วช. ชวนเยาวชนมาเป็น “Young Green Heroes” ฮีโร่ยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ในงานมหกรรมวิทย์ฯ 2564

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดกิจกรรม “Young Green Heroes” ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2564

พร้อมเชิญชวนน้อง ๆ เยาวชน มาเปิดจินตนาการด้านศิลปะ ร่วมกับความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมเพนท์กระถางต้นไม้จากขยะพลาสติกในทะเล และประกวดออกแบบหน้ากาก “Hero Mask Contest” ลุ้นรับของรางวัลมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 9-19 พฤศจิกายน 2564 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ในฐานะหน่วยงาน ขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรม หนึ่งในพันธกิจที่สําคัญ คือ การแก้ปัญหาท้าทายและยกระดับการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการเกษตร ดังนั้น เพื่อให้กิจกรรมสอดคล้องกับการ ดําเนินงานของ วช.

นโยบายและยุทธศาสตร์ อววน. พ.ศ. 2563 – 2570 ที่มุ่งเตรียมความพร้อม ในการสร้าง และพัฒนาทักษะกําลังคนของประเทศให้มีคุณภาพ และนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสําคัญกับ BCG Economy Model วช. จึงได้เน้นส่งเสริมและถ่ายทอด Green Economy โดยมุ่งหวังให้เยาวชนรับรู้ เข้าใจถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น และทราบถึงแนวการปฏิบัติดูแลรักษา และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรม “Young Green Heroes” ทั้งในรูปแบบ Onsite & Online ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และวิถีชีวิตยุคใหม่ New normal

สำหรับกิจกรรม ภายใต้ Theme “Young Green Heroes” ฮีโร่ยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม วช. ต้องการปลุกความเป็นผู้พิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเยาวชน ประกอบไปด้วย กิจกรรมตอบคำถาม (Find your hero) กิจกรรมประกวดออกแบบหน้ากากผ้าออนไลน์ (Hero mask Contest) โดยออกแบบและโพสต์ลงFacebook พร้อมเปิดเป็นสาธารณะ ระบุ Caption บอกแนวคิด และชื่อ-นามสกุล ติด Hastag #ฮีโร่ยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม #วช ลุ้นรับ IPAD Gen 9 และ Xiaomi redmi note 10 5G และกิจกรรมเพนท์กระถาง และปลูกต้นไม้ (Hero Workshop) พร้อมนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมใน 4 เรื่อง อาทิ นิทรรศการ“ปีศาลจิ๋ว PM2.5” เพื่อให้เยาวชนและผู้ที่สนใจ สามารถนำไปใช้ได้จริง และเพื่อพัฒนาประเทศให้ยั่งยืนต่อไป

“ศวฮ.” นำทีมประชุมสมัชชาใหญ่ของสถาบันมาตรฐานและมาตรวิทยาของประเทศอิสลามขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ

พร้อมไทยเป็นพี่เลี้ยงพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล
ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) โดย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผอ.ศวฮ.นำทีมตัวแทนประเทศไทย พร้อมด้วย รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผอ.สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย, ดร.มุหัมหมัดอามีน เจ๊ะนุ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และดร.อาณัฐ เด่นยิ่งโยชน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศวฮ. เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 16 สถาบันมาตรฐานและมาตรวิทยาของประเทศอิสลาม (Standards and Metrology Institute for Islamic Countries - SMIIC) ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย พร้อมเข้าพบ เจ้าชายมัมดูฮฺ บิน ซาอูด บิน ซูนัยญาน อาล ซาอูด อธิการบดีมหาวิทยาลัย Islamic University of Madinahอีกทั้งยังได้เข้าพบหารือกับ องค์กรอาหารและยาของประเทศซาอุดีอาระเบีย (Saudi Food and Drug Authority หรือ SFDA)และสภาหอการค้าเมืองเจดดาห์ (Jeddah Chamber)หารือเรื่องความร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล  ในฐานะประเทศไทยมีศักยภาพเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลหวังพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้ดีขึ้นเป็นปกติเช่นเดิม

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณและแนวโน้มที่ดีสำหรับไทยกับซาอุดีอาระเบีย เพราะจากการเดินทางไปซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ ในฐานะคณะผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 16สถาบันมาตรฐานและมาตรวิทยาของประเทศอิสลาม (Standards and Metrology Institute for Islamic Countries – SMIIC)ภายใต้องค์การ OIC ซึ่งมีสมาชิก 42ประเทศกับประเทศผู้สังเกตการณ์ 3ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทยณ นครมะดีนะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยองค์การมาตรฐานของซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia Standards Organization -SASO) เป็นเจ้าภาพของการประชุมเจ้าภาพการประชุมในครั้งนี้

นอกจากนี้ทางคณะได้เข้าพบ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลามแห่งมะดีนะฮฺ (Islamic University of Madinah หรือ IUM)ในประเด็นเรื่องความร่วมมือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เสนอความก้าวหน้าด้านงานวิจัย การใช้ห้องปฏิบัติการในการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ฮาลาล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการทวนสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลฮาลาลวัตถุดิบ (H number) ให้แก่ทีมอธิการบดีและรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัย

และนายสรจักร บูรณะสัมฤทธิ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้นำคณะผู้แทนประเทศไทย เข้าพบหารือกับ องค์กรอาหารและยาของประเทศซาอุดีอาระเบีย (Saudi Food and Drug Authority หรือ SFDA) และหอการค้าเมืองเจดดาห์ (Jeddah Chamber)โดยประเด็นการหารือทั้ง 2 หน่วยงานจะเน้นในเรื่องความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง 2 ประเทศในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ซึ่งในอนาคตอาจมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรในการสร้างความร่วมมือกันระหว่าง 2 ประเทศ และได้เสนอเรื่องการทำหลักสูตรอบรมด้านห้องปฏิบัติการให้แก่หน่วยงาน Halal center ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของ SFDA สามารถส่งบุคลากรมาอบรมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ เนื่องจาก ศวฮ.นั้นมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลจากการได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำมาตรฐานของ SMIIC อีกทั้งยังมีประสบการณ์ด้านงานวิทยาศาสตร์ฮาลาลมามากกว่า 20 ปี

นอกจากนี้SFDA ยังได้เพิ่มชื่อ CICOT เป็นสมาชิกในฐานะเป็นหน่วยงานรับรองฮาลาล ส่งผลให้เครื่องหมายรับรองฮาลาลของประเทศไทยผ่านหลักเกณฑ์ที่หน่วยงาน SFDA กำหนด ทำให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศซาอุดิอาระเบียได้ ในส่วนของการเข้าพบหอการค้าเมืองเจดดาห์ ทางสมาชิกสภาหอการค้าพิจารณาว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในเรื่องทรัพยากรอาหาร อุตสาหกรรมการเกตษตร หากมีการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศสู่ระดับปกติ ประเทศไทยจะเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของซาอุดีอาระเบียนับว่าเป็นแนวโน้มอันดีในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้ดีขึ้นเป็นปกติเช่นเดิมรศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

รมว.ยุติธรรม แจงยกเลิกบัตร ป.ป.ส. 7,000 ราย

 เพราะไม่รายผลงานตามระเบียบ และพบบางรายใช้ไม่เหมาะสม เผยเตรียมอบรมเพื่อแต่งตั้งใหม่หลังประมวลกฎหมายยาเสพติดจะมีผลบังคับใช้ เหตุอำนาจหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการยกเลิกบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.กว่า 7,000 รายว่า ตนได้รับรายงานจาก ป.ป.ส. ว่าเป็นการยกเลิกบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ของบุคคลที่ไม่ปรากฏผลการปฏิบัติงาน ในการใช้อำนาจตามบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา และเป็นการยกเลิกบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ของบุคคลที่ปรากฏผลการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อานาจที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ ป.ป.ส. ว่าด้วยการแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าที่และการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พ.ศ. 2545 นอกจากนี้เป็นการยกเลิกบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จากเหตุเกษียณอายุราชการ เสียชีวิต และไม่ต่ออายุบัตรเจ้าพนักงาน เกินกว่า 6 เดือน โยกย้าย พ้นจากตำแหน่งหรือหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการที่มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 9 ธ.ค. 2564 อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จะเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการดำเนินคดียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดก็มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายประการ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เตรียมการสำหรับการฝึกอบรม พัฒนาความรู้ความสามารถเพื่อเพิ่ม ทักษะและความเชี่ยวชาญให้กับผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามกฎหมายใหม่ โดยเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่ยังคงมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่และมีผลการปฏิบัติงานอยู่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและมีความพร้อมในการปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติด จะเป็นเป้าหมายที่จะพิจารณา ร่วมกับต้นสังกัด เพื่อที่อบรมพัฒนาและแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามกฎหมายใหม่ต่อไป

อว. ปลื้ม การแสดงศิลปดนตรีเพลงพื้นบ้าน ผ่านวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศได้

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ชมการแสดงดนตรี “ไหว้สาบูรพาจารย์”
ถ่ายทอดเสียงเพลงพื้นบ้าน ผ่านการแสดงของวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า ณ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่

 โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนที่สนใจเข้าชมการแสดง 
  • ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กล่าวว่า การจัดแสดงดนตรีต่อยอดนวัตกรรมเพลงพื้นบ้านเพื่อเผยแพร่ให้เป็นมรดกของชาติ จัดแสดงทั้งหมด 5 ครั้ง จากเดิมที่ตั้งใจนั้นจะจัด 8 ครั้งแต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ต้องจัดเพียง 5 ครั้ง
ขอชื่นชม รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข ที่นำวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้าจัดแสดงให้ชม
สุดท้ายที่จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นการจบการแสดงที่สวยงาม จากนี้ไปจะเป็นโครงการอื่น ๆ
 ที่รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข ได้เสนอไว้อีกหลายโครงการ ชึ่งการบรรเลงเพลงของรองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข เป็นดนตรีที่มีคุณภาพสูงมากทำให้เข้าใจความเป็นมาของเพลงและเข้าใจถึงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมได้อย่างสนุกและเพลิดเพลิน ซึ่งการจัดแสดงแต่ละครั้งมีดนตรีพื้นบ้านมาร่วมจัดแสดงด้วย
ในส่วนของ อว. มีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างมาก ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม อว. 

ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ อว. ได้ช่วยทำการวิจัยโดยการนำเพลงพื้นบ้านมาใส่ใน วงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า ก็ถือเป็นการวิจัยอย่างหนึ่ง และก่อนหน้านี้ตนเองได้เดินทางไปที่คุ้มบุรีรัตน์ก็ได้เห็นว่า อว. และ วช. สนับสนุนทุนวิจัยในการฟื้นฟูคุ้มบุรีรัตน์ได้สวยงามขึ้นมาก ในส่วนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ อว. ได้มีการทำเรื่องล้านนาสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้น อว. ไม่ใช่แค่สอนหนังสือ ไม่ใช่แค่ทำวิจัยและนวัตกรรม แต่ อว. นำนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ สถาปนิก ไปสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ให้กับประเทศ หรือสร้างเศรษฐกิจเชิงวิทย์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในประเทศ

สำหรับการพัฒนาการต่อยอดในพื้นที่อื่น ๆ
ที่มีเพลงพื้นบ้าน คิดอยู่และกำลังริเริ่มทำอยู่โดยได้สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยราชภัฎทั่วทุกแห่งมีวงดนตรี วงดนตรีแบบไหนก็ได้ เล่นเพลงพื้นบ้านที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอยู่ก็ได้ อยากให้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ราชการส่วนภูมิภาค และหอการค้า

ทำให้ทุกที่มีดนตรีที่เกิดความเข้มแข็งทางศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องมีเพราะว่าแต่เศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมช่วยนำรายได้สูงมาให้แก่ประเทศ ส่วนจะให้มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดใดเป็นจังหวัดนำร่อง เรื่องนี้ที่ต้องพูดคุยหารือกันอีกครั้งและในส่วนที่จังหวัดลำปางก็ได้มีการพูดคุยกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎลำปางแล้วซึ่งก็สนใจมากและผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางก็พร้อมที่จะสนับสนุน อีกด้วย

ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้กับโครงการขยายผลต่อยอดนวัตกรรมเพลงพื้นบ้านเพื่อเผยแพร่ให้เป็นมรดกของชาติของ “มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข” ซึ่งดำเนินการโดย รองศาสตราจารย์.ดร.สุกรี เจริญสุข ในการวิจัยเพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยการค้นหาเพลงเก่าของชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาเรียบเรียงใหม่ พร้อมเล่นผ่านวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า เพื่อรักษาเพลงเก่า นำมาเสนอในรูปแบบใหม่ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเสริมสร้างสิ่งใหม่บนรากฐานสิ่งเก่า เพื่อรักษาเสถียรภาพและอัตลักษณ์ของสังคมไทยให้สืบทอดและคงอยู่ต่อไป

การแสดง “ดนตรีไหว้สาบูรพาจารย์” เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่ และการบูชาอาจารย์ ผ่านบรรเลงดนตรีโดยวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า โดยเริ่มจากเพลงกุหลาบเชียงใหม่ เพลงลาวดวงดอกไม้ เพลงลาวจ้อย เพลงคางคกปากสระ และลาวเจริญศรี อำนวยความสะดวกโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข ควบคุมวงโดย พันเอก ดร.ประทีป สุพรรณโรจน์ ระหว่างการบรรเลงเพลง ดร.สุชาติ วงษ์ทอง ได้สร้างสรรค์ภาพจิตรกรรมประกอบบทเพลง การแสดงดนตรีฯ จัดให้เข้าชมในจำนวนที่นั่งตามข้อกำหนดการป้องกันโควิด-19 และการแสดงครั้งนี้ใช้วิธีถ่ายทำโดยบันทึกภาพและเสียงเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อโทรทัศน์

การแสดง “ดนตรีไหว้สาบูรพาจารย์” เป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่

อว. ร่วมกับ กอ.รมน. เสริมสร้างความเข้มแข็งวิสาหกิจชุมชนด้วยวิจัยและนวัตกรรม มอบเครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มอบนวัตกรรมเครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน ให้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร และวิสาหกิจชุมชนข้าวทิพย์ช้าง จังหวัดลำปาง เพื่อไว้ใช้งาน และส่งเสริมความเข้มแข็งเศรษฐกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร

  • โดยมี นายอนวัช สัตตยบุศย์ ปลัดจังหวัดลำปาง ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. จังหวัด กล่าวต้อนรับ นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) (ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ) ให้กล่าวรายงาน ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร หมู่ 4 ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า นวัตกรรมเครื่องอบแห้งฯ ดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จที่นักวิจัยไทยสามารถผลิตได้เอง 

โดยได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำมามอบให้เกษตรกรในพื้นที่ ตำบลพิชัย จังหวัดลำปาง นำไปใช้ประโยชน์แล้ว และขณะนี้ มีบริษัทเอกชน รับไปผลิตต่อและจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศด้วย ซึ่งส่วนตัวรู้สึกดีใจมาก พร้อมยังชี้ให้ประชาชนได้เห็นว่า รัฐบาลพร้อมที่จะเข้ามาช่วยและแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ระยะปานกลางและระยะยาว ทั้งนี้ จะเห็นว่าเกษตรกรที่นำเครื่องอบแห้งฯ ไปใช้ล้วนเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มีความรู้เกี่ยวข้องด้านการเกษตร มาช่วยกันทำเป็นวิสาหกิจชุมชน และถือเป็นยุคใหม่ของเกษตกรรมในประเทศ

ส่วนผลการดำเนินโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือโครงการ U2T ส่วนใหญ่แล้วอยากให้มีการต่อยอดโครงการในระยะต่อไป เนื่องจากการทำงานร่วมกับชุมชน ก่อให้เกิดวิสาหกิจชุมชน มีผลิตภัณฑ์ต้นแบบของชุมชน ทำให้ชาวบ้านพอใจ และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชุมชนต่างได้รับความรู้มากขึ้น

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม ผ่านการดำเนินงานของศูนย์ประสานการปฎิบัติที่ 1-5 ในวันนี้ วช. ได้นำนวัตกรรมเครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน ของ รองศาสตราจารย์ ดร.จักรมาส เลาหวณิช รองผู้จัดการ ศูนย์ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพรรณ ยั่งยืน มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม ที่ วช. และ กอ.รมน. ได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัย มาแก้ไขปัญหาเรื่องความชื้นของข้าวและเมล็ดพันธุ์เกษตร โดยได้มีการขยายผลไปในพื้นที่ดูแลของ กอ.รมน. แล้วใน 4 ภูมิภาค

สำหรับ เครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน เป็นนวัตกรรม เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการขึ้นบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย และได้รับการสนับสนุนโครงการส่งเสริมและสนับสนุนต่อยอดสิ่งประดิษฐ์ไทย ประจำปี 2559 ของ วช. ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าว ได้ถูกนำมาสาธิตการใช้เครื่องในกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเกษตรกร

เป็นอุปกรณ์ที่กำเนิดรังสีอินฟราเรดแบบใช้ก๊าซเชื้อเพลิงเผาในแผ่นเซรามิกร้อน และแผ่รังสีอินฟราเรดออกมา สวนแก๊สร้อนจากการเผาไหม้ จะถูกลมพัดเป่าไปด้านท้ายของถังอบ

เป็นลมร้อนสำหรับอบแห้งต่อเนื่องจากรังสีผลิต จุดเด่นของวิธีการอบแห้ง คือ การได้ผลการอบแห้งที่ดี ทั้งในด้านการใช้พลังงานและด้านคุณภาพของวัสดุ

โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรที่ผ่านการอบแห้งด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณภาพดีเทียบเคียงกับวิธีอื่น
นวัตกรรมเครื่องอบแห้งฯ สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานยังสถานที่ต่าง ๆ
มีความสามารถในการทำงานประมาณ 0.5-3 ตันวัตถุดิบต่อชั่วโมง (เปลือกไม้ยูคาลิปตัส ข้าวเปลือก เมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ) สามารถลดความชื้นได้ 4-6 เปอร์เซ็นต์ w.b. ในเวลา 3-5 นาที

นอกจากนั้นยังพบว่า วัสดุมีสภาพร่วนขึ้นไม่เกาะติดกัน ทำให้สามารถนำไปย่อย ลดขนาดได้ดีขึ้น ใช้เชื้อเพลิงก๊าซ LPG ประมาณ 1.2 กิโลกรัมต่อชั่วโมง กำเนิดรังสีอินฟราเรด และใช้กำลังไฟฟ้ารวมประมาณ 3,000 วัตต์ ด้านการใช้แรงงานในการควบคุมการทำงานของเครื่อง จะใช้แรงงานอยู่ที่ 1-2 คน จึงเป็นเครื่องอบแห้งที่ใช้พลังงานได้คุ้มค่า ประหยัดเชื้อเพลิง และค่าจ้างแรงงาน เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดย่อม กลุ่มเกษตรกรสามารถอบแห้งได้ทั้งวัสดุที่มีลักษณะเป็นผงก้อนเม็ด เมล็ดพืช ถือเป็นเครื่องมือทุ่นแรงที่เหมาะสำหรับกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ รมว.อว ยังรับชมการสาธิตการใช้งานนวัตกรรม “เครื่องอบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน” และพบปะผู้นำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร บ้านต้นยาง ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวทิพย์ช้าง บ้านจ๋ำ ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง และเกษตรกรที่รับมอบผลงานนวัตกรรมทางการเกษตรด้วย

อว. ดันวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านลำปางสู่สากล ผ่านวง “ซิมโฟนีออร์เคสตร้า” ต่อยอดสิ่งใหม่บนรากฐานสิ่งเก่า

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ชมการแสดงดนตรีเล่าร่องรอยประวัติศาสตร์จังหวัดลำปาง ถ่ายทอดเสียงเพลงพื้นบ้าน

ผ่านการแสดงของวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า ณ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จังหวัดลำปาง โดยมี นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, ดร.ขวัญนภา สุขคร ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง ลำปาง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมชมการแสดงฯ

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า การแสดงดนตรี ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จังหวัดลำปางในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยที่ วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัย

แม้การแสดงจะเป็นวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า ซึ่งใช้ท่วงทำนองแบบฝรั่ง แต่เพลงที่บรรเลงเป็นเพลงพื้นบ้านของจังหวัดลำปางส่วนใหญ่ ตนทราบข้อมูลมาว่า ลำปางมีเพลงพื้นบ้านมากที่สุดในประเทศ ที่คนไทยรู้จักมาก ๆ คือ เพลงลาวลำปาง และการที่นำเพลงพื้นบ้านมาร่วมบรรเลงในวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้านั้น จะทำให้ดนตรีไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากลง่ายขึ้น เรายังมีเพลงพื้นบ้านไทยอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นของทางภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ เราจะใช้วงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้าไปถอดเพลงพื้นบ้านและมาใส่สุ้มเสียง ท่วงทำนอง ที่คนทั่วโลกรับฟังได้ อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่คนไทยมีมาก และต่างชาติยังจัดให้ประเทศไทยมีมรดกทางวัฒนธรรมดีเป็นอันดับ 6 ของโลก และ อว. ก็จะขอร่วมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในการสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ต่อไป

ขณะที่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า การแสดงวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้านี้ เป็นผลงานการวิจัยใน “โครงการวิจัยพื้นที่ ทางวัฒนธรรมดนตรีเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์จินตนาการใหม่

โดยอาศัยร่องรอยวิถีชีวิตของชุมชนผ่านศิลปินในท้องถิ่นผู้สืบทอดวัฒนธรรมดนตรีของชุมชน” และ “โครงการขยายผลต่อยอดวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านเพื่อเผยแพร่ให้เป็นมรดกชาติ” ที่ วช. ได้สนับสนุน “มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข” ซึ่งดำเนินการโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข ในการวิจัยเพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยการค้นหาเพลงเก่าของชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาเรียบเรียงใหม่ พร้อมเล่นผ่านวงดนตรีซิมโฟนีออร์เคสตร้า เพื่อรักษาเพลงเก่า นำมาเสนอในรูปแบบใหม่ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเสริมสร้างสิ่งใหม่บนรากฐานสิ่งเก่า เพื่อรักษาเสถียรภาพและอัตลักษณ์ของสังคมไทยให้สืบทอดและคงอยู่ต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้มีการแสดงบรรเลงเพลงพื้นบ้านภาคกลางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การแสดงบรรเลงเพลงพื้นบ้านภาคใต้ที่จังหวัดกระบี่ และการแสดงบรรเลงเพลงพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดบุรีรัมย์

ด้าน รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า การแสดงดนตรีในครั้งนี้ ถือเป็นการปลุกจิตสำนึกให้คนได้ร่วมกันอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและยังถือเป็นการอนุรักษ์และต่อยอดพัฒนาดนตรีพื้นบ้านให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกผ่านวงซิมโฟนีออเคสต้า และที่สำคัญยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเสริมสร้างสิ่งใหม่บนรากฐานสิ่งเก่ารักษาเสถียรภาพและอัตลักษณ์ของสังคมไทยให้อยู่ให้อยู่สืบทอดต่อไป

รมว.ยุติธรรม ติดตามคดีรถหรู กำชับดีเอสไอเร่งทำให้เสร็จภายใน 6 เดือน

 ผิดว่ากันตามผิดไม่มีรังแกกัน ขอผู้ครอบครองรีบมาชี้แจง ให้กรมรายงานความคืบหน้าทุก 2 สัปดาห์ เผยสอบเสร็จส่งอัยการแล้ว 167 คดี มูลค่า 800 ล้านบาท
  • เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆและผู้บริหาร เข้าร่วมประชุม

นายสมศักดิ์ ได้ติดตามความคืบหน้าคดีรถหรู ที่ถือเป็นนโยบายหลักในการเร่งจัดการคดีให้เรียบร้อยหลังจากที่มอบหมายให้ นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 6 เดือน

โดยขอให้ดีเอสไอรายงานความคืบหน้าทุก 2 สัปดาห์ เผื่อกรณีมีปัญหาติดขัดอะไรจะได้เร่งแก้ไขโดยเร็ว คัดไหนผิดก็ยึดตกเป็นของหลวง 

  • ไม่มีการรังแกกัน ดังนั้นผู้ที่ครอบครองรถต้องรีบเข้ามาให้ปากคำมาให้ข้อมูล การเร่งคดีเพื่อให้จบกระบวนการทำงานของดีเอสไอ

ซึ่งความคืบหน้าคดีรถหรูล่าสุด กรมศุลกากรประเมินราคาและภาษีแล้ว 1,428 คัน ทางดีเอสไอได้มอบหมายผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษดำเนินการสอบสวนแล้ว 854 คดี พบผู้ต้องหาเป็นนิติบุคคล 113 ราย และเป็นบุคคลธรรมดา 1 ราย รวม 114 ราย และได้ตั้งเป็นคดีพิเศษ 207 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้ว 167 สำนวนคดี มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท สำนวนอยู่ระหว่างการสอบสวนคดีพิเศษ 40 คดี และสำนวนอยู่ระหว่างมอบหมายผู้รับผิดชอบ 367 คดี

วช. หนุน นักวิจัย มก. พัฒนาแบบจำลองฯ ประเมินการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง พื้นที่ภาคกลาง และ EEC

นักวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน โดยการสนับสนุนทุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประเมินสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง 64/65 ในพื้นที่ภาคกลาง และ EEC โดยใช้แบบจำลองน้ำฝน-น้ำท่า และการบริหารจัดการน้ำโดยระบบสารสนเทศต้นแบบ ร่วมกับผลการพยากรณ์ฝนล่วงหน้า 6 เดือน ชี้ปริมาณน้ำต้นทุนยังมีจำกัด การขาดแคลนน้ำพื้นที่ EEC ช่วงฤดูแล้งที่จะถึงนี้ มีโอกาสน้อย

แม้ว่าในช่วงเวลานี้พื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำบางแห่ง ยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น

แต่ขณะเดียวกันการวางแผนจัดสรรน้ำและการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งได้เริ่มขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 – 30 เม.ย. 2565 กรมชลประทานได้คาดการณ์แผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง 64/65 ให้สอดคล้องต่อปริมาณน้ำต้นทุน คำนึงถึงกิจกรรมการใช้น้ำทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ น้ำอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศ อุตสาหกรรม และการเกษตร กำหนดให้มีแผนการจัดสรรน้ำรวมทุกกิจกรรม ประมาณ 5,700 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลัก ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำใช้การ ณ วันที่ 1 พ.ย. 2564 อยู่ที่ 7,774 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมวางแผนผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำท่าจีน

ดร.จุติเทพ วงษ์เพ็ชร์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยถึง ผลการศึกษาภายใต้กิจกรรม CO-RUN แผนงานวิจัยเข็มมุ่งด้านการบริหารจัดการน้ำ ของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) 
  • ว่า การคาดการณ์ปริมาณน้ำท่าผิวดินที่เกิดขึ้นในพื้นที่ราบภาคกลาง ตั้งแต่ท้ายเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จนถึง จ. นครสวรรค์

บริเวณสถานีตรวจวัดน้ำท่า C.2 โดยใช้แบบจำลองน้ำฝน-น้ำท่าและการบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับผลการพยากรณ์ฝนล่วงหน้า 6 เดือนด้วยแบบจำลอง WRF-ROM (CFS2V) ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564-เม.ย. 2565 พบว่า ปริมาณฝนสะสมในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีค่าประมาณ 5-30 มม.เท่านั้น นอกจากนี้พบว่า ปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นบริเวณสถานีตรวจวัดน้ำท่า C.2 ในช่วงเดือน ธ.ค. 2564-เม.ย. 2565 มีปริมาณเพียง 610 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 11 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณความต้องการน้ำตามแผนการจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง โดยการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จะต้องอาศัยปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนข้างต้นเป็นหลัก และต้องควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการปลูกข้าวนาปรังช่วงฤดูแล้ง และช่วงต้นฤดูฝน (เดือน พ.ค. 65-ก.ค. 65) ตามที่กรมชลประทานได้คาดการณ์พื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตามแผนการจัดสรรน้ำ จำนวน 2.8 ล้านไร่ ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำประมาณ 1,970 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ของการใช้น้ำทั้งหมด เห็นได้ว่า ปริมาณน้ำต้นทุนยังมีอย่างจำกัด

นักวิจัย กล่าวต่อว่า จากผลการศึกษาด้านการบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ภายใต้แผนงานวิจัยเข็มมุ่งด้านการบริหารจัดการน้ำ ระยะที่ ๒ ขณะนี้กำลังดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศต้นแบบ

เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำในเขต EEC และภาคตะวันออก ซึ่งมีรูปแบบการเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายการผันน้ำ ทั้งในรูปแบบเรียลไทม์ และพยากรณ์ช่วงระยะเวลาต่าง ๆ โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ย. 64 ปริมาณน้ำใช้การในอ่างเก็บน้ำหลักในพื้นที่
จ. ระยอง และ จ.ชลบุรี มีปริมาณน้ำใช้การรวม 823 ล้านลูกบาศก์เมตร และกำหนดให้มีการจัดสรรน้ำสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ประมาณ 590 ล้านลูกบาศก์เมตรตามแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง โดยปริมาณฝนสะสมจากการพยากรณ์ล่วงหน้า 6 เดือน มีค่าประมาณ 80 มม. หรือคิดเป็นเพียง 22 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณฝนสะสมเฉลี่ยที่ช่วงระยะเวลาเดียวกัน จากการจำลองการบริหารจัดการน้ำโดยระบบสารสนเทศต้นแบบฯ จึงคาดการณ์ได้ว่า การขาดแคลนน้ำในพื้นที่ EEC ในช่วงฤดูแล้งที่จะถึงนี้ มีโอกาสน้อย เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างข้างต้นมีปริมาณค่อนข้างมาก สถานการณ์การใช้น้ำดังกล่าว ยังจำเป็นต้องมีการผันน้ำระหว่างอ่างเก็บน้ำร่วมอยู่ แต่เป็นเพียงการผันน้ำระหว่างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรีเป็นหลัก ระบบสารสนเทศต้นแบบฯ ดังกล่าว สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ

เพื่อเป็นแนวทางสนับสนุนในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขต EEC ได้ 

อลงกรณ์”ระดมทีมกรมชลประทานและจังหวัดเพชรบุรีเร่งรับมือสถานการณ์น้ำท่วม

“วันนี้(9พ.ย.)เวลา15.00น. นายอลงกรณ์ พลบุตร
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่โครงการชลประทานเขื่อนเพชรหลังจากฝนตกหนักที่เพชรบุรีเมื่อคืนที่ผ่านมาร่วมกับนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าเพชรบุรี นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี นายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี ตัวแทนเทศบาลเมืองเพชรบุรี รักษาการผอ.สำนักชลประทานที่14 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายอลงกรณ์กล่าวภายหลังการประชุมว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักเหนืออ่างเก็บน้ำและใต้อ่างเก็บน้ำทั้ง3แห่งคือแก่งกระจาน แม่ประจันต์และห้วยผากเมื่อวานนี้ทำให้มีมวลน้ำจากลุ่มน้ำทั้ง3ไหลลงมาที่เชี่ยนเพชรจำนวนมาก ที่ประชุมจึงกำหนดแผนการระบายน้ำในคลองชลประทานหลัก4สายและแม่น้ำเพชรบุรีอย่างเป็นระบบให้มีผลกระทบต่อประชาชนและขุมชน2ฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีน้อยที่สุดพร้อมกับแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำและในพื้นที่ลุ่มต่ำยกของขึ้นที่สูงระมัดระวังเรื่องไฟฟ้าและย้ายสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่ปลอดภัยพร้อมกับให้ท้องถิ่นเสริมแนวตลิ่งที่ต่ำป้องกันน้ำล้นฝั่ง ในส่วนกรมชลประทานได้ระดมเครื่องสูบน้ำเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องจักรกลช่วยเหลือจังหวัดเพชรบุรีอย่างเต็มที่ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯและนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน 


นอกจากนี้ยังได้ประสาน พลเรือเอก ดร.สมัย ใจอินทร์ ขอการสนับสนุนเครื่องดันน้ำจากกองทัพเรือซึ่งส่งมาช่วยเพชรบุรีทุกครั้งที่ประสบภัยน้ำท่วมและขอการสนับสนุนกำลังพลและเครื่องจักรกลจากพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศโดยเพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วมและช่วยระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ขุมชนเมืองและพื้นที่เกษตร
“น้ำท่วมครั้งนี้เป็นการท่วมแบบล้นตลิ่งและท่วมที่ลุ่มต่ำเฉพาะบางพื้นที่ในระยะสั้นไม่ได้ท่วมทั้งจังหวัดจึงไม่มีผลกระทบต่อการค้าธุรกิจ และการท่องเที่ยวในวงกว้างแต่อย่างใด ส่วนพื้นที่เกษตรที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการดูแลช่วยเหลือเยียวยาจากทางราชการโดยเร็วต่อไป”
นายอลงกรณ์ยังชี้แจงกรณีอ่างเก็บน้ำห้วยกวางโจนแตกว่า เป็นอ่างขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่ชายเขาตะวันตกในอำเภอหนองหญ้าปล้องความจุ1.5แสนคิวที่กรมชลประทานโอนให้ท้องถิ่นไปแล้วเกิดความเสียหายจากฝนที่ตกหนักมีน้ำท่วมหลายสิบหลังคาเรือนซึ่งทางจังหวัดได้เข้าไปช่วยเหลือในทันทีแล้ว

และสำนักงานชลประทานที่14ได้ส่งเครื่องจักรกลไปทำการซ่อมแซมตั้งแต่วันนี้”

ททท.กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยด้วยกิจกรรมLucky Travel Box “กล่องสุ่มท่องเที่ยว”


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)จัดกิจกรรม“Lucky Travel Box กล่องสุ่มท่องเที่ยว”กล่องแรกของประเทศไทย

เพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักรับโอกาสเปิดประเทศ และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวว่าโครงการนี้ ททท.จับมือกับBuzzebeesจัดทำvoucher 

สำหรับการท่องเที่ยวในราคาพิเศษที่ผู้สนใจสามารถซื้อ หรือแลกจากคะแนนสะสมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ Shopee, Lazada, Toyota Privilege Plus Application และ Thai Life Insurance Applicationโดย Voucher ของโครงการLucky Travel Box แบ่งออกเป็น 5 หมวดหรือ 5 กล่อง ได้แก่

  1. กล่อง Gastronomyตัวอย่าง Voucher อาทิเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์, ครัวเจ๊ง้อ , สามเสนวิลล่า, ร้านอาหารสีฟ้าเป็นต้น
  2. กล่อง Romanceตัวอย่างVoucherอาทิ โอเอซิสสปา, บัญดารา ออน ซี ระยอง , ริเวอร์แคว รีโซเทล , เบลล์ วิลล่า รีสอร์ท เขาใหญ่ เป็นต้น
  3. กล่อง Workation ตัวอย่าง Voucherอาทิ เดอะ เลเจ้นด์ เชียงราย รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมเขาหลักลากูน่า รีสอร์ท , โรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต , โรงแรม ยู เชียงใหม่เป็นต้น
  4. กล่อง Family ตัวอย่าง Voucherอาทิ โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน, โรงแรม อมารี หัวหิน , โรงแรมพูลแมน พัทยา จี , โรงแรมอนันตรา หัวหิน รีสอร์ท , ครอสทูริเวอร์แคว รีสอร์ตเป็นต้น
  5. กล่อง Luxury ตัวอย่าง Voucherอาทิ บลูโวยาจ, คามาลายา เกาะสมุย , ปานวิมาน เชียงใหม่ สปา รีสอร์ท , ศรีพันวา ภูเก็ต ลักชัวรี พูลวิลล่า โฮเทล , โรงแรมดุสิตธานี พัทยาเป็นต้น
    สำหรับผู้สนใจ Voucher ราคาพิเศษสามารถเลือกซื้อ หรือกดแลกคะแนนกล่องสุ่มที่สนใจจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ประกอบด้วย Shopee, Lazada, Toyota Privilege Plus Application และ Thai Life Insurance Application(จำกัด 1 กล่อง/ครั้ง/คน ตลอดระยะเวลาโครงการฯ)หลังจากกดซื้อหรือแลกคะแนนแล้วระบบจะส่ง Code สำหรับการจองผ่านช่องทาง SMSและสามารถใช้ voucher ได้ โดยการแจ้งCode เพื่อใช้สิทธิ์ได้ที่ email : thailandluckytravelboxcontact@gmail.com
    ทั้งนี้ Lucky Travel Boxกล่องสุ่มท่องเที่ยว จะเปิดให้ซื้อและกดแลกคะแนนได้ ตั้งแต่ วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป