่วางไว้ เราเดินเข้าใกล้เป้าหมายในทุกก้าวที่กล้าเดิน
การปฏิรูปรากฐานใหม่ของภาคเกษตรกรรมเพื่อสร้างศักยภาพใหม่ให้กับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความพร้อมของประเทศในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆของวันนี้และวันหน้าเป็นอนาคตที่ต้องรีบสร้างโดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรไทยต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีรายได้สูงพ้นจากความยากจนและหนี้สินที่เสมือนเป็นโคลนติดล้อของชีวิตมาอย่างยาวนานและประเทศไทยของเราต้องเข้มแข็งและมั่งคั่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคนครับ
ยังมีเรื่องกระดุมอีกหลายเม็ดที่กลัดใหม่ไว้จะเล่าในโอกาสต่อๆไปครับ.

เกี่ยวกับผู้เขียน:
นายอลงกรณ์ พลบุตร
รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์
ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.
อดีตรมช.พาณิชย์ อดีต ส.ส.6สมัย
ที่ปรึกษาสันนิบาตสหกรณ์ฯ.

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ทรงประทานไฟพระฤกษ์หลวงพ่อใหญ่วัดม่วง

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก
ทรงประทานไฟพระฤกษ์ หน้าพระประธาน
หลวงพ่อใหญ่วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง

โดยมี "อาจารย์มังกร พันเศียร"และคุณ วรัชยา วงษ์ธัญญะ พร้อมครอบครัว ประธานในพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ในครั้งนี้…สาธุ🙏🏻🙏🏻
และยังได้รับเกียรติจากอาจารย์ คฑา ชินบัญชร อาจารย์ โอ๊ก นายอำเภอ วิเศษชัยชาญ นายไพบูลย์ ศุภบุญ หน่วยงานราชการต่างๆ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย….สาธุ cr.พี่บอล์ ว่าที่ ร.ต.ธนัท ชัชวาลย์ 

เตรียมงานนิทรรศการ “พระเครื่องพระบูชา”ตรวจมวลสารแบบดิจิทัตโลกอนาคต

เตรียมงานจัดนิทรรศการ “การประกวดพระเครื่องครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” การตรวจมวลสารหน้าพระผ่านเครื่อง ที่ทันสมัยแบบดิจิทัลทันโลกอนาคต จากประเทศ สหรัฐฯ ทัต เมืองชล จัดเต็ม ให้เซียนพระได้รู้แจ้งเห็นจริง บนจอภาพแยกมวลสารชัดๆอย่างละเอียด ในองค์พระทุกยุคสมัยมาพิสูจน์หาพระแท้ได้ที่ตลาดนินจา จ.ชลบุรี เร็วๆนี้

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ส่งมอบความสุขต้อนรับปีเสือ เสิร์ฟอาหารเช้ามื้อแรกของปีให้แก่ผู้โดยสารทั้ง 13 สถานี

วันที่ 1 มกราคม 2565 บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดกิจกรรมสุดพิเศษ ส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ให้แก่ผู้โดยสาร โดยคุณสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด พร้อมทีมอินฟลูเอนเซอร์ นำโดย

เกรซ นรินทร มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ทูตกรมสุขภาพจิต , โจ-โจ้ คู่แฝดคนขับรถไฟฟ้าโปรไฟล์พรีเมี่ยมสุดฮอตที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ และเน็ตไอดอลรวม 13 คน ออกเสิร์ฟอาหารเช้ามื้อแรกของปี ให้แก่ผู้โดยสารทั้ง 13 สถานี ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง