สมาคมส่องพระแท้เมืองสยาม จัดประกวดพระเครื่องอย่างยิ่งใหญ่ รวมคนเด่นคนดังใน วงการพระมาครบ “ชี้ตำหนิชัดแยกพระเด่นคนดังมอบถ้วยรางวัลอาทิ” อ.นุส่องพระแท้เมืองสยาม,อ.โกร่ง ศรีสวัสดิ์ เจ้ากรมแห่งพระท่ากระดาน เป็นกรรมการตัดสินชี้ขาดพระประกวดครั้งนี้ไม่ผิดหวังแฟนพันแท้ใน
วงการพระเตรื่องเมืองสยามอย่างแน่นอน…!!!

และยังพบกับการมาบันทึกเทปเสียงสัมภาษณ์ของช่อง “อมรินทร์ทีวี” ในงานประกวดวันที่ 28 มี.ค 2564 ณ TOT ถ.แจ้งวัฒนะ

************

สาธิตศิลปากร นครปฐม.

จัดสอบแข่งขันเข้าเรียนม.1.

เมื่อวันทึ่21มี.ค.2654 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร (ระดับมัธยม) จ.นครปฐม ได้จัดให้มีการสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนในระดัยชั้น ม.1 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิท-19) ระลอกสอง ส่งผลต่อการเรียนการศึกษาในวงกว้าง ซึ่งนครปฐมพบผู้ตืดเชื้อจำนวนมาก

ทำให้ทางสาธิตม.ศิลปกร ต้องเลื่อนการสอบออกไป และกลับมาสอบได้ในวันทึ่21 มี.ค.64 นี้ โดยกำหนดให้มีสนามสอบถึง 5 แห่งดังนี

1.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร
2.ตึก 50 ปีคณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร3.ตึกไทยประกัน 4.ร.ร.สุธีธร และ5. ร.ร.วัดใหญ่

ทั้งนี้ทางโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากรได้มีการวางมาตรการความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งยึดหลักเอาตัวเด็กนักเรียนสำคัญที่สุด และเด็กนักเรียนทุกคนที่เข้ามาสอบต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคน ตลอดเวลาที่ทำข้อสอบจะต้องล้างมือด้วยแอลกฮอลล์เจล นอกจากนี้ทางผู้จัดสอบยังห้ามไม่ให้ผู้ปกครอเข้ามาที่สนามสอบ ลดความแออัดและสนามสอบ

นอกจากนี้ทางสนามสอบทั้ง 5 แห่ง จะต้องปิดแอร์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อทำให้เด็กๆต้องทนร้อน หลายคนทำข้อสอบไป เอาผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อ เพราะร้อนมาก ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมของ ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) 
อ.ดวงนภา ศรีนันทวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร (ระดับมัยม) เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า ตั้งแต่เป็น ผอ.มา ครั้งนี้วิกฤติที่สุด หนักกว่ารอบแรกมาก ซึ่งนครปฐม พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากทั้งตัวเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครอง ส่งผลให้การสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ล่าช้าออกไปซึ่งไม่สามารถเลื่อนออกไปได้อีกแล้ว วิกฤติไวรัสโคโรน่า ทำให้เราต้องสู้กับมัน ต้องเผชิญและอยู่กับมันอีกนาน ถึงแม้จะมีวัคซีนต้านแล้วก็ตาม เราห่วงความปลอดภัยของเด็กๆเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอให้ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน รวมทั้งคุณครู จะร่วมกันฝ่าวิกฤติไวรัสโคโรน่าไปด้วยกัน

***********

นายชัยยศ ศิริสวัสดิ์ ประธานชมรมช่างภาพการเมือง ร่วมกับเครือข่ายจิตอาสารัฐสภา

 ชมรมช่างภาพการเมืองและพันธมิตร ห่วงใยอนาคตของชาติ ขอทำดีตามรอยพ่อ จัดกิจกรรม “รักลูก ห่วงใย ปลอดภัยต้องใส่หมวก” ในโครงการ  “หนูน้อยขับขี่ปลอดภัย”

21 มี.ค. 64 เวลา 09.30 น. ณ ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

นายชัยยศ ศิริสวัสดิ์ ประธานชมรมช่างภาพการเมือง ร่วมกับเครือข่ายจิตอาสารัฐสภา ทำดีตามรอยพ่อ และโครงการการสื่อสารนโยบายสาธารณะเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะที่ดี ภายใต้ สสส. จัดกิจกรรม “รักลูก ห่วงใย ปลอดภัยต้องใส่หมวก”

โดยมี นางอุไร อินทร์ปฐม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนครชัยศรี กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดกิจกรรม น.ส.เพ็ญพยอม เทพีรัตน์ หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนครชัยศรี กล่าวรายงาน ในการนี้ คณะครู อาจารย์ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดกลางบางแก้วและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกลาง ให้การต้อนรับ ทั้งนี้

นายชัยยศ ศิริสวัสดิ์ และคณะ ได้มอบหมวกนิรภัย ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากมูลนิธิเมาไม่ขับ ให้แก่เด็กนักเรียนเตรียมอนุบาลของศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดกลางบางแก้วและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกลาง สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลนครชัยศรี จ.นครปฐม สำหรับสวมใส่เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “หนูน้อยขับขี่ปลอดภัย” ที่ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดกลางบางแก้วจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้เด็กนักเรียนสวมใส่หมวกนิรภัย เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดกับเด็กบนท้องถนน และให้เด็ก ๆ ระมัดระวังในการเดินทางบนท้องถนน พร้อมกันนี้ ได้มอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สายคล้องหน้ากาก และสิ่งของอื่น ๆ ให้แก่เด็กนักเรียน นอกจากนี้ ได้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยในการใช้รถใช้ถนน โดย นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ภายใต้ สสส.ด้วย

รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อ โควิด-19


ณ วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2564

🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 27,803 ราย
(เพิ่มขึ้น 90 ราย)
-เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น 45 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อที่กลับจากต่างประเทศใน Quarantine เพิ่มขึ้น 9 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 36 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจาก
การตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 15,448 ราย)

เสียชีวิตรวม 90 ราย (วันนี้ไม่มีรายงาน
ผู้เสียชีวิต)
รักษาหายป่วยแล้ว 26,598 ราย(95.67%)
(มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 86 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,115 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ
45 ราย มีรายละเอียดดังนี้
จาก กรุงเทพฯ(16) สมุทรสาคร(15) เพชรบุรี(6) ปทุมธานี (4) นครปฐม(2) ราชบุรี(1) สมุทรปราการ(1)

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทาง
มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 9 ราย
และเข้า Quarantine โดยเข้ารับ
การรักษาที่กรุงเทพ(8) และ ชลบุรี(1) มีรายละเอียดดังนี้

  • จากประเทศสาธารณรัฐเซอร์เบีย 1 ราย
  • จากประเทศญี่ปุ่น 1 ราย
  • จากประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย
  • จากประเทศฟิลิปปินส์ 2 ราย
  • จากประเทศเยเมน 1 ราย
  • จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย
  • จากประเทศซูดาน 1 ราย
  • จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย

🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้

  • ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 123 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 2.7 ล้านราย
    (คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ)
    ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 99 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 80.5)
  • สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 55,908 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 554,871 ราย
  • อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 11.5 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 43,815 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 11 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97
  • ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 116 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 151 ของโลก

🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้

  • เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 142,212 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 11 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,204 ราย
  • มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 331,713 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่
    อยู่ที่ 1,671 ราย
  • กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 1,632 ราย
    มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 3 ราย
  • ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 49 ราย
    โดยกำลังรักษาอยู่ 4 ราย
  • เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 1 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 35 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค
และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรม
การแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม

**************************************

TCEB ร่วมพันธมิตรไทย – จีน จัดงานสัมมนา GTEC

เชื่อมผู้ประกอบการกับ Platform E-Commerce จีน
ช่วยผู้ประกอบการช่วงโควิด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของวิกฤติไวรัสโควิด ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อตลาดในประเทศและต่างประเทศเกิดการหดตัวลงอย่างรุนแรง มีเพียงหนึ่งประเทศที่สามารถฟื้นตัวจากวิกฤติได้อย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งยังรักษาเสถียรภาพของกำลังซื้อจากตลาดภายในที่สูงไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความต้องการซื้อสินค้าจำนวนมากจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำลังซื้อบน Platform E-Commerce นั้นคือ กำลังซื้อจากตลาดจีน สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เล็งเห็นถึงโอกาสในการช่วยเหลือและแนะแนวให้แก่ผู้ประกอบการ ได้มีโอกาสต่อยอดการพัฒนาสินค้าและเจรจาจับคู่ทางการค้ากับตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพจากจีน จึงได้ร่วมกับพันธมิตรเกิดเป็นโครงการประชุมสัมมนานานาชาติเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ GTEC งานสัมมนาจับคู่ทางการค้าเชื่อมโยงสินค้าและบริการของไทยและของประเทศ CLMV กับ Platform E-commerce จากจีน เพื่อเป็นการต่อยอดในการเพิ่มช่องทางขายและช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์โควิด

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวว่า โครงการประชุมสัมมนาฯ GTEC เกิดขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้กลไก MICE ในการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวและ MICE บนระเบียงเศรษฐกิจ GMS สู่การเชื่อมโยงในรูปแบบระเบียงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Corridor) โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงสินค้าและบริการต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าและบริการจากชุมชนจากทั่วประเทศรวมถึงประเทศในกลุ่ม CLMV เข้ากับ Platform Ecommerce จากจีน โดยการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรภาครัฐของไทย อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงภาคเอกชนภายใต้สังกัดกระทรวง และ Platform E-Commerce รายใหญ่จากจีน อาทิ Qizuan Zhixin (Tianjin)
Tiktok, TMall, Taobao, Kuaishou, Pinduoduo และ udo
สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้ จะจัดขึ้นในรูปแบบของ Hybrid ระหว่างวันที่ 19 – 22 มีนาคม 2564 ซึ่งจะมีการถ่ายทอด Online ให้ผู้ประกอบการได้รับชมตลอดทั้งงาน โดยจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มีนาคม ณ C ASEAN โดยภายในงานจะมีกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ “มุมมองและโอกาสของผู้ประกอบการกับการเชื่อมโยงการค้า Online บน Platform E-commerce ภายใต้สถานการณ์ COVID-19” การบรรยายหัวข้อ “China Before and After COVID-19” การเสวนาหัวข้อ “มุมมองโอกาสปัญหาและอุปสรรคของสินค้าและบริการสู่ตลาด E-commerce ” การแบ่งห้องสัมมนา Online ใน 5 หมวดอุตสาหกรรม ได้แก่ Food, Non – Food, Health & Beauty, Souvenir และ Travel & Mice เพื่อสร้างการรับรู้ถึงพฤติกรรมและความต้องการในการบริโภคสินค้าและบริการ รวมไปถึงการแนะแนวทางการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และองค์ประกอบต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมความต้องการบริโภคของตลาดจีน หลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด การนำเสนอ Platform E-commerce จากจีน ได้แก่ Qizuan Zhixin (Tianjin) Tiktok, TMall, Taobao, Kuaishou, Pinduoduo และ udo รวมไปถึงกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางการค้าและ Clinic ให้คำปรึกษา Platform E – Commerce จากจีน โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนเข้าฟังฟรี ในวันที่ 19 – 22 มีนาคม 2564 ผ่านทางเว็บไซต์ www.gtecstoreonline.com

โครงการประชุมสัมมนาฯ GTEC ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือและแนะแนวให้แก่ผู้ประกอบการ ในช่วงสถานการณ์โควิด ได้มีโอกาสใช้เป็นช่องทางในการขาย รวมถึงต่อยอดการพัฒนาสินค้าและเจรจาจับคู่ทางการค้ากับตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและมีศักยภาพจากจีน รวมถึงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่สินค้า บริการ ทั้งสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ รองรับการกลับมาของกลุ่มเป้าหมายจากจีนหลังสถานการณ์โควิดกลับเข้าสู่สภาวะคลี่คลายลง จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์เพื่อฟังการแนะแนวทางการปรับปรุงสินค้าและบริการ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการของสินค้าและบริการของผู้ซื้อกำลังซื้อสูงจากตลาด E-Commerce จีนสำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ www.gtecstoreonline.com โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
คุณพิชามญชุ์ สมานวรศักดิ์ (พีเจ้น) โทร 090-570-0447 อีเมล์ phichamon@notablebkk.com
คุณไอยย์รัศ สิทธิพูล (โน้ต) โทร 095-964-6987 อีเมล์ aiyaras@notablebkk.com

*******************************************************************************************************

ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

รายงานข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2564

คุณภาพอากาศโดยรวมของพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ณ เวลา 7.00 น. อยู่ระหว่าง 10 – 40 ug/m3
แต่อย่าลืมสวมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง

DustBoy #pm2_5

ที่มา : รายงานค่าฝุ่น PM2.5 (ug/m3) จากจุดติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น DustBoy

ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://pm2_5.nrct.go.th

รายงานข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ วันเสาร์ที่ 20 มีทนาคม 2564

รายงานข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2564

ณ เวลา 16.00 น. คุณภาพอากาศโดยรวมของพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ในระดับปานกลาง อย่าลืมสวมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง

DustBoy #pm2_5

ที่มา : รายงานค่าฝุ่น PM2.5 (ug/m3) จากจุดติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น DustBoy

ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://pm2_5.nrct.go.th

พระท่ากระดานทีสุดของพระเบญจภาคีเนื้อชิน

เปิดบันทึกเบื้องลึกพระท่ากระดานทีสุดของพระเบญจภาคีเนื้อชิน ถูกสร้างขึ้นในสมัยอู่ ทอง แบบองค์พระมีลักษณะนูนมีภาพด้านหน้าเพียงด้านเดียว ส่วนด้านหลังแบนเรียบ
พุทธลักษณะของพระเป็นปางมารวิชัยขัดราบ มีสังฆาฏิแบบสี่เหลี่ยมกว้าง หนา ยาว จรดลงมาถึงบริเวณส่วนพระหัตถ์ซ้าย ส่วนฐานจะเรียกว่า “สำเภา” อันเป็นเอกลักษณ์ของพระเครื่องสมัยอู่ทอง พระเกศมีลักษณะยาว ใบหน้าองค์พระลึกมีแววยิ้มแบบเคร่งเครียด
พระท่ากระดานที่ขุดได้จาก กรุลั่นทม กรุวัดวัดล่าง วัดกลาง วัดบน อยู่ในเขตอ.ศรีสวัสดิ์ นิยมเรียกว่า “พระกรุเก่าศรีสวัสดิ์” เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดง ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาพระท่ากระดาน และพระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์ ยังเป็น1ใน5ของพระเบญจภาคียอดขุนพลเนื้อชิน ซี่งประกอบด้วย
1.พระร่วงรางปืน

  1. พระท่ากระดานกรุศรีสวัสดิ์
  2. พระลพบุรีหูยาน
  3. พระมเหศวร
  4. พระชินราชใบเสมา
    พระท่ากระดานกรุเก่าศรีสวัสดิ์มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของวงการพระเครื่องมาอย่างช้านาน

(วช.) ยกย่อง ศ.ดร.เกศรา ณ บางช้าง เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์เคมี และเภสัช ประจำปี 2564

(วช.) ยกย่อง ศ.ดร.เกศรา ณ บางช้าง เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์เคมี และเภสัช ประจำปี 2564

วันที่ 19 มีนาคม 2564 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์จัดการความรู้การวิจัย อาคาร (วช.) 1 ชั้น 1 : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดกิจกรรมแถลงข่าว เรื่อง “กิจกรรมเปิดบ้านงานวิจัยและนวัตกรรม By NRCT (In-House): 1 ในนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2564 (ครั้งที่ 3)” เพื่อเชิดชูเกียรตินักวิจัยไทยที่มีผลงานโดดเด่น สร้างคุณูปการให้กับวงวิชาการและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการสร้างแรงจูงใจของนักประดิษฐ์ และนักวิจัยในอันที่จะพัฒนานวัตกรรมทางความคิด และภูมิปัญญาที่เป็นประโยชน์ สร้างความก้าวหน้าในศาสตร์แขนงต่างๆ ซึ่งในวันนี้ (วช.) ได้มีการเปิดตัว 1 นักวิจัย ผู้ที่ได้รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2564 จากจำนวน 7 ท่าน ใน 5 สาขา ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.เกศรา ณ บางช้าง ซึ่งเป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์เคมี และเภสัช ประจำปี 2564

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า (วช.) มอบรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ให้กับศาสตราจารย์ ดร.เกศรา ณ บางช้าง เพราะเป็นนักวิจัยที่มีความคิดริเริ่ม และอุทิศตนเพื่องานวิจัย อย่างต่อเนื่อง สร้างองค์ความรู้การวิจัยที่สำคัญทางเภสัชวิทยาของโรคมาลาเรียและโรคมะเร็งท่อน้ำดี เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันงานวิจัยทางด้านมาลาเรียในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

โดยมีนักวิชาการและนักวิจัยทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศให้ความสนใจ ติดตาม และนำผลงานวิจัยไปศึกษาวิจัยต่อยอด เช่น งานวิจัยทางเภสัชจลนศาสตร์ งานวิจัยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากองค์กรการวิจัย ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการวิจัยโรคมาลาเรีย และมะเร็ง ท่อน้ำดี รวมถึงองค์การระดับนานาชาติ เช่น องค์การอนามัยโลก (UNDP World Bank Special Program for Research and Training in Tropical Diseases: WHO/TDR)

ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานงานและฝึกอบรมด้านการวิจัยคลินิกขององค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก ตลอดจนให้บริการทางวิชาการแก่นักวิจัยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในการให้ความรู้ และฝึกอบรม รวมทั้งการตรวจสอบและประเมินโครงการวิจัยในคนที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการวิจัย จึงคู่ควรแก่การได้รับรางวัล

รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ เป็นรางวัลที่มอบให้นักวิจัยที่มีสัญชาติไทย ซึ่งได้อุทิศตนให้แก่การวิจัยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือหลายเรื่องในกลุ่มวิชาการหรือสหวิทยาการอย่างต่อเนื่อง มีผลงานวิจัยดีเด่นที่แสดงถึงความคิดริเริ่ม เป็นผลงานวิจัยที่ทำสะสมกันมาไม่น้อยกว่า 5 ปี และเป็นผู้ที่มีจริยธรรมของนักวิจัยจนเป็นที่ยอมรับและยกย่องในวงวิชาการนั้นๆ โดยผลงานวิจัยสร้างคุณูปการและเกิดประโยชน์ในเชิงวิชาการ เชิงเศรษฐกิจ เชิงชุมชน สังคม และเชิงนโยบายอย่างต่อเนื่อง สมควรเป็นแบบอย่างแก่นักวิจัยรุ่นหลังได้

นักวิจัยที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ จะได้เหรียญรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ พร้อมประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติคุณ และเงินรางวัลในงานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2564 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–30 พฤษภาคม 2564 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน