กระทรวงเกษตรฯ.เคลียร์ทุกประเด็นโรค ASFในสุกร แจงสาเหตุหมูแพง ยืนยันป้องกันโรคตั้งแต่ปี2561 ไม่ปกปิดไม่ละเลย

เผยช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรแล้วกว่า3พันราย ผนึกทุกภาคีเครือข่ายร่วมควบคุมโรคให้สงบและขอคืนสภาพปลอดโรคโดยเร็ว

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่า ตามที่ประเทศไทยได้มีการตรวจพบเชื้อโรค ASF ในสุกรจากการเก็บตัวอย่างจากพื้นผิวสัมผัส (surface swab) ที่โรงฆ่าแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ตรวจโดยห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์เพื่อยืนยันผล ตนได้มีความห่วงใยต่อเรื่องนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ต้น และสั่งการด่วนให้กรมปศุสัตว์รีบดำเนินการทันที ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้เร่งดำเนินการเพื่อหารือและทำความเข้าใจร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมโรคให้สงบโดยเร็ว ได้ประชุมคณะทำงานด้านวิชาการในการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรค ASF ในสุกรและแถลงต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ซึ่งจะประกาศเขตโรคระบาดและมีการควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดที่พบโรค และรายงานแจ้งไปยังองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ต่อไป โดยการดำเนินการต่างๆ จะคำนึงถึงผลกระทบในทุกมิติอย่างรอบคอบ เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด วอนเกษตรกรอย่าตระหนก โรค ASF เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ย้ำไม่ระบาดติดต่อสู่คน
กรมปศุสัตว์ย้ำ ไม่เคยปกปิดโรค ASF ในสุกร ได้ดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคมาตั้งแต่ปี 2561 ที่พบการระบาดเกิดโรค ASF ในสุกรครั้งแรกในประเทศจีน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการเตรียมความพร้อมรับมือต่อโรคมาโดยตลอด
โดยสั่งการในปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรค การซ้อมแผนเตรียมความพร้อมรับมือ จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค ASF ในสุกร (contingency plan) และแนวทางเวชปฏิบัติของโรค ASF ในสุกร (Clinical Practice Guideline) และได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของกรมปศุสัตว์ การบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจเข้มนักท่องเที่ยวและเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคเข้าประเทศ เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการส่งออก ลดความเสี่ยงจาการส่งออกสุกร โดยห้ามรถขนส่งสุกรมีชีวิตเข้าไปส่งสุกรในประเทศที่มีการระบาด ให้ใช้รถขนถ่ายข้ามแดนในการส่งสุกรไปยังประเทศปลายทางแทน และต้องมีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

เผยช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรแล้วกว่า3พันราย ผนึกทุกภาคีเครือข่ายร่วมควบคุมโรคให้สงบและขอคืนสภาพปลอดโรคโดยเร็ว

การบูรณาการความร่วมมือร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ในการจัดประชุมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน (ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม) ในการป้องกันโรค การทำงานบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน ในการจัดตั้งโรงพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด 5 จุด ที่ด่านกักกันสัตว์เชียงราย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และสระแก้ว การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ โดยได้จัดทำเป็นภาษาต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาลาว ภาษาพม่า ภาษาเขมร เป็นต้น
การสุ่มเก็บตัวอย่างและส่งวิเคราะห์ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติเพื่อเฝ้าระวังโรค ซึ่งผลวิเคราะห์จากการเก็บตัวอย่างตอนนั้นเป็นลบต่อโรค ASF ในสุกรทั้งหมด แต่ให้ผลบวกต่อโรคชนิดอื่นๆ เช่น โรคกลุ่มอาการระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในสุกร (PRRS) โรคท้องร่วงระบาดในสุกร (PED) โรคอหิวาต์สุกร (CSF) และโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) เป็นต้น
สำหรับ ประเด็นเงินชดเชย เนื่องจากโรคนี้ไม่มีวัคซีนและยารักษาจำเพาะ หากพบการระบาดของโรคในประเทศแล้วจะกำจัดโรคได้ยากก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคมาโดยตลอด ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่ดำเนินการคือการลดความเสี่ยงโดยการทำลายสุกรที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อป้องกันการเกิดโรค อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 พร้อมชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายเพื่อป้องกันโรค ที่ผ่านมาได้ดำเนินการขออนุมัติจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยได้ดำเนินการชดเชยค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง รวมเกษตรกรทั้งสิ้น 3,239 ราย สุกรจำนวน 112,752 ตัว เป็นเงิน 470,426,009 บาท
และในปี 2565 กรมปศุสัตว์ได้ขออนุมัติงบประมาณในส่วนดังกล่าวแก่เกษตรกรจำนวน 4,941 ราย สุกรจำนวน 159,453 ตัว เป็นเงิน 574,111,262.5 บาท เพื่อเป็นค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติแล้ว จะเร่งเยียวยาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยเร็วต่อไป

กรณี ปัญหาราคาเนื้อสุกรแพง มาจากหลายปัจจัย สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาเนื้อสุกรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณสุกรมีชีวิตที่ถูกแปรสภาพเป็นเนื้อสุกรลดลง ประกอบกับภาวะต้นทุนการผลิตสุกรขุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการจัดทำระบบป้องกันภัยทางชีวภาพของฟาร์มสุกร และต้นทุนด้านการขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ผลผลิตสุกรลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพในฟาร์มสุกรของไทยเพิ่มขึ้น ในรอบปี 2564 พบการระบาดของโรคกลุ่มอาการระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในสุกร (PRRS) โรคท้องร่วงระบาดในสุกร (PED) โรคอหิวาต์สุกร (CSF) เกษตรกรต้องลดความหนาแน่นของสุกรในฟาร์ม และเลิกเลี้ยงสุกรในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงด้านสุขภาพ โดยได้มีมาตรการให้การแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว โดยมาตรการระยะเร่งด่วนกระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ประกาศห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 เดือน (6 มกราคม-5 เมษายน 2565) ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น และเร่งสำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน มาตรการระยะสั้น มีการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ

ขยายกำลังการผลิตแม่สุกร เร่งศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด สำหรับมาตรการระยะยาวคือ การผลักดันยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด (Good Farming Management : GFM) ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มมีระบบการป้องกันโรคและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค และจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. โครงการสานฝันสร้างอาชีพ โดยคาดว่าสถานการณ์ราคาสุกรจะเข้าสู่ภาวะปกติแบบค่อยเป็นค่อยเป็น
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำงานเชิงรุกป้องกันโรคในระยะยาว กรมปศุสัตว์ได้มีคำสั่งกรมปศุสัตว์ แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมงานวิจัยโรค ASF ในสุกร ประกอบด้วย หน่วยงานจากภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม และอาจารย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิจัยการป้องกันและควบคุมโรค ASF ในสุกรในอนาคต ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาและพัฒนาวัคซีนโรค ASF ในสุกรโดยเร็วและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด และพิจารณาเรื่องการศึกษาและวิจัยโรค ASF ในสุกรอีกด้วย ซึ่งวัคซีนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในการควบคุมโรคเท่านั้น แต่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมโรค การป้องกันโรคโดยการเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องระบบความปลอดภัยทางชีวภาพของฟาร์มเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคขึ้นภายในฟาร์มเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

สำหรับกรณี การขอคืนสถานภาพปลอดโรค ASF ในสุกรตามที่องค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ได้กำหนดใน Terrestrial Animal Health Code (CHAPTER 15.1. INFECTION WITH AFRICAN SWINE FEVER VIRUS) สามารถขอคืนได้ในรูปแบบ country free, zone free หรือ compartment free โดยต้องทำตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของ OIE โดยต้องมีการเฝ้าระวังโรคเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสุกรป่วยที่ติดเชื้อไวรัส ASF ในสุกรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สิกับมีการการทนค้าสุกรที่ถูกนำเข้ามาเป็นไปตามข้อกำหนดของ OIE ต้องมีหลักฐานแสดงว่าไม่มีการปรากฏของเห็บ (Ornithodoros ticks) เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ มีหลักฐานการฆ่าเชื้อเกิดขึ้นในโรงเรือนที่ติดเชื้อหลังสุดท้ายและร่วมำลายสุกร และใช้สุกรสำหรับการเฝ้าระวังโรค (sentinel pigs) ในโรงเรือน โดยผลที่ได้ต้องเป็นลบต่อเชื้อ ASF ในสุกร
ท้ายสุดนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์โดยเคร่งครัด เพื่อควบคุมโรคให้สงบได้โดยเร็ว หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัย หรือพบสุกรป่วยตายผิดปกติ หรือสัตว์ป่วยตายผิดปกติ หรือต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์

เขาค้อรุ่ง ! วช.ดันวิจัยสู่ SMEs ผุดผลิตภัณฑ์จากขิง บุกตลาดสุขภาพ

วช. ลงพื้นที่ บจก.สุธัมบดี อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สนับสนุนนักวิจัย มทร.ล้านนา พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากขิง เป็นของดีเมืองเพชรบูรณ์ ตอบโจทย์ตลาดคนรักสุขภาพ และผู้บริโภคทั่วไป พร้อมเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ กระตุ้นเกษตรกรรมในพื้นที่

วันนี้ (11 มกราคม 2565) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักประสานงานชุดโครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House ลงพื้นที่ บริษัท สุธัมบดี จำกัด อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สนับสนุนงานวิจัย ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 2 โครงการ เพื่อนำองค์ความรู้งานวิจัยมายกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้เติบโตในเชิงอุตสาหกรรม เกิดผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าทางการเกษตรของ อ.เขาค้อ ให้เกิดความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ในพื้นที่

ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักประสานงานชุดโครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House วช. กล่าวว่า ผลงานวิจัยภายใต้การสนับสนุนจาก วช.,สวทช.และ สกสว. ล้วนมีการนำไปต่อยอดแล้วในระดับอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ (SMEs) เกิดผลพวงหลายอย่าง อาทิ ด้านการจัดการปัญหาและเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรที่พ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวหรือมีราคาต่ำ โดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสปาร์คกิ้งจากต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการผลิตเอง ด้านสาธารณสุขในการลดหรือชะลอปัญหาการเกิดโรคต่าง ๆ จากการบริโภคอาหาร เป็นต้น จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่งานวิจัยได้มีส่วนช่วยต่อการพัฒนา

นายยงชาติ ชมดี ผู้บริหารบริษัท สุธัมบดี จำกัด ภายใต้แบรนด์ เขาค้อเฮอร์เบอรี Khaokhoherbary เปิดเผยว่า บริษัทฯใช้แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมองหาผลิตผลใกล้ตัวในท้องถิ่นมาแปรรูปสร้างมูลค่าโดยเล็งเห็นว่า “ขิง”ซึ่งเป็นของดีในอำเภอเขาค้อ ยังไม่มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่อย่างจริงจัง จึงได้ร่วมมือกับนักวิจัย 2 ท่าน เพื่อพัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพชนิดสปาร์คกิ้งจากขิงออร์แกนิคด้วยเทคนิคการสกัดและการหมัก และผลิตภัณฑ์สเปรดช็อกโกแลตรสขิงลดไขมัน ซึ่งทางบริษัทมีความทักษะความรู้ด้านโรงงานผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ มาตรฐาน GMP อยู่แล้ว เมื่อได้องค์ความรู้ทางการวิจัยมาช่วยสนับสนุน เชื่อว่าจะสามารถขยายไปถึงการส่งออก อัพเกรดสินค้าให้มีความพรีเมียม สามารถผลักดันเป็นสินค้าทางเลือกสู่มือผู้บริโภคได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งช่วยชูโรงเป็นของฝากส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ส่วนหนึ่ง

ด้าน ผศ.ดร.นิอร โฉมศรี จากสถาบันเทคโนโลยีเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เจ้าของโครงการการพัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพชนิดสปาร์คกิ้งจากขิงออร์แกนิคด้วยเทคนิคการสกัดและการหมัก เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการผลิตเครื่องดื่มประเภทนี้ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งใช้การอัด Co2 เข้าไป แต่เครื่องดื่มที่ทีมวิจัยพัฒนาสูตรให้ผู้ประกอบการจะใช้กระบวนการหมักยีสต์(จุลินทรีย์ที่ดี)กับขิง น้ำเปล่าและน้ำตาล เป็นเวลา 15 ชั่วโมง ในอุณหภูมิปกติ จนเกิดฟองแก๊สโดยธรรมชาติ มีกลิ่มหอม รสสัมผัสนุ่มละมุน ให้ความสดชื่นและดื่มง่ายมากกว่าเครื่องดื่มจากขิงประเภทอื่น ๆ อย่างชัดเจน ขณะนี้ได้ทดลองบรรจุแบบขวดพาสเจอร์ไรซ์ ให้สามารถเก็บได้อุณหภูมิปกติ พร้อมศึกษาอายุการเก็บรักษาและคุณค่าทางอาหาร ซึ่งขิงมีสรรพคุณช่วยขับลม บรรเทาอาการวิงเวียน อยู่แล้วจากการอ้างอิงของงานวิจัยต่าง ๆ โดยจะสนับสนุนการควบคุมการผลิตของ SMEs ให้มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุก ๆ ล็อต

นอกจากนี้ ผศ.เฉลิมพล ถนอมวงค์ จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เจ้าของโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรดช็อกโกแลตรสขิงลดไขมัน” เล่าว่า วิถีชีวิตของคนไทยที่เร่งรีบ และกระแสความนิยมทานขนมปังคู่กับผลิตภัณฑ์ประเภทสเปรดแบบชาวตะวันตกในท้องตลาดทั่วไป ประกอบด้วยไขมันและน้ำตาลสูง ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังคงสนใจบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าเดิม สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจ ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นักวิจัยและบริษัท สุธัมบดี จำกัด จึงพัฒนาสูตรอาหารสเปรดช็อกโกแลตไขมันต่ำโดยเสริมขิงผง และข้าวหอมมะลิแดงเข้าไป เบื้องต้นสามารถลดองค์ประกอบของไขมันลงไปได้ร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับสเปรดช็อกโกแลตอื่น ๆในท้องตลาด ได้กลิ่นและรสชาติจากขิงที่ลงตัว วิธีการผลิตคล้ายกับการผลิตแยมผลไม้ทั่ว ๆ ไป แต่ใช้ต้นทุนต่ำกว่า สามารถรับประทานได้ทุกช่วงวัย ในขั้นต่อไปจะทดสอบสูตรให้ถูกใจผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อที่ SMEsจะได้ผลิตให้ได้มาตรฐานต่อไป

สำหรับทั้ง 2 โครงการที่ วช.ได้ลงพื้นที่ในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้โครงการการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง (ระยะที่ ๓) โดยความร่วมมือของ วช. , สวทช. , สกสว. และผู้ประกอบการ SMEs บจก. สุธัมบดี ร่วมกันสนับสนุนและบริหารทุนวิจัย

นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชน มอบกระเช้าอวยพรปีใหม่ แด่เจ้าหน้าที่

นายกิตติพันธ์ ขันติศีลชัย นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชน ดิจิทัล มอบกระเช้าอวยพรปีใหม่ แด่เจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตวังทองหลาง, และกรมการปกครอง

อลงกรณ์นำทีมส.ส.ปชป.และดร.เอ้ สุชัชวีร์ลุยเลือกตั้งซ่อมเขต6สงขลา

อลงกรณ์นำทีมส.ส.ปชป.และดร.เอ้ สุชัชวีร์ลุยเลือกตั้งซ่อมเขต6สงขลา แฟนคลับประชาธิปัตย์กว่าครึ่งหมื่นเชียร์สนั่นเวทีปราศรัย เน้นนโยบายปั้นสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้เชื่อมมาเลฯ.พร้อมพัฒนาสนามบินหาดใหญ่เป็นฮับการบินนานาชาติ ชู”สุภาพร”เข้าวินส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา
โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งซ่อมเขต6 จังหวัดสงขลาเป็นไปอย่างเข้มข้น
ล่าสุด นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม.และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พล.ต.ต สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา และสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรัฐมนตรียุติธรรมและส.ส.อุบลราชธานี ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีตส.ส.สงขลาได้ลงหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านช่วยนางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์เบอร์1 เขต6สงขลา ปรากฎว่าได้รับการต้อนรับเกินคาดโดยในช่วงเย็นวานนี้มีการปราศรัยที่วัดเทพชุมนุมในเขตเทศบาลเมืองบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลามจนเก้าอี้ที่ทีมงานหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เตรียมไว้5พันตัวไม่พอต้องยืนล้นออกมานอกถนนบรรยากาศเป็นไปด้วยความความคึกคักมีเสียงเชียร์กระหึ่มเป็นระยะๆโดยนายอลงกรณ์ได้ปราศรัยเปิดเวทีชี้แจงถึงนโยบายและวิสัยทัศน์ใหม่ๆของพรรคประชาธิปัตย์ในการพัฒนาจังหวัดสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าธุรกิจของระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้”ลิมอดาซาร์”เชื่อมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมการลงทุนและโลจิสติกส์ระหว่าง5รัฐภาคเหนือมาเลเซีย(กลันตัน เคดาห์ เปรัค ปะลิสและปีนัง)กับ5จังหวัดชายแดนใต้(กลุ่มจังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี นราธิวาสและยะลา)ตามนโยบายเปลี่ยนบังเกอร์เป็นเคาเตอร์

การยกระดับสนามบินหาดใหญ่เป็นฮับการบินนานาชาติเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวการค้าและธุรกิจ รวมทั้งการพัฒนาสะเดา-ปาดังเบซาร์เป็นเมืองท่าหน้าด่านแบบสมาร์ทซิตี้ที่ทันสมัยรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดน รวมทั้งการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลในจังหวัดชายแดนใต้เพื่อเป็นฐานการแปรรูปสินค้าเกษตรมาตรฐานฮาลาลซึ่งมีมูลค่าตลาดโลก48ล้านล้านบาทมีกลุ่มเป้าหมายกว่า2พันล้านคนจะสามารถสร้างงานสร้างอาขีพและขยายการค้าใหม่ๆได้อีกมาก
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะร่วมสร้างจุดเปลี่ยนสงขลาและภาคใต้สู่อนาคตที่ดีกว่าเป็นอนาคตที่เราออกแบบได้สร้างได้ด้วยแนวทางถอดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่ จะคิดจะทำแบบเดิมๆไม่ได้
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ย้ำว่าประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์ทันสมัยภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเลขาธิการพรรค ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนสามารถขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้พืชเศรษฐกิจ5ชนิดได้แก่ยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วและช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร8ล้านครัวเรือนๆละ1.5หมื่นบาทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19อย่างฉับไวจนไม่มีคำปรามาสในอดีตที่ว่าประชาธิปัตย์ดีแต่พูดหรือเชื่องช้า และยังเป็นหลักของรัฐบาลในการสร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศกว่า8.8ล้านล้านบาทจากการส่งออกที่เติบโต16%เกินเป้าหมายที่รัฐบาลเคยกำหนดไว้ที่4%ถึง4เท่าตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ30ปีและยังผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนซึ่งมีความสำคัญต่อจังหวัดสงขลาโดยข้อมูล9เดือน ม.ค.-ก.ย.2564 สามารถส่งออกได้ถึง 778,367 ล้านบาท ขยายตัว 38.06% แม้จะเผขิญกับวิกกฤติการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกโดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นแชมป์การส่งออกจนผลโพลของประชาชนยกให้รัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีผลงานเป็นที่ชื่นชอบอันดับ1ของประเทศซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนการทำงานยุคใหม่ทำได้ไวทำได้จริงเราทำได้ของพรรคประชาธิปัตย์

นายอลงกรณ์ยังขอโอกาสให้กับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคที่คนใต้และชาวสงขลาสนับสนุนมาโดยตลอดและหากมีความผิดพลาดพลั้งไปในอดีตก็ขอโอกาสใหม่โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์ทันสมัยกำลังสร้างจุดเปลี่ยนทางด้านการบริหารและการพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ก้าวหน้าทันสมัยและเปิดพรรคกว้างสร้างคนใหม่ที่มีอุดมการณ์มีศักยภาพเข้ามารับใช้ประเทศชาติเช่น ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นักบริหารมากความสามารถ วิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นหนึ่งในผู้นำรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย พรรคอนุมัติให้เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม. ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้คนใหม่ แม้จะเป็นส.ส.สมัยแรกแต่อยู่กับพรรคมาถึง15ปีเป็นนักบริหารนักพัฒนาเคยเป็นอดีตนายกอบจ.สงขลา2สมัยมีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าก็ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่พรรคเมื่อเดือนที่แล้วเป็นแม่ทัพใต้ คนเก่งคนดีมีความสามารถไม่ต้องรอคิวรอพรรษา ล่าสุดคืออจ.เมธี ลาบานูน ศิลปินล้านตลับ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.นราธิวาส และนางสาวสุภาพร กำเนิดผล เป็นผู้หญิงเก่งและแกร่งที่พรรคคัดเลือกให้ลงสมัครครั้งนี้ตามนโยบายการสนับสนุนส่งเสริมบทบาทสตรีในทางการเมือง คุณสุภาพรหรือน้ำหอมเป็นอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเป็นคนรุ่นใหม่ใกล้ชิดประชาชนรู้ปัญหาพื้นที่ทำงานไวไม่ใช่คนพูดเก่งแต่พูดดีใช้โซเชียลมีเดียสื่อสารการขับเคลื่อนนโยบายและวิสัยทัศน์การพัฒนาสงขลา6ด้านอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมเป็นผู้หญิงพลังบวกจึงขอโอกาสจากชาวสงขลาเขต6เลือกเป็นส.ส.และจะเป็นประวัติศาสตร์ของสงขลาที่จะมีส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัด

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด ได้จัดงาน “มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง”

ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากภาคกลาง ตามแผนงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565 ในระหว่างวันที่ 6 – 10 มกราคม 2565

   วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565 ที่ บริเวณ ชั้น G โซนร้านทอง ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี โดยการนำนายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐมในนามสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี,สมุทรปราการ, นนทบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, สระบุรี, อ่างทอง, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกันจัดงาน “มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง” 

ซึ่งทางด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด จัดงาน “มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากภาคกลาง ตามแผนงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565
ในระหว่างวันที่ 6 – 10 มกราคม 2565 ณ ชั้น G โซนร้านทอง ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี
โดยมีวัตถุประสงค์
1.เพื่อสร้างโอกาส และเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัย/
เกษตรอินทรีย์/เกษตรแปรรูป/สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ชุมชน
ของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง
2.เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง
3.เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าที่มีศักยภาพและได้มาตรฐานของกลุ่มจังหวัด ภาคกลางให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการเกษตรปลอดภัย/เกษตรอินทรีย์/เกษตรแปรรูป/สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ SME กลุ่มเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และผลิตภัณฑ์ชุมชน
ของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง
กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย
1.การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์เด่น จำนวน 60 คูหา โดยกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ประเภทอาหาร เครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก
จากจังหวัดกลุ่มภาคกลาง 17 จังหวัด
2.กิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่กิจกรรมนาทีทอง จับฉลากลุ้นรับรางวัลทุกวัน
3.กิจกรรมการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน อาทิ เอิ้นขวัญ วรัญญา, เต๋า ภูศิลป์, ตรี ชัยณรงค์ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์วิถีของดีกลุ่มภาคกลาง
4.การจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Online สอดคล้องกับการค้าในยุคดิจิทัล รวมถึงการไลฟ์สดช่วยให้ผู้ประกอบการ ได้มียอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น
5.กิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้าทั้งในรูปแบบ Online และ Offline เพื่อเป็น การสร้างโอกาสขยายช่องทางตลาดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (Covid-19)

ในการจัดงานฯ ดังกล่าว ได้ดำเนินการแบบ New normal ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) อย่างเคร่งครัด และได้รับความอนุเคราะห์ให้ใช้สถานที่ในการจัดงานจากศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จังหวัดปทุมธานี
โดยทางด้านท่านบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวเปิดงาน
“มนต์เสน่ห์วิถี สุดยอดสินค้าดีภาคกลาง”ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากภาคกลาง ตามแผนงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ปี พ.ศ. 2565 กลุ่มจังหวัดภาคกลาง ทั้ง 17 จังหวัด เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมีความหลากหลาย ทั้งในด้านสินค้าเกษตร/ เกษตรปลอดภัย/เกษตรอินทรีย์/เกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ชุมชน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการส่งเสริมช่องทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงอัตลักษณ์และคุณภาพของสินค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางอย่างแพร่หลาย และเพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์วิถีชุมชนกลุ่มจังหวัดภาคกลางให้สามารถแข่งขันได้ อันจะเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าของกลุ่มจังหวัดภาคกลางทั้ง 17 จังหวัด ตามนโยบายด้านการพัฒนาศักยภาพทางการตลาด ของท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

เปิดแล้ว!! “ป่าช้าคาเฟ่” สำหรับคนที่ชอบคาเฟ่บรรยากาศหลอนๆ

เกิดจากความต้องการของชาวบ้านที่จะเปลี่ยนพื้นที่รกชัฏน่ากลัวบริเวณหน้าวัดเสาธงทอง ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ให้เป็นพื้นที่สวยงามด้วยการปลูกดอกไม้ทำการค้าขายเป็นร้านกาแฟที่มีจุดให้ถ่ายรูปเช็คอินสำหรับนักเดิน..ทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ พ่อค้าแม่ค้าจะแต่งเป็นผี คอยให้บริการ..ใครที่ผ่านมาแถวๆวัดเสาธงทอง จ.เพชรบูรณ์ หากชื่นชอบบรรยากาศหลอนๆนั่งจิบกาแฟแล้วปลงสังขารเจริญมรณานุสติไปด้วย ลองแวะดู..บรื๋อส์!!!

เดินทางมาสักการะสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ “ณ วัดช้างเผือก”

เดินทางมาสักการะสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของพระครูวิชิต พัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ บรรจุในโลงแก้ว ณ วัดช้างเผือก บ้านยางหัวลม ต.วังชมภู อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์

ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิต แก่กล้าเหนือธรรมชาติ เชื่อกันว่าท่านได้บรรลุธรรมชั้นสูง จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ตามประวัติ เล่าว่า หลวงพ่อทบได้ศึกษาวิชาอาคมมาจากเขมร จนเป็นที่เลื่องลือทางด้านเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชื่อเสียงในด้านแคล้วคลาดจากภยันตราย อยู่ยงคงกะพัน

นอกจากนี้ภายใน วัดยังมีซากโบสถ์เก่าสมัยอยุธยา อายุกว่า 300 ปี และพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อทบแสดงเรื่องราวประวัติของท่านอีกด้วย

“ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ”เปิดให้เยี่ยมชมและศึกษาความเป็นมาในอดีต

เยี่ยมชมและศึกษาความเป็นมาในอดีต ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อำเภอศรีเทพ ซึ่งเป็น โบราณสถานสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ สร้างขึ้นในยุคของขอมเรืองอำนาจ เดิมมีชื่อว่า “เมืองอภัยสาลี” ถูกค้นพบเมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จไปตรวจราชการมณฑล เพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2447 และได้ทรงเรียกเมืองนี้ว่า “เมืองศรีเทพ” คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่เศษ มีกำแพงเมืองที่ก่อด้วยดินล้อมรอบ และมีคูเมือง นอกกำแพง มีประตูเมืองทั้งสี่ทิศ

ภายในเมืองมีปรางค์สมัยลพบุรี 2 องค์ เรียกว่า ปรางค์องค์พี่ และปรางค์องค์น้อง ทางทิศเหนือนอกกำแพงเมืองมีสระน้ำสองแห่ง ชื่อสระแก้ว และสระขวัญ ในสมัยก่อนเมืองศรีเทพต้องส่งส่วยน้ำจากสระทั้งสองนี้ เพื่อนำไปทำน้ำพิพัฒน์สัตยา เพราะ ถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพยังได้รับรางวัล Thailand Tourism Award ประจำปี 2543 จำนวน 2 รางวัล คือ รางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโบราณสถานยอดเยี่ยม และรางวัลสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านอินเตอร์เน็ตดีเด่น

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ “ออนไลน์” สุดพิเศษ! ร่วมเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ “ออนไลน์” สุดพิเศษ ! เฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ ให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกโพสต์ภาพในวัยเด็กสุดคิวท์ พร้อมคำขวัญวันเด็กที่ประทับใจ ซึ่งเป็นคำขวัญที่คุณคิดเองหรือจากบุคคลที่มีชื่อเสียงใครก็ได้ ลุ้นรับ “จักรยานแอลเอไบซิเคิล รุ่น อี-สปอร์ตี้ 20” จำนวน 11 รางวัล ฟรี !!!!!

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ตามสถานการณ์ปกติเมื่อถึงช่วงวันเด็กแห่งชาติในแต่ละปี บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งมอบความสุข และสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ และผู้โดยสารมาโดยตลอด ทว่าในปีนี้ด้วยสถานการณ์การแพร่ระระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน บริษัทจึงได้ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมการตลาดจากเดิมที่เป็นการจัดกิจกรรมแบบออฟไลน์ เป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ “ออนไลน์” แทน ด้วยการให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกโพสต์ภาพวัยเด็กของตัวเอง พร้อมคำขวัญวันเด็กสุดประทับใจ โดยเป็นคำขวัญที่คุณคิดเองหรือจากบุคคลที่มีชื่อเสียงใครก็ได้ ในโพสต์กิจกรรม ซึ่งจะลงในวันที่ 8 มกราคม 2565 ทางเฟสบุค Airport Rail Link ( เฟซบุ๊กเพจปัจจุบันของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ) ซึ่งภาพ และคำขวัญที่ได้รับการโหวตจากคณะกรรมการมากที่สุด จะได้รับรางวัลจักรยานแอลเอไบซิเคิล รุ่น อี-สปอร์ตี้ 20 จำนวน 11 รางวัล โดยรางวัลจะจัดส่งถึงบ้าน ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ 1 บัญชีเฟสบุคแอคเคาท์สามารถร่วมสนุกได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้น และการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

สำหรับการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล บริษัทจะทำการประกาศผ่านเฟซบุ๊กออฟฟิเชียลเพจของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเพจใหม่ Red Line BKK ในวันที่ 15 มกราคม 2565

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

องค์การสวนสัตว์ ฯ วางเป้าหมายให้สวนสัตว์เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้เด็กและเยาวชนของชาติ

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) วางเป้าหมายให้สวนสัตว์เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ หวังเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้เด็กและเยาวชน ให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดให้บริการสวนสัตว์ตามปกติ โดยมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA Plus) ทุกสวนสัตว์ปลอดภัย สัมผัสความร่มรื่น ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทเป็นธรรมชาติ

(วันนี้ 5 ม.ค 2565) นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ยกระดับมาตรฐานการให้บริการสวนสัตว์ในสังกัด ด้วยการกำหนดหมุดหมายให้สวนสัตว์เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับเด็กและเยาวชน ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA Plus) และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของรัฐ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย จึงของดจัดกิจกรรมวันเด็กในสวนสัตว์ แต่จะยังคงเปิดให้บริการสวนสัตว์ทั้ง 6 แห่งและโครงการ คชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้เด็กๆและเยาวชนรวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไป เข้ามาเที่ยวชมได้ตามปกติ โดยในวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เด็กๆ จะได้เข้าชมสวนสัตว์ฟรี (เฉพาะเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร) และสวนสัตว์แต่ละแห่ง ได้จัดเตรียมกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับเด็กและเยาวชน อาทิ
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว พบกับการป้อนอาหารสัตว์ ชมส่วนแสดงละมั่ง ลีเมอร์ และรับชมการ Live สด เสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดทั้งวัน

สวนสัตว์เชียงใหม่ พบกับการชุมนุมเหล่าบรรดาลูกสัตว์หรรษา อาทิ นกมาคอว์ ลูกหมูจิ๋ว กระต่าย ลูกแพะ และลูกสัตว์ป่านานาชนิด
สวนสัตว์นครราชสีมา พบกับแลนมาร์คใหม่ดินแดนไดโนเสาร์ และการเปิดตัวกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก
สวนสัตว์สงขลา ชมการแสดงความสามารถสัตว์นานาชนิด และองค์ความรู้ด้านสัตว์ป่า
สวนสัตว์อุบลราชธานี ชมการให้อาหารสัตว์แบบใกล้ชิด และร่วมอุปถัมภ์สัตว์ป่ารับของที่ระลึก
สวนสัตว์ขอนแก่น ชมสัตว์ผจญภัยในดินแดนแห่งสัตว์ป่า และสุดหรรษากับบรรดาเหล่ามาสคอตแสนน่ารัก
“องค์การสวนสัตว์ฯ คาดหมายว่าในปี 2565 เป็นต้นไป เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ จะมาเที่ยวชมสวนสัตว์กันมากขึ้น เพราะสวนสัตว์ถือเป็นศูนย์รวมความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ ยังได้สร้างการมีส่วนร่วมโดยการเปิดให้ร่วมบริจาคโครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่าภายในสวนสัตว์ทุกแห่ง และแจ้งไปยังนักท่องเที่ยวทุกท่าน ที่จะพาบุตรหลานมาเที่ยวชมสวนสัตว์ ขอให้มั่นใจในด้านความปลอดภัย เพราะสวนสัตว์ทุกแห่งได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าว

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว : โทร. 096-9742546, 038-318444 หรือ FB สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
สวนสัตว์เชียงใหม่ : โทร.053 221 179 หรือ FB สวนสัตว์เชียงใหม่ Chiang Mai Zoo
สวนสัตว์นครราชสีมา : โทร. 044-934537-8 / 083-3720404 หรือ FB สวนสัตว์นครราชสีมา KORAT ZOO
สวนสัตว์สงขลา : โทร. 074 598 555 หรือ FB สวนสัตว์สงขลา Songkhla zoo
สวนสัตว์อุบลราชธานี : โทร. 093 320 9369 หรือ FB สวนสัตว์อุบลราชธานี ubon zoo
สวนสัตว์ขอนแก่น : โทร. 086 459 4192 หรือ Facebook สวนสัตว์ขอนแก่น khonkaen zoo
โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ : โทร. 092-3284907 , 065-7326690 หรือ FB โครงการ คชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ Elephant Kingdom Surin by ZPOT